แฟน(ลับ)ไอดอล -1-

1393 Words
เรื่อง แฟน(ลับ)ไอดอล สมาชิกวง Este แทซัน หนุ่มหล่อเงียบขรึม หวงลู่ หนุ่มหล่อที่มีใบหน้านิ่งๆ ยองวอน หนุ่มหน้าหวานจิตใจดี บาร์รอน หนุ่มนักรัก ขี้เล่นแพรวพราว อีคอน หนุ่มหล่อรักสนุก พวกเขาเป็นที่นิยมมากและกำลังดังเป็นพลุแตก แต่กลับแยกวง เนื่องด้วยเหตุผลบางประการที่ไม่ได้ออกมาเปิดเผย แต่นั่นไม่ได้ให้ทำให้ความนิยมของพวกเขาลดลงเลย กลับยิ่งดังมากขึ้น เพราะบางคนผันตัวไปเป็นนายแบบ นักแสดงมืออาชีพ ศิลปินเดี่ยว โปรดิวเซอร์ ทำให้คนรู้จักมากขึ้นเป็นวงกว้าง หวงลู่ หนุ่มหล่อที่มีใบหน้าเรียบนิ่ง หลังจากแยกวงเขาก็กลับไปทำงานที่ประเทศตัวเอง เอาดีด้านการแสดง แต่ก็ไม่ลืมความเป็นนักร้องของตัวเอง ด้วยความเป็นคนมีความสามารถและหน้าตาดีมาก ทำให้ขาดังเป็นพลุแตก งานหลั่งไหลเข้ามาจนล้นมือ แทบไม่มีเวลาพัก แก้มใส สาวน้อยน่ารัก ยิ้มหวาน ใจดี หลังจากอกหักในวันเรียนจบ เธอได้ออกเดินทางไปหาเพื่อนแม่ที่เป็นผู้กำกับมือทองที่ประเทศจีน เพื่อหลีกหนีบาดแผลที่เจ็บปวด พวกเขาจะพบเจอและเป็นแฟนกันยังไงนะ? 1 ณ สนามบินประเทศจีน หลังจากลงเครื่องฉันก็เดินลากกระเป๋าไปหาคนที่คุณป้าส่งมารับ แต่เดินหาจะยี่สิบนาทีแล้วก็เจอ เพราะคนเยอะมาก ไม่รู้ว่าเยอะแบบนี้เป็นปกติหรือเปล่า แต่เท่าที่ดูเหมือนมารอใครมากกว่า ฉันเดินมองหาป้ายชื่อตัวเอง และในที่สุดก็มองเห็น อยู่ไกลๆ นู้น ฉันรีบเดินไปหาและแนะนำตัว "แก้มใส"ฉันชี้ตัวเอง "ออๆ"ผู้ชายวัยกลางคนพยักหน้าทำมือโอเค แล้วพาฉันเดินออกจากตรงนั้น ที่ดูเหมือนจะมีผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ ฉันนั่งรถดูวิวข้างทางด้วยสายตาที่ว่างเปล่า เหมือนคนไม่มีชีวิต นึกย้อนกลับไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อน ภาพที่แฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปียืนจูบผู้หญิงคนอื่นยังติดคงติดตา ฉันที่บังเอิญไปเห็นเข้า ก็โดนบอกเลิกทันที ในวันที่เรียนจบ เหมือนฟ้าผ่าลงกลางแสกหน้า ทุกอย่างมันพังทลายลงหมด ฉันเคว้งไม่เป็นท่า แพลนที่วางไว้ร่วมกันล่มหมดไม่เหลือชิ้นดี ฉันถึงได้มีสภาพแบบนี้ ที่บ้านเห็นท่าไม่ดีจะส่งฉันไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่เพื่อนของแม่ โทรบอกให้มาเยี่ยมเสียก่อน และให้มาดูงานเบื้องหลังด้วยเผื่อฉันชอบ ฉันจึงตัดสินใจมาที่นี่ มาเยี่ยมพวกท่านและเที่ยวไปในตัว ปกติคุณป้ากับคุณลุงจะหิ้วลูกชายไปหาฉันทุกปี แต่หลายปีมานี้ ตั้งแต่พวกท่านได้เป็นผู้กำกับมือทองงานก็รัดตัว จึงไม่ได้มาหาฉันเลย พวกท่านเอ็นดูฉันมากๆ อยากได้ฉันเป็นลูกสาว เพราะท่านมีลูกชายได้แค่คนเดียวเท่านั้น ฉันก็เลยเหมือนลูกบุญธรรมของพวกท่าน และฉันก็รักพวกท่านมากเช่นกัน พวกท่านน่ารักมากๆ ตามใจฉันสุดๆ ตามใจยิ่งกว่าพ่อกับแม่ฉันอีก!!! นั่งรถชั่วโมงเศษๆ ก็ถึงโรงแรม ฉันแจ้งชื่อกับพนักงานตามที่คุณป้าบอกไว้ พวกเธอก็พาฉันขึ้นลิฟต์ไปส่งที่ห้อง ฉันเก็บของเรียบร้อย ก็เดินลงมาสำรวจรอบๆ โรงแรม เพราะตอนนี้ยังไม่มีอะไรทำ คุณป้าคุณลุงอยู่ที่กองถ่ายเย็นๆ ถึงกลับมา ฉันเดินเตร็ดเตร่ ถ่ายนั่นถ่ายนี่ไปเรื่อย ตามประสาคนไม่มีอะไรทำ ชีวิตหลังเรียนจบนี่มันไม่เป็นอย่างที่คิดเลยเนอะ.... พรึ่บ! ฉันทรุดตัวลงนั่งกอดเข่ากับพื้น น้ำตาก็ไหลพราก อยู่ๆ มันก็อยากร้องไห้ เป็นความรู้สึกที่บ้ามากๆ ฉันแม่งไม่ควรคิดถึงไอ้คนสารเลวนั่นแล้ว เขาทำฉันเจ็บขนาดนี้ ทำไมฉันยังคิดถึงมันอีกนะ หรือแค่คับแค้นใจ? ฉันนั่งสงบสติอารมณ์ตัวเองและเดินกลับเข้าโรงแรมเมื่อมีคนพลุกพล่านมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่โรงแรมนี้ถูกปิดให้แค่ดารานักแสดงและทีมงานของกองถ่ายละครเท่านั้นที่เข้าพักได้ หรือว่า...พวกเขามารอดารางั้นเหรอ ระหว่างฉันยืนรอลิฟต์เพื่อกลับห้อง อยู่ๆ เสียงกรีดร้องและเสียงวิ่งก็ดังขึ้น ฉันหันไปมองพร้อมกับก้าวขาเข้าไปในลิฟต์เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก "กรี๊ดดดดด #^&¥*& กรี๊ดดด" "กรี๊ดดด" "อร๊ายยยย^¥£$_£" ผู้ชายตัวสูงปิดหน้าปิดตา กับผู้ชายตัวใหญ่สามสี่คนกำลังวิ่งมาทางนี้ โดยมีกลุ่มผู้หญิงและผู้ชายวิ่งตามหลังมา ฉันตกใจมากไม่รู้จะทำไง ได้แต่ถอยหลังเข้าไปชิดผนังลิฟต์ด้านในสุด จะกดปิดประตูลิฟต์ก็ไม่ทัน จะออกไปก็ไม่ได้ ได้แต่ยืนมอง "$&¥¥& ($" "&¥$#%€฿ (" หลังจากนั้นเกตุการณ์ก็ชลมุนมาก เสียงคนกรีดร้องและพูดดังไปหมด ผู้ชายชุดดำตัวโตพยายามกันคนไม่ให้เข้าถึงตัวคนที่ใส่หมวกปิดหน้า แต่ด้วยคนอีกฝั่งเยอะกว่า ทำให้มีผู้หญิงบางคนเข้าถึงตัวเขาได้ และในที่สุดผู้ชายที่ปิดหน้าก็ระเบิดอารมณ์ เขาถอดหมากเปิดหน้า และชี้หน้าด่าคนพวกนั้น "$&€¥¥^$^£" "#^£฿ (& (" ถึงฉันจะฟังไม่ออก แต่ก็เดาได้ว่าเขากำลังด่า ก็ดูท่าทางและสีหน้าเขาสิ โกรธขนาดนั้น แต่ถึงเขาจะด่า คนพวกนั้นก็ไม่หยุดที่จะถ่ายรูปและเข้าถึงตัวเขาอยู่ดี การ์ดของโรงแรมเข้ามาช่วยกันคนพวกนั้นออกไป ผู้ชายตัวใหญ่สี่คนถึงพาผู้ชายคนนั้นเข้ามาในลิฟต์ได้ และรีบกดปิดลิฟต์ทันที บรรยากาศในลิฟต์เงียบสงัด หัวใจฉันเต้นตุ๊บๆ มองผู้ชายร่างใหญ่สี่คนที่ยืนเต็มลิฟต์ และ....ผู้ชายที่โดนรุมเมื่อครู่ ฉันรู้แล้วทำไมเขาถึงโดนรุม ฉันพึ่งเห็นหน้าเขาชัดๆ ก็เมื่อครู่ คนหรือเทพเจ้าวะเนี่ย ทำไมถึงหล่อได้ขนาดนี้ OMG ฉันเจอของดีเข้าแล้ว "$&£฿%*?" "%&¥$¥¥!!!!" เฮือก!! ฉันสะดุ้งเฮือก หลุดออกจากภวังค์ เมื่อไอ้หน้าหล่อนั่นเดินเข้ามาตวาดฉัน "#%£¥?!! "....ฉันฟังคุณไม่เข้าใจ"ฉันโบกไม้โบกมือ ก่อนจะสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษออกไป ตัวฉันแทบจะฝังกับผนังลิฟต์อยู่แล้ว "เธอไม่ใช่คนที่นี่?"เขาพูดภาษาอังกฤษ สำเนียงดีมาก!! แต่มันใช่เวลามาสนใจสำเนียงมั้ยเนี่ย! "ฉันเป็นคนไทย"ฉันตอบเขาไป พลางมองสบตาคม ความหล่อไม่ได้ช่วยให้ความน่ากลัวของเขาลดลงเลย "เธอเข้ามาได้ไง?" "ฉันพักอยู่ที่นี่" "...."เขาหรี่ตามองจับผิด พอดีกับเสียงลิฟต์ดังขึ้น เขาจึงเลิกสนใจฉันแล้วหันหลังเดินออกไป แต่ไอ้ชั้นที่เขาเดินออกไป มันคือชั้นเดียวกับฉัน! และความซวยไม่หมดแค่นั้น เพราะห้องฉันดันอยู่ขวามือฝั่งที่พวกเขากำลังเดินไป จะหันหลังกลับเข้าลิฟต์ ลิฟต์ก็ปิดหนีไปแล้ว จึงต้องเดินตามพวกเขาไปเงียบๆ หวังว่าห้องพวกเขาคงไม่อยู่สุดทางเหมือนฉันหรอกนะ แต่ก็นั่นแหละความซวยของฉัน ห้องเขาอยู่ตรงข้ามกับฉันแน่นอน! เพราะฝั่งขวามีแค่สี่ห้อง และตอนนี้พวกเราก็เดินผ่านสองห้องนั้นมาแล้ว หมับ!!! ขณะที่ฉันกำลังเดินตามพวกเขา ไอ้หน้าหล่อนั่นก็หันหลังเดินตรงเข้ามาบีบแขนฉัน! "เธอเป็นนักข่าว หรือซาแซง!!"เขาถามลอดไรฟัน "!!!!"ฉันช็อกตกใจ ตัวสั่นไปหมด พยายามแกะมือเขาออก "ตอบมา!"เขาตะคอกถาม หมับ!! ฉันก้มลงกัดแขนเขาที่จับแขนฉันเต็มแรง เอาให้ขาดไปเลย!! "โอ๊ยยยย!!!"เขาตะโกนและปล่อยแขนฉัน ฉันใช้จังหวะนั้นวิ่งหนีเข้าห้องตัวเอง แต่ก็ไม่ลืม โผล่หน้าออกไปตะโกนด่ามันสุดเสียง และรีบปิดประตู "สมน้ำหน้า!!!!! ไอ้ดารานิสัยไม่ดี!!!!" ปัง!!!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD