“พ่อไม่อยากให้น้องโดนคนไม่ดีทำร้าย” การันต์อยากทำตามคำขอสุดท้ายของอดีตคนรักให้สำเร็จ เพราะเป็นคำขอเดียว แล้วไร่สายหมอกไอ้เจ้าลูกชายตัวดีมันรักนักรักหนาก็ถือเป็นตัวประกันชั้นดี ที่มันจะยอมแต่งงานกับหนูเทียนไข
“ผมไม่ใช่คนดีนะครับพ่อ” พ่อเอาอะไรมามั่นใจว่าเขาจะดูแลเธอได้ คนไม่รักทำอย่างไรก็ไม่รักอยู่ดีนั่นแหละ
สุดท้ายแล้วตฤณก็ไม่อาจจะเอาชนะพ่อได้ เขาต้องยอมพ่ออีกแล้วสินะ แต่ว่าเขาต้องหาวิธีที่จะได้มรดกมาให้ได้ และเรื่องนี้เขาก็ต้องพึ่งญาติผู้น้องอย่างมัทนา
เวลาสามทุ่มในคืนนั้น ตฤณโทรหาญาติผู้น้องทันที เพื่อสอบถามข้อมูลบางอย่าง
“มัท...นอนหรือยังหรือแอบหนีเที่ยวกันอีก” เขาทักน้องสาว
“โถ...พี่ตฤณ...สามทุ่มเด็กอนุบาลค่ะเขานอนกัน มัทโตแล้วนะคะ”
“เพื่อนเราเป็นยังไงบ้าง” เขารีบเข้าเรื่องไม่อยากอ้อมค้อม
“เพื่อน...เพื่อนคนไหนน้า...” มัทนาคิดไว้แล้วว่าพี่ตฤณต้องสนใจยายเทียน
“ก็เทียนไขไง”
“ตอนนี้เห็นเครียด ๆ จะหาเงินสักสิบล้านมาเปิดคลินิกรักษาสัตว์ค่ะ ว่าแต่พี่ตฤณถามทำไมคะ หรือว่าคิดถึงเพื่อนมัท”
เขายกยิ้มขึ้นที่มุมปากทันที อะไรมันจะประจวบเหมาะขนาดนั้น หากสิบล้านแลกกับมรดกพันล้านของพ่อเขาก็ยินดีจ่าย อีกอย่างก็ทำให้ยายนั่นได้เงินไปทำในสิ่งที่อยากทำด้วย
“แล้วเพื่อนเราจะมากรุงเทพบ้างไหม หรืออยู่ที่หัวหินอย่างเดียว”
“ตอนนี้เทียนเข้าเวรที่หัวหินค่ะ ยังไม่ได้กลับ กว่าจะกลับก็อีกหลายวัน” มัทนาเรียกได้ว่าขายเพื่อนจนหมดไส้หมดพุงเท่าที่รู้ ทั้งที่พัก ที่อยู่ ที่กิน ร้านที่ชอบ อาหารที่ชอบ สีที่ชอบ เพราะเข้าใจว่าพี่ตฤณจะจีบ
ส่วนคนที่อยากได้ข้อมูลก็เก็บรวบรวมทั้งหมดอย่างดี และจะหาวันว่างขึ้นไปหาเธอเพื่อตกลงกัน
ส่วนเทียนไขนั้น รับเข้ากะเข้าเวรดึกจนร่างแทบหลุดออกจากกัน เพื่อจะหาเงินมาเปิดคลินิกให้ได้ แต่มองอย่างไรตัวเลขก็ไกลเกินกว่าจะเอื้อมมันมาได้ง่าย
“เห้อ! ไม่น่าปากเสียเลย” เธอยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก ทั้งอยากฉีกหน้าปารมีกับชุติพล แต่ดันทำร้ายตัวเองเสียนี่
แต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากกัดฟันทำงานต่อไป
@ บ่ายวันอาทิตย์ ที่ทุกคนต่างอยากหยุด แต่เทียนไขอาสาเข้าเวรเช่นเคย วันนี้มีเคสเข้ามาติดต่อน้อย ต่างจากวันธรรมดา ภายในโรงพยาบาลสัตว์แห่งนี้ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ และขึ้นชื่อเรื่องครบวงจรที่สุด
ระหว่างที่ก้มหน้าจิ้มโทรศัพท์อย่างเซ็ง ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาทำลายความเงียบตรงหน้าเค้าท์เตอร์
“สวัสดีค่ะ น้องเป็นอะไรมาคะ ชั่งน้ำหนักก่อนเลยค่ะ” เธอไม่ได้เงยหน้า แต่เขียนลงวันที่และกำลังรอลงน้ำหนักให้กับน้อง
“มาหาคุณหมอปากหมาครับ” เสียงยียวนดังขึ้นทำให้คนที่มัวแต่ก้มหน้ารีบผุดลุกขึ้นหมายจะซัดสักหมัด
“ไอ้พ่อเลี้ยงหน้าหม้อ!” เธอเข่นเขี้ยวใส่คนที่มาใหม่ หน็อยหาว่าเธอเป็นหมอปากหมา เป็นแค่หมอหมาโว๊ย!
“ผมชอบฉายาที่คุณตั้งให้จัง ดูเหมาะสมราวกับคู่ตุนาหงัน”
“อ่านอิเหนามากไปหรือไง” เธอไม่คิดจะพูดดีกับเขาอยู่แล้ว เจอกันคราวนี้อยากเอาเลือดชั่วออกจากปากด้วยซ้ำ หากไม่ติดเคาน์เตอร์ละก็
“ไม่ได้ดูอิเหนามากไปหรอก แต่ว่าเรื่องคืนนั้นทำให้ผมต้องมาตามหาคุณถึงที่นี่” ตฤณพูดขึ้นพร้อมกับยกมือลูบที่ริมฝีปากสายตาทอดมองร่างบางเป็นประกายอย่างผู้ชายเจ้าชู้
“อี๋...หยุดนะ...อย่าพูดถึงมันอีก”
“อยากทบทวน”
“ทบทวนกับผีนะสิ”
“ถ้าผีเป็นคุณผมก็ยินดี”
“ถ้าไม่ได้มาผ่าหมาในปากเชิญออกไป ฉันอยู่ในเวลางาน” เธอไล่เขาออกไป ไม่อยากเจอหน้าไอ้พ่อเลี้ยงหื่นกามนี่อีก
“ผมมีเรื่องต้องตกลงกับคุณ!”