ตอนที่8 กลับมาเป็นครอบครัว

1241 Words
สนามบินสุวรรณภูมิ ร่างสูงที่กำลังเดินลากกระเป๋าออกมาจุดนัดพบ เอวิกายกมือขึ้นโบกสะบัดไปมาส่งสัญญาณให้สามีได้มองเห็น กฤษณ์ดนัยรีบเดินเข้ามาหาก่อนที่คนทั้งคู่จะโอบกอดกันแน่นด้วยความคิดถึงไม่ต่างกัน เอวิกาใช้ฝ่ามือลูบไล้ไปบนใบหน้าของสามีพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อคลอเบ้าขึ้นมาอีกครั้ง “ดีใจที่สุดเลยเราจะไม่ต้องห่างกันอีกแล้วนะคะ” “พี่ก็ดีใจจะได้อยู่กับเอวี่ทุกวันเลย ช่วยดูแลเอวี่ แล้วก็ช่วยเลี้ยงลูกของเรา พอกันทีกับความห่างไกลกันแบบนี้ มารอพี่นานหรือยังครับ?” “มาก่อนที่พี่จะออกมาไม่ถึง 20 นาทีหรอกค่ะ หิวข้าวไหมแวะทานอะไรกันก่อนแล้วค่อยกลับบ้านหรือพี่กฤษณ์จะไปบ้านคุณพ่อคุณแม่เลยคะ?” “อยากกลับบ้านเรามากกว่า อยากนอนกอดเมียอยากคุยกับลูก พอเห็นจริง ๆ ท้องเอวี่โตมากเลยนะ” ฝ่ามือหนาลูบไล้หน้าท้องสัมผัสกับลูกสาวที่อยู่ข้างในนั้นเบา ๆ ตั้งแต่รับรู้ว่ามีลูกนี่ก็คงจะเป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสด้วยตัวเองสักที เอวิกาถึงกับขมวดคิ้วเมื่อเห็นรอยจ้ำแดงที่อยู่บนลำคอของสามี “คอไปโดนอะไรมาคะพี่กฤษณ์ ทำไมมันเป็นรอยแดง ๆ แบบนั้น” ‘ฉิบหายตายห่าอย่าบอกนะว่าพลอยพัชชาฝากปัญหาเอาไว้ให้เขากลับมาด้วย’ ใบหน้าหล่อถึงกับรีบฉีกยิ้ม ฝ่ามือลูบไล้ไปบนลำคอที่เอวิกาเพิ่งสังเกตเห็นเมื่อครู่อย่างเร็ว “ตรงนี้เหรอ เมื่อคืนไม่รู้อะไรกัดพี่นั่งเกาอยู่บนเครื่องแทบไม่ได้นอนเลย” “ตายจริง งั้นรีบกลับบ้านเถอะค่ะเอวี่จะได้หายาทาให้” “ครับ กลับบ้านเราดีกว่าเนอะ พี่จะได้กอดเอวี่ให้หายคิดถึง คิดถึงจะตายอยู่แล้ว 6 เดือนแล้วไม่ได้สัมผัสจับต้องตัวเมียเลย” สองสามีภรรยาเดินโอบกอดรอบเอวของกันและกัน พูดคุยกันหัวเราะยิ้มร่าไปด้วยกันอย่างมีความสุขอย่างน่าอิจฉา คนที่ห่างเมียไปไปอยู่ไกลบ้านนาน ตั้งแต่กลับมาถึงก็ยังไม่ออกห่างไกลจากเมียเลยสักนาที นั่งเล่น นั่งจับมือกันดูซีรีย์อยู่ภายในห้องนอนด้วยกัน ตอนนี้เป็นความสุขที่จับต้องได้ ได้สัมผัสได้อยู่ใกล้กัน โดยไม่ต้องพูดคุยกันผ่านหน้าจอเหมือนแต่ก่อนแล้ว เสียงข้อความในโทรศัพท์ของกฤษณ์ดนัยดังขึ้น เขาต้องขยับเอื้อมมือไปหยิบมากดดู 'กลับถึงบ้านหรือยังคะ พลอยคิดถึงกฤษณ์จังเลย' กฤษณ์ดนัยถึงกับรีบลบและบล็อกเบอร์นั้นไปอย่างรวดเร็ว รู้สึกไม่ชอบใจที่อีกฝ่ายพูดจาไม่รู้เรื่อง ก่อนมาเขาบอกแล้วว่าห้ามติดต่อกันอีก เห็นทีคงต้องลบแอพพลิเคชั่นทิ้งหรือไม่ก็คงต้องเปลี่ยนเบอร์ใหม่ถาวรเลย เพราะวันนี้เขาอยากเป็นกฤษณ์ดนัยคนใหม่ อยากเป็นสามีที่ดีที่มีความซื่อสัตย์และรักภรรยาเพียงคนเดียว เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานหรือที่ผ่านมามันจะกลายเป็นอดีตไปตลอดกาล “มีอะไรหรือเปล่าคะ พี่กฤษณ์ดูหงุดหงิดนะ?” “ไม่มีอะไรครับ พี่ไม่ได้เป็นอะไร พอดีเพื่อนส่งข้อความมาบอกว่าเพื่อนร่วมชั้นอีกคนประสบอุบัติเหตุตอนที่อยู่บนเครื่องน่ะ มันเพิ่งจะแจ้งเตือน” “ตายจริง แล้วเขาเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ?” “ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว ช่างเขาเถอะเดี๋ยวพี่ค่อยติดต่อกลับไปถามข่าวเขาวันหลัง ดึกแล้วเข้านอนดีกว่าไหมครับ นอนดึกไม่ดีนะ คุณแม่ต้องพักผ่อนเยอะ ๆ” “ขอดูซีรี่ย์จบก่อนได้ไหมคะ ใกล้จบแล้วเดี๋ยวจบเรื่องนี้เอวี่ค่อยนอน” “ครับ พี่นั่งดูเป็นเพื่อน ไว้นอนพร้อมเมียกับลูกก็แล้วกัน” กฤษณ์ดนัยยกมือขึ้นบีบจมูกภรรยาสาวเบา ๆ อย่างมันเขี้ยว ได้แต่คิดในใจและขอโทษเอวิกาอยู่ภายในใจ แม้ว่าเธอจะไม่รับรู้แต่เขาก็รู้สึกผิด เขาทำผิดต่อเธอไปนานแล้วและจะไม่แก้ตัวกับอะไรทั้งนั้น แต่มันจะไม่มีทางเกิดขึ้นอีกครั้งอย่างแน่นอน หลายวันต่อมา บ้านกฤษณ์ดนัย วันนี้กฤษณ์ดนัยพาภรรยาสาวมาบ้านพ่อกับแม่ มาทานข้าวร่วมกับครอบครัวพร้อมกับนำของฝากที่หอบหิ้วมาฝากบิดามารดาของเขาด้วย “สวัสดีครับพ่อ แม่ สบายดีกันนะครับ” “มาถึงตั้งแต่วันไหนนะ ทำไมถึงเพิ่งได้โผล่หน้ามาที่นี่” คุณพิมลรัตน์โอบกอดทักทายลูกชายคนเดียวของนาง ก่อนจะหันไปมองลูกสะใภ้ที่ยืนยิ้มอยู่ไม่ไกล ตั้งแต่เอวิกาท้องนางก็ไม่ได้อะไรกับลูกสะใภ้อีก นางไม่อยากเป็นแม่ผัวที่ใจร้ายเหมือนเมื่อก่อน อย่างน้อยก็เห็นแก่หลานที่กำลังจะเกิดมาเพราะเอวิกานับวันก็ใกล้คลอดเต็มทีแล้ว “ผมเพิ่งกลับมาเมื่อ 2 วันก่อนเองแม่ พักหายเหนื่อยแล้วก็มาเยี่ยมพ่อกับแม่นี่ล่ะครับ ผมซื้อของมาฝากด้วยนะแม่ต้องชอบแน่ ๆ” “มากี่รอบก็มีแต่ของมาฝาก เอาอะไรมาอีกล่ะ ฝากลูกกับเมียแกโน่นไม่ต้องมาฝากแม่หรอก แม่มีทุกอย่างแล้วไม่ได้อยากได้อะไร แล้วเป็นยังไงบ้างล่ะเอวิกา ใกล้คลอดแล้วนี่ เดินเหินคล่องหรือเปล่านะ” เอวิกายิ้มรับ เธอไม่ได้รู้สึกเกร็งเหมือนตอนเริ่มแต่งงานกับเขาใหม่ ๆ ทุกวันนี้กลับรู้สึกด้วยซ้ำว่าคุณพิมลรัตน์เอ็นดูเธอมากกว่าแต่ก่อน อาจจะเป็นเพราะตอนนี้มีหลานนางก็เลยไม่อยากมีปัญหาอะไรกับเธออีก “ปลายเดือนหน้าค่ะ ยัยหนูก็จะคลอดออกมาแล้ว” “แล้วตกลงจะผ่าคลอดหรือว่าจะคลอดเอง?” “อยากลองคลอดเองก่อนค่ะ ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวค่อยคิดกันอีกที” “เฮ้อ....ไป ๆ เข้าไปคุยกันในบ้าน กินข้าวไปคุยกันไปด้วยดีกว่า” คุณพิมลรัตน์เดินนำหน้าทุกคนไปก่อน กฤษณ์ดนัยและเอวิกาพร้อมด้วยคุณดิเรกก็เดินตามหลังกันไปติด ๆ “ผมดีใจนะครับแม่ที่แม่ชอบเมียผมแล้ว” “ฉันไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้นย่ะ ตอนแรกฉันก็ไม่ชอบแหละ แต่ก็ช่างมันเถอะตอนนี้ฉันโอเคแล้ว” “ทำไมเหรอครับกลัวหลานสาวไม่รักคุณย่าหรือไงนะ” “หึ ว่าแต่แกเถอะไปอยู่ที่โน่นมาตั้งนานฉันนึกว่าแกจะพาแหม่มฝรั่งกลับมาบ้านด้วยซะอีก” “แม่! เอาอะไรมาพูด ผมไปเรียนเอาวิชาความรู้เพื่อมาบริหารบริษัทเรานะครับ ผมไม่คิดจะทำแบบนั้นอยู่แล้ว ผมมีเมียอยู่แล้วนะแม่ แม่จะพูดแบบนี้ทำไมนะ จิ๊!” กฤษณ์ดนัยถึงกับส่ายหัวให้กับผู้เป็นแม่ ก่อนจะหันไปยิ้มกับภรรยาที่เธอเองก็กำลังส่งยิ้มตอบกลับมาให้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD