โถ่! ชีวิต

1074 Words
“เบญ... เบญ... ตื่นเร็วสายแล้ว” เสียงเพียงขวัญแตกตื่น เพราะเธอลืมตามองดูนาฬิกาปลุก ที่หัวเตียงแต่ดันไม่ยอมปลุก “ฮื้อ มีอะไรขวัญ” “สายแล้ว นาฬิกาไม่ปลุกสิเบญ” “ว้าย ตายแล้วเร็วขวัญไปอาบน้ำ” จากนั้นความวุ่นวายบังเกิดขึ้น ต่างคนต่างรีบทำหน้าที่ตัวเอง ก่อนที่จะสายไปมากกว่านี้ ทั้งสองต่างกึ่งวิ่งกึ่งเดิน เพื่อไม่ให้ไปถึงที่ทำงานสาย โดยไม่พากันแวะกินข้าวเช้าอย่างเช่นเคย “สวัสดีครับน้องขวัญ” ชายหนุ่มซึ่งอยู่ในชุดพนักงานยืนหน้าเคาน์เตอร์ “สวัสดีค่ะพี่ภัทร ขอโทษที่พวกเรามาสายค่ะ” เพียงขวัญเอ่ยปากขอโทษชายหนุ่ม ซึ่งต่างจากบางคนที่เดินผ่าน แล้วเปิดประตูห้องเก็บของ และตอกบัตรเข้างานโดยเพียงขวัญเรียกไม่ทัน และหันมาส่งยิ้มเจื่อน ๆ ให้ชายหนุ่มแทน “เอาของไปเก็บแล้วทำงานเถอะน้องขวัญ” ภัทรส่งยิ้มให้หญิงสาวก่อนจะคิดเงินให้ลูกค้า “ทำหน้าบูดใส่พี่ภัทร เขาทำไมเบญ” ขวัญถามเพื่อนขณะเรียงของบนชั้น “โอ๊ย! ใครจะยิ้มแป้นเหมือนเธอ ไม่ว่าผิดอะไรนิดอะไรหน่อยก็ขอโทษไปหมด” เบญพูดพร้อมส่ายหัวให้คนมารยาทดี “อ้าว… เรามาสายแค่ขอโทษก็ถูกแล้วนี่” “คนอื่นเรายอมแต่อีตาบ้าอย่าได้หวัง” เบญพูดใส่อารมณ์ “พี่เขาเป็นผู้จัดการนะให้เราออกได้เลยนะเบญ และอีกอย่างมันเป็นมารยาทด้วย” ขวัญยิ้มให้เพื่อน “แล้วไง เป็นก็เป็นไปสิ ใครกลัว” เบญเบะปากขณะพูด “ไม่พูดละทำงานเถอะ” ขวัญรีบตัดบท “อื้อ…” ทั้งสองแยกกันทำงาน หลังจากคุยกันสักพัก วันนี้สิ้นเดือนคนมาใช้บริการหนาตาเป็นพิเศษ ทั้งสองถูกเปลี่ยนให้มาหน้าเคาน์เตอร์คิดเงิน “รับอย่างอื่นเพิ่มไหมคะ” “ไม่ครับ” เสียงเข้ม ๆ ของชายหนุ่มใส่แว่นตาดำ “ขอบคุณที่มาใช้บริการค่ะ” เสียงหวาน ๆ ของเพียงขวัญ ชายหนุ่มสะดุดกับน้ำเสียงอันไพเราะนุ่มนวล ริมฝีปากบางอมชมพูเอื้อนเอ่ย ถึงกับทำให้สายตาคมเข้มจ้องมองใบหน้านวลผ่านแว่น และเลื่อนสายตามองที่เสื้อเห็นชื่อ “เพียงขวัญ ฤทัยบดิน” รถคันหรูจอดติดเครื่องอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ ด้านหลังคนขับมีชายหนุ่มหน้าตาดีนั่งคอยพลางดูหงุดหงิด ที่ลูกน้องหายไปนาน “ไอ้กฤต ไปดูสิทำไมนานนักวะ” ภาคินสั่งลูกน้องอีกคนที่นั่งอยู่ด้านหน้าคู่คนขับ “ครับคุณหนึ่ง” ขณะเปิดประตูกำลังลงจากรถ กฤตเห็นแดนกำลังเดินออกจากประตูร้านก็รีบร้องเรียกเพื่อนรัก “ไอ้แดนเร็ว” “ใจเย็นสิวะคนมันเยอะ” แดนเข้ามานั่งประจำที่คนขับและบอกกับกฤต รถพุ่งทะยานไปยังบริษัทของเจ้านายหนุ่มทันที สายตามองกระจกหน้า แดนอยากเห็นท่าทีของเจ้านาย แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรเสียงเข้ม ๆ ดังขึ้นเสียก่อน “คนเยอะหรือมึงเหล่สาววะ” ภาคินพูดใส่ลูกน้อง “โธ่… คุณหนึ่งคนเยอะจริง ๆ ครับ” แดนบอกพร้อมอมยิ้ม “หึ เห็นจ้องแม่สาวน้อยอยู่ไม่ใช่เหรอ” ชายหนุ่มสวนขึ้น เขามองผ่านแว่นเห็นลูกน้องตัวดีเล่นจ้องหน้าอกพนักงาน แต่ที่เห็นมันไม่เหมือนที่ลูกน้องบอก “ที่ไหนครับ ผมแค่รับเงินทอนเองแล้วคุณหนึ่งรู้ได้ไง ว่าผมจ้องหน้าอก” แดนสงสัย “ฉันไม่ได้ตาบอด พอที่ไม่เห็น” “ขอโทษครับคุณหนึ่ง” ณ บริษัทส่งออกอุปกรณ์ยานยนต์รายใหญ่ เสียงเครื่องยนต์ดับสนิทเมื่อถึงบริษัท ทั้งหมดลงจากรถและพากันเข้าภายใน ภาคินเดินล้วงกระเป๋ากางเกงนำหน้าลูกน้อง ก่อนจะหยุดหน้าลิฟต์ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับพนักงานที่ยืนรอเป็นจำนวนมาก ต่างยกมือไหว้เมื่อเห็นลูกชายเจ้าของบริษัท และให้ขึ้นลิฟต์ก่อน ภายในห้องทำงานอันโอ่อ่ากว้างขวาง สีโทนเข้มเข้ากับบุคลิกภาพของเจ้าของห้อง ขายาวไขว่ห้างพร้อมสีหน้าคร่ำเครียดอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่เขาจ้องเอกสารในแฟ้ม “คุณณดา เข้ามาพบผมด่วน” เสียงปลายสายออกคำสั่งกับเลขานุการ คนได้รับคำสั่งถึงกับแสดงสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัด เธอเป็นเลขานุการให้กับพ่อของชายหนุ่ม เมื่อลูกชายมาทำงานแทน เธอจึงต้องรับหน้าที่แทน แรก ๆ เธอไม่ชินกับชายหนุ่มนักแต่หลัง ๆ เธอเริ่มชิน ก๊อก... ก๊อก... “คุณภาคินมีอะไรใช้ณดาคะ” ยามเมื่อเข้ามาในห้องเจ้านายหนุ่ม เธอยืนหน้าโต๊ะทำงานเขา “เอกสารชุดนี้ทำไมตกหล่น สินค้าไม่ได้มีปัญหา หรือผิดพลาดใช่ไหมครับ?” “เอ่อ… ณดาตรวจสินค้าแล้วไม่มีผิดพลาดนะคะ เพราะณดาเป็นคนตรวจเองกับตาค่ะคุณภาคิน” “งั้นเหรอครับ ทำไมถึงไม่แจ้งผม” “ขอโทษค่ะ คราวหน้าณดาจะรอบคอบให้มากค่ะ” เธอก้มหน้าพร้อมชำเลืองมอง “หวังว่าคราวหน้าจะไม่เกิดขึ้นอีก ไปทำงานได้แล้วครับ” ขณะที่ชายหนุ่มตรวจเอกสาร “ค่ะ” ระหว่างมาถึงโต๊ะทำงาน ณดาใช้มือทาบหน้าอกเบา ๆ พร้อมถอนหายใจ “เฮ้ย…” กริ๊ง... กริ๊ง... “ครับ” เสียงมือถือดังอยู่นานกว่าชายหนุ่มจะรับ “สวัสดีค่ะพี่หนึ่ง” เสียงหวาน ๆ เอ่ยทักทาย “ว่าไงครับน้องริน” ชายหนุ่มถามหญิงสาว “วันนี้ไปทานข้าวเย็นกันนะคะ แล้วพี่หนึ่งอยู่ไหนคะ” เสียงออดอ้อนเอ่ยถาม “พี่เข้าบริษัท มีงานด่วน” “งั้นน้องรินโทรหาช่วงเย็นอีกรอบนะคะ” “ครับผม” “แล้วเจอกันค่ะ รักพี่หนึ่งนะคะ” “ครับ” ณ ร้านสะดวกซื้อ กริ๊ง... กริ๊ง... “ขวัญ… ลูก” เสียงแหบแห้งเรียกชื่อลูกสาว “ค่ะแม่… หนูกำลังจะโทรหาแม่พอดี” จริงอย่างที่เธอบอก เพราะเธอพึ่งพักเที่ยง “เหนื่อยไหมลูก กินข้าวหรือยัง” “ไม่เหนื่อยค่ะ หนูกินแล้ว แม่กินหรือยังอย่าลืมกินยาด้วยนะคะ” “จ้ะ แม่กินแล้ว” “เอ่อ… วันนี้เงินออกเลิกงานหนูโอนให้นะแม่” “ขวัญมีใช้เหรอลูก เก็บไว้เถอะ” “มีค่ะแม่ ไม่ต้องห่วงหนู แม่ดูแลตัวเองดี ๆ นะคะ หนูลาพักร้อนไว้แล้วเดี๋ยวหนูกลับไปอยู่กับแม่หลายวันเลย” เสียงสดใสตามวัยพูดบอกกับแม่อย่างยิ้มแย้มผ่านมือถือเครื่องเก่า ๆ “จ้ะ… ขวัญทำงานเถอะ แม่จะไปดูสวนมะลิ” “ค่ะ…รักแม่นะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD