“บีน่า...บีน่าขอตัวก่อนนะ”หญิงสาวรีบพูดก่อนจะเดินหนีไปในทันที เฟลิกซ์หันไปมองเขาต้องการจะร้องห้ามแต่ก็ไม่ทันจนเขาตวัดสายตากลับมามองร่างบางข้างกายอย่างเอาเรื่อง...
“ปล่อยแขนเจ้าขาได้แล้ว เจ้าขาเจ็บ!”ร่างบางร้องบอกพร้อมกับสะบัดแขนออกจากมือหนา ก่อนที่เธอจะเลื่อนมือขึ้นลูบแขนตัวเองที่ขึ้นเป็นรอยแดงจากฝ่ามือของชายหนุ่ม เฟลิกซ์มองหน้าเจ้าขาด้วยแววตาที่ยังเต็มไปด้วยความโมโห เขาเดินผ่านหญิงสาวไปอย่างไม่คิดจะสนใจไยดีอะไรเธอแต่เจ้าขาไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น เธอตามไปรั้งต้นแขนของชายหนุ่มเอาไว้พร้อมกับพูด
“พี่จะเดินไปไหน พี่ยังไม่ได้ขอโทษเจ้าขาเลยนะที่พี่ทำรุนแรงกับเจ้าขาแบบนี้อ่ะ!”
“ผู้หญิงไร้มารยาทแบบเธอคงไม่จำเป็นต้องได้รับคำขอโทษจากใครหรอกมั้ง”ร่างสูงเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชาก่อนที่เขาจะดึงต้นแขนของตัวเองออกจากมือเรียวอย่างแรง เจ้าขาเบิกตากว้างพร้อมกับมองหน้าชายหนุ่มอย่างไม่เชื่อสายตาว่าเขาจะทำตัวได้แย่ขนาดนี้
“เจ้าขาไร้มารยาทตรงไหน เจ้าขามานั่งตรงนี้ก่อนด้วยซ้ำ!”
“แล้วที่ไปหลบอยู่หลังพุ่มไม้แล้วแอบฟังคนอื่นเขาเรียกว่าอะไร ?!”ชายหนุ่มถามกลับเล่นเอาหญิงสาวนิ่งอึ้งแทบไปไม่เป็น เพราะที่เธอไปแอบอยู่หลังพุ่มไม้ก็เพราะเธอไปแอบฟังเฟลิกซ์คุยกับผู้หญิงอีกคนจริง ๆ นั่นแหละ
“ก็เจ้าขา...”
“ยอมรับมาเถอะว่าเธอมันไร้มารยาท อยากรู้อยากเห็นเรื่องของคนอื่นจนเป็นเรื่องปกติของนิสัย”เจ้าขาหน้าเหวอเมื่อได้ยินคำด่าที่ไร้ความหยาบคายแต่บาดลึกเข้าไปในจิตใจของหญิงสาวสุด ๆ ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยถูกตอกหน้าหงายแบบนี้มาก่อนเลยจริง ๆ
“ไปเรียนต่อเมืองนอกมาได้ตั้งหลายปี ฉันนึกว่าสังคมที่นั่นจะช่วยเปลี่ยนนิสัยเสีย ๆ ของเธอแต่กลายเป็นว่ามันเปลี่ยนอะไรเธอไม่ได้เลย”
“จิตใต้สำนึกของเธอมันคงจะลึกเกินไป ถึงได้แก้นิสัยเสียไม่ได้สักที”ร่างสูงเอ่ยออกไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแต่ทว่าแววตาที่เขาใช้มองหญิงสาวมันกลับเต็มไปด้วยความตั้งแง่
เจ้าขาที่หน้าชาแล้วหน้าชาอีก เธอรู้สึกงุนงงมากเหลือเกินว่าเพราะอะไรชายหนุ่มถึงตั้งแง่รังเกียจหรือโกรธอะไรเธอได้มากมายขนาดนี้
“นี่โกรธเกลียดอะไรเจ้าขาเหรอคะ ทำไมต้องมาว่าอะไรกันขนาดนี้ด้วยอ่ะ เจ้าขาไปทำอะไรให้พี่”
“หรือกำลังรู้สึกอายที่เพิ่งโดนสาวปฏิเสธรักมาเลยไม่รู้จะทำยังไงก็เลยมาลงกับที่เจ้าขางี้เหรอ”
“พี่กำลังทำตัวไม่น่ารักกับเจ้าขาเลยนะ โดนผู้หญิงไม่รับรักมันก็เป็นเรื่องที่พี่ต้องจัดการความรู้สึกเองดิ”
“ไม่ใช่มาลงที่เจ้าขาแบบนี้ โอเคเจ้าขาผิดที่มายืนแอบฟังมายืนหลบอยู่ตรงนี้ แต่จะให้เจ้าขาเดินซุ่มสี่ซุ่มห้าออกไปขัดจังหวะพวกพี่ที่กำลังสารภาพรักกันหวานฉ่ำขนาดนั้นก็ไม่ได้ไหมอ่ะ”
“เดินออกไปเจ้าขาก็โดนพี่ว่า ขนาดไม่เดินความซวยยังเดินมาหาถึงที่เลยอ่ะ”ร่างบางพูดออกไปตามที่คิด แถมเธอยังแอบหลอกด่าชายหนุ่มออกไปด้วย
“เจ้าขานี่ซวยซ้ำซวยซ้อนจริง ๆ ...”
เฟลิกซ์มองหญิงสาวตรงหน้าที่เถียงเขาแบบเอาเป็นเอาตายก่อนที่เขาจะรู้สึกว่าพูดกับเธอไปก็ไร้ประโยชน์แถมเสียเวลาเปล่า ๆ ร่างสูงถอนหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิดก่อนที่เขาจะหันหลังให้หญิงสาวพร้อมกับเดินจากไปอีกครั้ง
“พี่จะไปไหน เจ้าขาบอกว่าให้พี่ขอโทษเจ้าขาก่อนไง!”แต่เจ้าขาก็ยังดื้อดึงเธอตามไปรั้งแขนชายหนุ่มเอาไว้ไม่ยอมปล่อยเขาไปง่าย ๆ
“ว่าเจ้าขาเสร็จแล้วจะมาเดินหนีกันไปแบบนี้มันไม่ง่ายนะพี่เฟลิกซ์!”
“ขอโทษเจ้าขาเดี๋ยวนี้เลย!!”ร่างบางพูดพร้อมกับรั้งแขนของชายหนุ่มเอาไว้ เฟลิกซ์ที่พยายามคุมอารมณ์ที่กำลังเดือดดาลของตัวเองเขาสะบัดแขนออกจากมือของหญิงสาวจนทำให้เธอนั้นเสียหลักล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น
“โอ๊ยยยย!!”ร่างบางร้องออกมาด้วยความเจ็บเมื่อก้นกระแทกเข้าที่พื้นหญ้าเต็มแรงจนใบหน้าสวยเหยเกไปหมด เจ้าเลื่อนมือไปลูบที่สะโพกของตัวเองไปมาเบา ๆ ด้วยความเจ็บแถมที่ฝ่ามือเธอก็มีรอยถลอกด้วย
“คำขอโทษของฉันไม่ได้มีเอาไว้สำหรับผู้หญิงอย่างเธอเจ้าขา...”และคำพูดที่เจ็บแสบไม่ต่างอะไรกับอาวุธร้ายก็ถูกส่งออกมาจากริมฝีปากหยักของชายหนุ่มอีกครั้ง เจ้าขาหน้าชาแถมความโกรธก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นตามมาติด ๆ
ผู้หญิงอย่างเธอ ? ผู้หญิงอย่างเธออย่างนั้นน่ะเหรอ
ร่างบางทวนคำของร่างสูงด้วยความรู้สึกโมโหไม่ต่างกัน ผู้หญิงอย่างเธอมันทำไมกันทำไมเขาถึงใช้คำพูดแบบนี้ พอคิดได้แบบนั้นเจ้าขาก็รีบขยับตัวลุกขึ้นลืมความเจ็บเมื่อก่อนหน้าไปจนหมดเหลือเอาไว้แค่ความโกรธที่พุ่งปี๊ดอยู่ในใจ
“ผู้หญิงอย่างเจ้าขาทำไมคะ ? ผู้หญิงอย่างเจ้าขามันทำไม”
“ไร้มารยาท ดื้อด้าน เอาแต่ใจ ทำอะไรไม่คิด! จิตใต้สำนึกต่ำ และที่สำคัญเธอเป็นผู้หญิงที่ผู้ชายบนโลกควรออกห่างเข้าไว้”
“เพราะถ้าเธอเข้ามาใกล้เมื่อไหร่ก็มีแต่จะเปลืองตัวเพราะผู้หญิงแบบเธอ”เจ้าขาอ้าปากค้าง เธอเบิกตากว้างด้วยความตกใจคิดไม่ถึงว่าเขาจะด่าว่าเธอได้มากมายขนาดนั้น มันทำให้เธอรู้สึกว่าเธอไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แล้วให้ตายเถอะตั้งแต่เกิดมานะ เฟลิกซ์เป็นชายคนแรกที่ด่าเธอจนหน้าชาไปหมดแบบนี้
“นะ นี่พี่! นี่พี่กล้าดียังไงมาว่าเจ้าขาแบบนี้น่ะห๊ะ!”
“เหอะ!! เปลืองตัวงั้นเหรอ เจ้าขาจะบอกอะไรให้นะ เจ้าขาไม่เคยต้องเปลืองตัววิ่งเข้าไปหาผู้ชายเลยค่ะ มีแต่ผู้ชายที่วิ่งเข้ามาหาเจ้าขา!”
“เจ้าขาอยู่เฉย ๆ สวย ๆ ของเจ้าขาก็มีผู้ชายเป็นขบวนเข้ามาต่อคิวแล้ว!!”
“คนอย่างเจ้าขาไม่เคยต้องเข้าหาใครให้มันเหนื่อย รู้ไว้ซะด้วยนะ!!”เรื่องนี้หญิงสาวยอมไม่ได้เลยจริง ๆ ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตเธอไม่เคยต้องวิ่งตามผู้ชายคนไหน ไม่เคยต้องไปเข้าหาใครก่อนเลยด้วยซ้ำมีแต่ผู้ชายพวกนั้นที่วิ่งเข้าหาเธอเป็นขบวน
“แล้วฉันล่ะ ที่ก่อนหน้านี้เธอพยายามเข้าหาคืออะไร ที่ขึ้นคร่อมตักฉันแล้วจูบคืออะไร ?!” เป็นอีกครั้งที่เจ้าขาถูกตอกกลับหน้าแทบหงาย เล่นเอาหญิงสาวแทบเป็นใบ้พูดไม่ออก เพราะเธอเข้าหาเฟลิกซ์ก่อนจริง ๆ
ไม่สิเธอแค่เอาตัวเองไปอยู่ในจุดที่เขามองเห็นเพื่อที่เขาจะได้เข้าหาเธอได้ง่าย ๆ แต่ว่าเขากลับไม่เข้ามาเธอก็เลยเสนอตัวเข้าไปอีกหน่อยก็เท่านั้นเอง
บ้าเอ๊ย สุดท้ายเธอก็จนมุมเพราะผู้ชายตรงหน้าอีกจนได้...
“ก็เจ้าขาเมาแล้วก็พนันกับเพื่อนไว้ แล้วพี่ก็คือตัวเลือกของเจ้าขา”
“ตัวเลือก ? โทษนะ ฉันไม่ใช่ตัวเลือกของเธอหรือของใครทั้งนั้นเจ้าขา!!”เอาอีกหน้าชาคูณสอง เจ้าขาอึกอักพยายามหาทางออกให้ตัวเองแบบที่เธอจะไม่ยอมแพ้หรือเสียหน้าเช่นกัน...
“ก็ช่วยไม่ได้อ่ะ เจ้าขาถูกใจพี่ ชอบพี่ก็เลยทำแบบนั้นไป”
“เหอะ! นอกจากไร้มารยาทเธอยังเป็นผู้หญิงที่ไร้สมองอีกด้วยนะ คงถูกตามใจหรือสปอยล์จนเคยตัวเลยคิดว่าจะทำนิสัยแบบนี้กับใครก็ได้งั้นดิ”เฟลิกซ์ไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวกับคำว่าชอบที่ออกมาจากปากเจ้าขาเลยสักนิด เขากับรู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้ากำลังเอาแต่ใจอยากทำอะไรก็ทำอยากพูดอะไรก็พูดแบบไม่คิด มันเหนื่อยเปล่าที่เขาจะต้องเสียเวลาพูดกับผู้หญิงแบบนี้
“หยุดว่าเจ้าขาสักที เจ้าขาก็บอกแล้วไงที่จูบพี่เพราะเจ้าขาเมาแล้วก็พนันกับเพื่อน”
“แล้วจริง ๆ ก็ชอบพี่ด้วยอ่ะ”
“ฮึ! งั้นฉันจะบอกให้รู้แบบชัด ๆ เลยว่าผู้หญิงอย่างเธอคือผู้หญิงที่ฉันรังเกียจและไม่คิดจะยุ่งด้วยเลยสักนิด!”
“เธอจะทำกับใครก็ทำไป แต่อย่ามายุ่งกับฉันอีก! เพราะผู้หญิงอย่างเธอคือผู้หญิงที่ฉันจะไม่มีวันเข้าใกล้เด็ดขาด!!” ไหนใครบอกว่าผู้ชายตรงหน้าเธอขึ้นชื่อเรื่องความเย็นชาและเงียบขรึมไง สาบานว่านี่มันคือคนเดียวกับที่ทุกคนพูดถึง เขากำลังด่าเธอแบบน้ำไหลไฟดับแบบนี้คือเงียบขรึมพูดน้อยเย็นชางั้นเหรอ พูดออกมาแต่ละทีเล่นเอาหน้าเธอสั่นไปหมดเลย!
“งั้นพี่ก็จำคำพูดของตัวเองเอาไว้ให้ดีแล้วกันว่ารังเกียจผู้หญิงอย่างเจ้าขา!”
“อย่ามาเผลอตัวเผลอใจเผลอหลงรักเจ้าขาจนโงหัวไม่ขึ้นแล้วกันนะ แล้วถ้ามันถึงวันนั้นเจ้าขานี่แหละจะเขี่ยพี่ทิ้งด้วยมือเจ้าขาเอง!!”เจ้าของใบหน้าสวยเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าสีตาของเธอนั้นแสดงออกชัดว่าเธอก็โกรธไม่ต่างจากผู้ชายตรงหน้า.... ใจก็อยากจะพูดเท้าแต่ก็ดูแรงไปหญิงสาวเลยเลือกใช้คำที่ดูรุนแรงน้อยที่สุด
“เจ้าขาชอบมากจริง ๆ ผู้ชายแบบพี่เนี้ย เห็นใคร ๆ ก็บอกว่าพี่เป็นผู้ชายน่าเบื่อ อยู่ด้วยแล้วจะเฉาตาย”
“แต่เจ้าขาอยู่ด้วยแล้วสนุกชะมัดเลย!!” ร่างบางพูดอย่างใส่อารมณ์พร้อมกับมองหน้าผู้ชายตรงหน้าด้วยแววตาแน่วแน่ เธอสาบานเลยว่าเธอจะทำให้ผู้ชายตรงหน้าหลงรักเธอแบบที่โงหัวไม่ขึ้น
แต่ตอนนี้ขอกลับไปตั้งหลักแล้วคิดหาวิธีใหม่ก่อน ตอนนี้เธอถูกตอกหน้าหงายหน้าสั่นไปหมดแล้ว
“เชิญพี่อยู่กับความหัวร้อนหัวเสียที่โดนผู้หญิงปฏิเสธรักไปแล้วกันนะ! เจ้าขาขอตัวไปมีความสุขก่อน บาย!”ร่างบางพูดอย่างใส่อารมณ์ก่อนจะเดินผ่านหน้าเฟลิกซ์ไปในทันที ร่างสูงยืนขบกรามแน่น เขาพยายามอย่างหนักที่จะข่มอารมณ์ของตัวเองเองเอาไว้ไม่ให้มันระเบิดออกมา ความรู้สึกมากมายมันถาโถมเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง เขาทั้งสับสน ผิดหวัง เสียใจ มันเกิดคำถามขึ้นมาภายในใจมากมายว่าเพราะอะไรบีน่าถึงปฏิเสธรักเขา ทั้ง ๆ ที่ตัวเธอเองก็รู้สึกแบบเดียวกัน...แถมเขายังต้องมาปะทะฝีปาก ปะทะคารมกับผู้หญิงจอมแสบอย่างเจ้าขาอีก...
เจ้าขาที่ยังคงโมโหกับคำพูดของเฟลิกซ์ไม่หาย เธอเดินหน้าเหวี่ยงกลับมาหาพี่สาวเพื่อชวนไปนั่งรอพ่อกับแม่บนรถ เวลานี้เธอไม่ได้อยากจะอยู่ในงานเลี้ยงฉลองอะไรนี่แล้ว ถ้ากลับเลยได้เธอก็อยากจะกลับเลยด้วยซ้ำแต่มันติดที่เธอทำแบบนั้นไม่ได้ ถ้าทำแบบนั้นแม่ได้ตามมาวีนเธอแน่นอน...
“พี่ชิลินไปนั่งรอพ่อกับแม่บนรถกัน เจ้าขาไม่อยากอยู่ในงานแล้ว”
“เป็นอะไร ทำไมทำหน้าเหวี่ยงแบบนั้นอ่ะ มีใครทำให้เราไม่พอใจอีก”
“ไปคุยบนรถได้มั้ยอ่ะ ไม่อยากคุยตรงนี้”ร่างบางบอกพร้อมกับมองหน้าพี่สาวแล้วรบเร้าให้ชิลินเดินตามเธอไปขึ้นรถ แต่ชิลินไม่ยอมทำตามเพราะเวลานี้เธอทั้งสองควรจะอยู่ในงานตามมารยาทจะหายตัวไปนั่งรอบนรถมันน่าเกลียดเกินไป...
“อย่าเอาแต่ใจเจ้าขา เราทำแบบนั้นไม่ได้ เราต้องรอพ่อกับแม่ในงานตรงนี้”
“ใจเย็น ๆ ตั้งสติ แล้วบอกพี่มาว่ามันเกิดอะไรขึ้น ใครทำอะไรให้เราไม่พอใจอีก”
“ก็จะมีใครละ นอกจากผู้ชายปากร้ายคนนั้นอ่ะ...”ร่างบางพูดก่อนจะตวัดสายตามองไปยังร่างสูงที่เพิ่งเดินตามหลังเธอออกมาได้ไม่นาน เห็นหน้าแล้วก็เซ็งอยากจะกลับบ้านไปนอนให้มันหายโมโห คำพูดแรง ๆ ที่ทำเธอเจ็บแสบไปทั้งทรวงยังวนเวียนอยู่ในหูไม่กระเด็นไปไหนเลยสักนิด
“ก็เล่ามาสิว่ามันเกิดอะไรขึ้น”ชิลินถามย้ำขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับมองหน้าน้องสาว เจ้าขาแอบถอนหายใจออกมาก่อนจะกรอกตามองบนแล้วเล่าเหตุการณ์เมื่อก่อนหน้านี้ให้พี่สาวเพียงคนเดียวของเธอฟัง ชิลินเองก็เป็นผู้รับฟังที่ดี เธอไม่ได้พูดแทรกอะไรออกไปเลยรอให้น้องสาวของเธอนั้นพูดให้จบก่อน
“พี่เจอยาดับความมั่นน้องสาวพี่ละ...”
“ยาดับความมั่นอะไรของพี่อ่ะ นี่เจ้าขาซีเรียสนะ พี่เองก็ควรจะซีเรียสที่น้องสาวโดนว่าแบบนี้”
“พี่ไม่เข้าข้างเจ้าขานะ เพราะเจ้าขาเสียมารยาทไปแอบฟังพวกเขาคุยกัน”
“เจ้าขาอยู่ตรงนั้นก่อน สองคนนั้นเดินตามมาทีหลังเองอ่ะ เจ้าขาไม่ได้แอบฟังซะหน่อย”คุณหนูคนสวยยังคงพยายามเถียงแบบข้าง ๆ คู ๆ ถ้าพูดแบบภาษาโบราณก็คือหญิงสาวกำลังเถียงจนสีข้างถลอกไปหมด ชิลินมองน้องสาวอย่างรู้ทันที่ยังคงทำหน้าเฉไฉไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น แถมยังไม่ยอมรับว่าตัวเองก็มีส่วนผิดที่ไปยืนแอบฟังคนสองคนเขาคุยกันและมันเป็นสิ่งที่ไม่ควร
“คิดว่าพี่ไม่รู้จักนิสัยน้องสาวของตัวเองหรอไงเจ้าขา จริง ๆ พอเจ้าขาเห็นว่าเฟลิกซ์กับบีน่าเดินเข้ามา เจ้าขาไม่ต้องเข้าไปหลบเลยด้วยซ้ำ เจ้าขาเดินออกมาจากตรงนั้นเลยก็ได้ให้พวกเขาได้ใช้เวลาด้วยกัน”
“แต่เจ้าขาเลือกที่จะไปยืนหลบหลังพุ่มไม้แล้วแอบฟังเขาสองคนคุยกัน แถมคุยเรื่องสำคัญ พี่ว่าพี่เข้าใจความรู้สึกของเฟลิกซ์นะที่เขาว่าเจ้าขามาแบบนั้น”
“ยอมรับมาเถอะว่าเจ้าขาตั้งใจแล้วก็อยากจะฟังว่าเขาสองคนคุยกันอะไรกัน...” หมดคำจะแก้ตัว ร่างบางถอนหายใจออกมาหลังจากถูกพี่สาวพูดไล่ต้อนแบบนี้ แถมพี่สาวของเธอยังดูจะไปเข้าข้างเฟลิกซ์ซะมากกว่า
“โอเค ๆ ยอมรับก็ได้ว่าแอบฟังจริง ๆ ก็คนมันอยากรู้นิพี่ชิลิน”
“แต่ก็ไม่เห็นต้องว่าเจ้าขาแรงแบบนี้เลย เราพูดกันดี ๆ ได้นะ แล้วดูพูดออกมาแต่ละอย่างทำเหมือนเจ้าขาเป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจสุด ๆ”
“ไหนใครบอกพี่เฟลิกซ์เป็นคนนิ่ง ๆ ไม่ค่อยพูดค่อยจา”
“ดูแต่ละคำที่ว่าเจ้าขา ไม่ได้มคำหยาบเลยนะ แต่แทงใจเจ้าขาสุด ๆ หน้าชาหน้าสั่นไปหมดเลย ตั้งแต่เกิดมานะเจ้าขายังไม่เคยโดนใครด่าขนาดนี้มาก่อนเลย”ร่างบางพูดออกไปอย่างรู้สึกเจ็บใจไม่หายที่โดนชายหนุ่มตั้งท่ารังเกียจแล้วด่าฉ่ำไม่สนอะไรเลยทั้งนั้น
“ลองโดนว่าบ้างก็ดีแล้ว เจ้าขาจะได้นึกถึงใจคนอื่นเขาเยอะ ๆ แล้วมันก็ไม่แปลกที่พี่เขาจะว่าเรากลับมาขนาดนี้ แล้วก็รู้ตัวไว้ด้วยว่าตัวเองก็ผิด”
“มันคือช่วงเวลาสำคัญของเฟลิกซ์และผู้หญิงที่เขารัก เพราะฉะนั้นการที่มีบุคคลที่สามไปแอบฟัง แถมยังได้รับรู้เรื่องที่ไม่ควรรับรู้ เป็นใครก็คงโกรธ”
“มันต้องใจเขาใจเราเจ้าขา”ชิลินพูดสอนน้องสาวให้เห็นอีกแง่มุมหนึ่ง เพราะการที่เฟลิกซ์จะโมโหน้องสาวของเธอขนาดนั้นมันก็ไม่แปลก แต่คำพูดมันก็ฟังดูรุนแรงมากเกินไปสำหรับผู้หญิงอย่างเจ้าขาซึ่งไม่เคยถูกใครต่อว่าขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต เพราะอีกคนเขาอาจจะกำลังผิดหวัง เสียใจ สับสนกับการถูกหญิงสาวที่คิดว่ารู้สึกแบบเดียวกันปฏิเสธรัก ส่วนอีกคนก็ดันไปแอบฟังแอบดูช่วงเวลาสำคัญแบบนั้น แถมยังได้รู้อีกมุมว่าเขาถูกปฏิเสธรักมาอีก...
“พี่ชิลินอ่า นี่เจ้าขาเป็นน้องพี่นะ”
“เข้าข้างเจ้าขาหน่อยก็ได้อ่า”ร่างบางบนอุบอิบพร้อมกับทำหน้างอที่พี่สาวไม่เข้าข้างเธอเลยสักนิด
“ไม่เข้าข้างหรอก โดนดับมั่นซะบ้าง เจ้าขาจะได้รู้ว่าโลกใบนี้มันไม่ได้หมุนรอบตัวเจ้าขานะ”
“เจ้าขาต้องเข้าใจความรู้สึกคนอื่นเขาบ้าง ถ้าคิดได้แล้ว ละถ้ามีโอกาสมีจังหวะก็เข้าไปขอโทษเฟลิกซ์เข้าซะ ถ้ายังอยากมีโอกาสเข้าใกล้เขาหรืออยากได้เขามาน่ะ”
“ถึงแม้โอกาสที่จะคว้าหัวใจของเฟลิกซ์มาครองจะติดลบร้อย แต่อย่างน้อยการขอโทษเขาด้วยความจริงใจและความรู้สึกผิดจริง ๆ ก็อาจจะทำให้ความรู้สึกติดลบนั้นเบาลง...”ชิลินเอ่ยพร้อมกับมองหน้าน้องสาวหวังให้น้องของเธอนั้นคิดได้บ้าง ไม่ใช่เอาแต่ความรู้สึกตัวเองเป็นหลักเหมือนที่ผ่านมา
และเธอก็ได้รู้แล้วว่ายาดับความมั่นแถมยังช่วยระงับความซ่าของน้องสาวเธอนั้นชื่อ เฟลิกซ์
ซึ่งเป็นตัวยาหายากซะด้วยสิ....