"เรื่องคืนนั้น…คุณยังจำได้ไหมครับ"
ให้ตายเถอะ…แปลว่าเขาจำได้!
ฉันได้แต่ยืนหันหลังตัวแข็งไปทั้งตัว หัวใจเต้นอึกระทึกครึกโครมราวจะหลุดออกมาให้ได้ สมองประมวลผลอะไรไม่ทันในขณะที่คุณไคเรนกำลังลุกมาหา แล้วมาหยุดตรงหน้าฉันที่รีบหลบสายตาทันที
"ผมไม่เคยลืม" เขาเน้นย้ำใส่ฉัน ไม่ใช่แค่เขา ตลอดเวลาสามเดือนที่ผ่านมา ฉันก็ไม่เคยลืมเรื่องคืนนั้นเหมือนกัน
"คะ คือฉัน…" ฉันพูดอะไรไม่ออกจริง ๆ อยู่ ๆ เนื้อหาในสมองมันก็วิ่งหนีฉันจนไม่เหลืออะไรให้พูดสักคำ
"ผมตื่นมาคุณก็หนีผมไปแล้ว" คุณไคเรนเริ่มฉายสีหน้าไม่พอใจ โดยปกติวันไนท์แสตนด์เขาก็ทำแบบนี้กันไม่ใช่เหรอ พอใจก็แยกทาง ในเมื่อเราสองคนได้ในสิ่งที่ต่างฝ่ายต่างต้องการ ทุกอย่างก็ต้องจบลง อีกอย่างฉันก็ไม่มีหน้าที่ไหนเอาไปเผชิญหน้ากับเขาตอนมีสติ ไม่รู้เขาจะคิดอย่างไรกับผู้หญิงที่เจอกันครั้งแรกกลับขอให้มีอะไรกันด้วย สำหรับคนอื่นเรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องธรรมดาทั่ว ๆ ไป แต่สำหรับฉันมันไม่ใช่ ฉันกลัวว่าเขาจะมองฉันไม่ดีแน่นอนว่าคงไม่จริงจังไปกว่านั้น
"ฉัน…ฉันขอโทษค่ะ" สองมือที่เปียกชุ่มประสานกันแน่น ฉันไม่รู้ว่าควรพูดอะไรออกไป เว้นแต่คำขอโทษที่เป็นสิ่งเดียวที่ฉันนึกออก
"แสดงว่าจำผมได้ตั้งแต่ครั้งแรก แต่แกล้งจำกันไม่ได้สินะครับ"
"…" ฉันเม้มปากแน่น ใบหน้าหล่อฟ้าประทานออร่าพุ่งทะลุขนาดนั้นใครจะลืม แถมคืนนั้นก็เป็นคืนที่ฉันยอมรับว่ามีความสุขจนล้น ทุกอย่างยังชัดเจนราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานด้วยซ้ำ
"ถ้าคุณอยากให้เป็นแบบนั้นก็ตามนั้นครับ ไปทำงานเถอะครับคุณเฌอแตม"
"ค ค่ะ" ฉันรีบเดินออกมาจากห้องทันที ใจเต้นแทบจะทะลุออกมา ในที่สุดมันก็ผ่านพ้นไปได้สักที แต่ก็คงจะลำบากใจทุกครั้งที่เจอ อย่างไรคนมันเคยไปแล้วจะให้ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็คงไม่ได้
แต่ช่างเถอะ…พี่ใหม่บอกว่าเขาไม่ค่อยเข้ามาที่นี่ ส่วนใหญ่ก็ปักกลักกับงานหลักของเขาเป็นเดือน ๆ กว่าจะได้เจอตัว นาน ๆ ครั้งได้สู้หน้าอย่าจังฉันว่าฉันพอสู้หน้าเขาได้
…
…
แค่ก ๆ
"กะ แกว่าไงนะ!"
"พ่อของลูกฉันเป็นเจ้าของแกลอรี่ WHITE COAT" คนสำลักน้ำหน้าดำหน้าแดงเบิกตาโพรงจดจ้องฉันที่เพิ่งจะพูดจบ ทอฝันก็แทบไม่อยากเชื่อเหมือนฉัน ทั้งที่โลกตั้งกว้างมีผู้คนนับล้านสิบล้านคนแต่สวรรค์ก็ยังลิขิตให้เราโคจรมาเจอกันอีกครั้ง
ไม่รู้ว่าพรหมลิขิตหรือพรมเช็ดเท้า สวรรค์หรือนรกทำให้ฉันต้องตกอยู่ในสถานการณ์น่าปวดหัวแบบนี้
"OMG ไม่อยากจะเชื่อ!!!"
"ไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อ นึกว่าจะจำกันไม่ได้ แต่ผิดคาดเขาจำหน้าฉันแม่น"
"จริงเหรอ แล้วยังไงต่อ แกได้บอกเรื่องลูกไปไหม" ทอฝันรีบวางทุกอย่างในมือแล้วพุ่งตัวมาหาฉัน บ่งบอกได้เลยว่าเพื่อนใส่ใจเรื่องของฉันมากแค่ไหน
"แกจะบ้าเหรอ วันไนท์แสตนด์ผ่านไปตั้งสามเดือน อยู่ ๆ จะให้ฉันบอกว่าฉันมีลูกกับเขาเนี่ยนะ" เขาได้ตกใจแล้วไล่ตะเพิดออกมาสิ
"แกพูดแบบนี้ แปลว่าแกจะไม่บอกเขาใช่ไหม" นิ้วชี้เรียวชี้ใส่หน้าฉันพร้อมน้ำเสียงเข้ม
"อือ"
"ยัยแตม!!!" จนฉันเค้นเสียงตอบในลำคอ ยัยทอฝันก็ถอนหายใจเรียกชื่อฉันโวยวายทันที ฉันตั้งใจว่าแล้วว่าจะเลี้ยงเขาคนเดียว ทุกอย่างเป็นความผิดพลาดของฉันอย่างไรฉันก็ต้องรับผิดชอบ และจะไม่ยอมดึงใครมารับผิดชอบร่วมด้วย เป็นทั้งพ่อทั้งแม่ให้เขาฉันว่าฉันทำได้
"ฉันว่าแกรู้ดีที่สุดว่าเด็กที่เกิดมาในครอบครัวที่ไม่พร้อมจะรู้สึกยังไง วันหนึ่งถ้าลูกแกถามหาพ่อขึ้นมาแกคิดว่าตัวเองไหวแน่เหรอ"
"เพราะฉันรู้ดีที่สุด ฉันจึงมั่นใจว่าจะผ่านมันไปได้แน่นอน" ฉันลูบหน้าท้องที่มีก้อนน้อย ๆ อยู่ในนั้น แน่นอนว่าแม่สัญญาว่าแม่จะดูแลหนูให้ดีที่สุด หนูจะต้องได้รับความรักความอบอุ่นจากแม่คนนี้ หนูจะเป็นคนพิเศษของแม่ และเป็นของขวัญของแม่แม้แม่จะไม่ได้ตั้งใจจะมีหนูก็ตาม
"เฮ้อ…ถ้าแกตัดสินใจแบบนั้นฉันก็จะอยู่ข้าง ๆ แก เอาไงเอากันนะลูกบุญธรรมของแม่" ฉันยิ้มให้กับทอฝันผู้เป็นทุกอย่างสำหรับฉันตอนนี้ แล้วเราจะผ่านมันไปให้ได้ ชีวิตของหนูและแม่จะไม่ตกต่ำไปกว่านี้ แม่ให้สัญญา…
เช้าวันต่อมา
เป็นอีกวันที่พนักงานเงินเดือนอย่างฉันต้องไปทำงานตามปกติ เพิ่มเติมคือวันนี้ลูกของฉันไม่แผลงฤทธิ์ฉันจึงนอนหลับสบายทั้งคืน ตื่นมาก็สดชื่นแจ่มใสวันนี้สามารถทำงานภัณฑารักษ์ที่รักได้อย่างเต็มที่แน่นอน
"หน้าตาสดใสขึ้นนะแตม เริ่มปรับตัวได้แล้วใช่ไหม?" พี่ใหม่รวมถึงคนอื่น ๆ ยิ้มหวานให้ฉัน ทุกคนพร้อมหน้ากันทำหน้าที่มีหน้าตาสดใสไม่ได้ต่างกัน คงไม่เพียงแค่ฉันที่รู้สึกโชคดีที่ได้ทำงานแกลอรี่ WHITE COAT แห่งนี้
"ค่ะพี่ใหม่ พร้อมทำงานมาก ๆ เลยค่ะ"
"ดีเลย วันนี้เราจะมาเตรียมตัวกับโปรเจ็กต์ ART UNDER THE COAT ซึ่งเป็นโปรเจ็กต์สำคัญของแกลอรี่ WHITE COAT ของเรา"
"แตมพอจะรู้ว่านิทรรศการนี้พิเศษกว่าโปรเจ็กต์อื่น ๆ ของ WHITE COAT แต่สงสัยว่าทำไมมันถึงพิเศษกว่าล่ะคะ หรือเพราะผลงานที่โดดเด่นของคุณ KR" KR คือหนึ่งในเจ้าของผลงานโปรเจ็กต์นี้ ซึ่งเป็นศิลปินอันดับหนึ่งในดวงใจของฉันเพราะการสื่อสารผ่านรูปภาพของเขาจับใจฉันมากจริง ๆ
"ที่แตมเข้าใจก็ถูกนะ โปรเจ็กต์นี้นอกจากจะมีผลงานของเด็ก ๆ จากสถานสงเคราะห์แม่กันตา ยังมีอีกหนึ่งศิลปินที่สำคัญนั่นคือคุณ KR หรือบอสของเรานั่นเอง" ฉันเบิกตาโพรงอย่างไม่น่าเชื่อ KR ย่อมาจากไคเรน ทำไมฉันคิดไม่ได้ นอกเสียจากเจ้าของแกลอรี่เขายังเป็นศิลปินเองด้วยอย่างนั้นเหรอ ฉันไม่แปลกใจเลยที่คนอย่างเขาจะตามตัวยาก ทั้งเจ้าของแกลอรี่ ศิลปิน และงานหลักที่ฉันไม่รู้ คงจะมีอีกหลายอย่างที่น่าทึ่งในตัวของเขา จากการคุยครั้งนั้นฉันสัมผัสได้ว่าเขาเป็นคนเก่ง แต่ก็ไม่คิดว่าจะเก่งมากขนาดนี้เหมือนกัน
"นอกจากพวกเราก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าเจ้าของผลงานเป็นใคร บอสเขาไม่เปิดเผยตัวตนน่ะ" ถึงว่าล่ะ…ฉันไม่เคยรู้เลย เพราะผลงานของคุณ KR ทำให้ฉันตั้งใจสมัครเป็นภัณฑารักษ์ของแกลอรี่ WHITE COAT แม้จะเป็นองค์กรขนาดเล็กแต่ก็มีชื่อเสียงไปไกลถึงต่างประเทศ นอกจากคุณ KR ที่ลากฉันมาแล้วที่นี่ก็ยังผลิตผลงานที่ดีเยี่ยม นิทรรศการที่ดึงดูดใจคนดูให้หลงไหลในผลงานศิลปะ รวมไปถึงตัวฉันที่ตั้งหน้าตั้งตารอชมนิทรรศการของเขาทุกปี ดีใจมากที่ครั้งนี้จะได้เป็นส่วนหนึ่งของคนที่สร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเอง
"ถ้างั้นเราไปกันเลยไหม บอสรออยู่ในห้องแล้ว"
"บะ บอสด้วยเหรอคะ?" ไหนบอกว่าทั้งเดือนแทบจับตัวเขาไม่ได้ แต่นี่มันวันที่สามของการทำงาน แต่ฉันกลับเจอเขาถึงสองครั้งแล้ว
"เป็นทั้งศิลปิน ทั้งเจ้าของแกลอรี่ โปรเจ็กต์ใหญ่ ๆ จะขาดบอสได้ไงเล่า"
"นั้นน่ะสิ" ถามอะไรไม่เข้าท่าเลยยัยแตม