บทที่ 02 จูบแรก

1883 Words
"ชีวิตคุณน่าสนุกดีนะคะ" ร่างสวยนั่งยิ้มฟังคนที่กำลังเล่าเรื่องราวการทำงานผ่านบทสนทนาที่รื่นไหลตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา ตลอดการพูดคุยระหว่างเขาและเธอไม่ได้ทำให้ใครคนใดคนหนึ่งรู้สึกน่าเบื่อขึ้นมาเลย ยิ่งในตอนที่ชายหนุ่มเล่าเรื่องราวการตามหาความฝันที่ผ่านมาเธอก็ยิ่งนั่งฟังเพลิน ๆ จนรู้สึกตัวอีกทีก็เริ่มเมามายด้วยแอลกอฮอล์ที่นั่งชนแก้วกับเขานับครั้งไม่ถ้วน "ชีวิตผมน่าเบื่อจะตายครับ ที่คุณเห็นก็แค่เปลือกนอก" "แล้วสุดท้ายคุณได้ทำตามความฝันหรือเปล่าคะ?" เฌอแตมเอียงคอมองคนถาม ดวงตากลมเริ่มหรี่ลงสู้แสงในผับไม่ค่อยไหว "ครับ ผมได้ทำอย่างที่ต้องการ ถึงจะไม่ได้เต็มที่เท่าไหร่ แต่ก็รู้สึกดีที่ได้ทำ" "ดีจังนะคะ อย่างน้อยคุณก็ได้ทำตามฝัน" "แล้วคุณมีความฝันที่อยากทำไหมครับ?" "มีสิคะ…แต่คงไม่มีโอกาส" "ความฝันคุณคืออะไรเหรอครับ?" แล้วร่างสวยอมยิ้มจมอยู่ในความฝันที่กำลังนึกถึง แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ทำสักครั้งจึงไม่เคยได้พูดกับใครที่ไหน "ฉันอยากเปิดแกลอรี่เป็นของตัวเองค่ะ" ความฝันอันสูงสุดที่ก่อนหน้ายังพอมีความหวัง กระทั่งทุกอย่างกลับพังทลายลงด้วยฝีมือแฟนเก่าคนเดียว อาชีพที่มั่นคงมากพอจะเก็บเงินเพื่อเดินตามความฝันก็พังลงไปด้วย "คุณอยากเป็นศิลปินเหรอครับ" "ฉันไม่กล้าเรียกตัวเองแบบนั้นหรอกค่ะ ส่วนตัวฉันแค่เป็นคนหลงใหลในงานศิลปะ เวลาเหนื่อย ๆ ได้เห็นหรืออยู่ใกล้มันก็ทำให้ความเหนื่อยมันหายเป็นปลิดทิ้ง ยิ่งผลงานของศิลปินในดวงใจก็เหมือนยิ่งสร้างพลังให้ฉันดำเนินชีวิตต่อไปทุกวัน" แล้วรอยยิ้มหวานก็ค่อย ๆ หุบลงเช่นเดียวกับความฝันที่ดับวูบลงตาม แววตาที่เปล่งประกายในตอนแรกค่อย ๆ จางหายไปช้า ๆ แทนที่ด้วยความเคว้งคว้างที่ประสบพบเจอเข้ามา หนำซ้ำยังอาภัพรัก ไม่เคยแม้แต่เรื่องเดียว ในชีวิตไม่มีอะไรที่ได้ดั่งใจสักอย่างเลย "ผมว่าลองเริ่มจากอะไรเล็ก ๆ ก่อนไหมครับ" "ยังไงเหรอคะ?" "แทนที่จะมองว่าการถูกไล่ออกเป็นเรื่องแย่ ๆ ในชีวิต ทำไมคุณไม่ลองเปลี่ยนความคิดว่านี่มันอาจจะเป็นโอกาสก็ได้ โอกาสที่คุณจะได้เริ่มทำในสิ่งที่ชอบ" คำพูดของเขาเหมือนทำคนท้อแท้กลับมามีความหวัง "คุณหมายถึงให้ฉันไปลองทำงานในแกลอรี่ก่อนเหรอคะ?" "คิดเสียว่าเป็นการศึกษาเพื่อต่อยอด ผมว่ามันเป็นการเริ่มต้นที่ดีนะครับ" มันก็จริงอย่างที่เขาว่า…ถึงตอนนี้เธอจะมีทุนพอจะเปิดแกลอรี่เป็นของตัวเองอย่างที่ตั้งใจได้แล้ว แต่สิ่งที่เธอยังขาดนั่นคือประสบการณ์การทำงานจริงในสถานการณ์จริงที่ไม่ใช่เพียงผลลัพธ์ที่เห็นว่ามันออกมาสวยงาม ภายใต้ผลงานพวกนั้นมันอาจจะเต็มไปด้วยปัญหาและแรงกดดัน อย่างน้อยการได้อยู่ตรงนั้นในฐานะของพนักงานคนหนึ่ง มันก็ดีกว่าฐานะของเจ้าของแกลอรี่ที่น้อยประสบการณ์และอาจจะทำพังลงด้วยมือของตัวเอง "ขอบคุณนะคะ ได้คุยกับคุณฉันรู้สึกสบายใจมากเลย" เฌอแตมยิ้มด้วยสายตาหวานเยิ้ม อาจจะด้วยความเมาและความชอบที่เริ่มก่อขึ้นเธอเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน "ใช้ความรักความหลงใหลในงานศิลป์มาเป็นพลังให้คุณทำตามความฝันให้ได้นะครับ ผมหวังว่าสักวันผมจะได้ถือดอกไม้เดินไปแสดงความยินดีกับเจ้าของแกลอรี่คนใหม่นะครับ" เฌอแตมยิ้มรับกำลังใจจากคนที่เพิ่งเจอไม่กี่ชั่วโมง จากคนที่เป็นแฟนนานนับปีไม่เคยจะได้กำลังใจหรือคำพูดที่เยียวยาหัวใจเลยสักครั้ง แต่กับคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกลับรู้สึกดีขึ้นมาอย่างประหลาด เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยได้จากที่ไหนมาก่อน ยิ่งเขาเข้ามาในเวลาที่อ่อนแอ หัวใจที่อ่อนไหวกว่าทุกวันก็ยิ่งรู้สึกหลวมตัวอยากจะเป็นของเขาเสียอย่างนั้น "ฉันมัวแต่เล่าเรื่องของตัวเองไปเยอะเลย แล้วคุณจะไม่ยอมบอกฉันหน่อยเหรอคะ ความฝันที่คุณเล่าให้ฉันฟังคืออาชีพอะไร" คนเมาว่าจบก็ยกขึ้นดื่มอีกแก้ว แก้มแดง ๆ เริ่มฟ้องว่าเธอเริ่มคุมสติไม่ไหว "เป็นครั้งหน้าถ้าเราเจอกันอีก ผมจะบอกคุณแน่นอน แต่ตอนนี้ผมว่าคุณควรกลับบ้านได้แล้ว มีเพื่อนที่ไว้ใจไหมครับสภาพนี้คุณคงกลับเองไม่ไหว" "แต่ฉันยังไม่อยากกลับเลยค่ะ…" คนเมาเซซบไหล่กว้างของชายหนุ่มที่ทั้งถูกใจและถูกคอ ยอมรับตามตรงว่าเธอไม่อยากให้ค่ำคืนนี้มันจบลงเลยสักนิด ยังคงอยากอยู่กับเขาต่อไปเรื่อย ๆ มองหน้าหล่อ ๆ ของเขาต่อไปแบบนี้ "แต่ร้านใกล้จะปิดแล้วนะครับ" คนตัวโตไม่ได้ดันตัวออก แต่ก็ไม่ได้โอบตัวเธอไว้ทำแค่เพียงประคองมืออยู่ห่าง ๆ เพราะกลัวว่าคนบนตัวจะร่วงลงไป "แต่ฉันยังอยากอยู่กับคุณ…" นัยน์ตาสวยจดจ้องเจ้าของแผ่นอกกว้างนั้นไม่ละสายตา เช่นเดียวกับเขาคนนั้นที่ไม่ถอดถอนสายตาจากเธอเลยสักนิด "รู้ตัวไหมครับว่าพูดอะไรออกมา" "ถ้าบอกว่ารู้ตัวล่ะคะ" "ผมเองก็รู้ตัวเหมือนกัน" สิ้นเสียงนั้นเจ้าของใบหน้าหล่อก็กดใบหน้าครองครองริมฝีปากที่เย้ายวนสายตา เหมือนมีอะไรบางอย่างที่ดึงดูดไม่ให้เขาปล่อยโอกาสนั้นจนรู้ตัวอีกทีก็อยากจะครอบครองอยากเป็นเจ้าของมัน "ขอโทษนะครับ ผมว่าผมโทรหาเพื่อนคุณดีกว่าครับ" ชายหนุ่มผละริมฝีปากออกมาจากคนหลับตาพริ้มรับรสจูบอย่างลืมตัว จนถูกเขาประคองให้กลับมานั่งดี ๆ พร้อมจะขยับถอยห่างออกแต่แล้วอยู่ ๆ แขนหนาก็ถูกดึงด้วยฝีมือใครบางคนที่ไม่อยากให้ไป เสียจูบแรกไปแล้ว แน่นอนว่าเธอจะไม่ยอมปล่อยมันไปง่าย ๆ … "เราลองมีเซ็กส์กันดูไหมคะ?" "ครับ?" ร่างหวานทำให้เขาเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ คนตัวเล็กตรงหน้าดูเปลี่ยนไปคนละคน เธอไม่ได้ยิ้มบอกอย่างคนล้อกันเล่น แต่กำลังทำหน้าจริงจังโดยการชักชวนผู้ชายแปลกหน้าที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรกขึ้นเตียง ชายหนุ่มไม่ทันตอบ… "เอ่อ…คุณคงไม่สะดวก ฉันขอตัวก่อนนะคะ" คนว่าจบเหมือนจะได้สติเล็ก ๆ รีบเอื้อมหยิบกระเป๋ามาถือไว้เตรียมจะหมุนตัวเดินออกไป รู้สึกหน้าชาเล็กน้อยกับความใจกล้าที่ถูกปลุกด้วยแอลกอฮอล์ที่เผลอพูดออกไปแบบนั้น บวกกับความอยากลองทำอะไรใหม่ ๆ เพื่อประชดชีวิต ทุกอย่างประเดประดังจนไม่แปลกที่เขาทำท่าเหมือนจะปฏิเสธ "เดี๋ยวครับ…" ชายหนุ่มคว้าแขนบางก่อนที่เธอจะเดินพ้น ทำเอาเธอชะงักปรายมองแล้วยืนนิ่ง "เมื่อกี้พูดเล่นไหมครับ?" "ฉัน…" เฌอแตมเริ่มลังเล "ผมตกลง" ว่าจบเรือนร่างอรชรก็ถูกจับมือลากออกมาจากหน้าผับ โดยไม่พูดพร่ำเขาก็จับเธอยัดใส่รถหรูที่จอดลานวีไอพี ความมีสติอันน้อยนิดทำให้เฌอแตมพลอยจมอยู่ในอาณัติเขาอย่างง่ายดาย "ระ เรากำลังจะไปไหนคะ?" "โรงแรมครับ" สิ้นเสียงนั้นรถราคาแพงก็ถูกติดเครื่องยนต์แล้วขับพุ่งออกไปด้วยความเร็วแสง ก่อนที่จะถึงโรงแรมระดับห้าดาวภายในห้านาทีหลังจากนั้น ปึก! เสียงประตูปิดลงพร้อมกับเฌอแตมที่ยืนนิ่งหน้าประตู เธอกวาดสายตามองรอบ ๆ ห้องใหญ่โตด้วยความรู้สึกอึกอักใจแปลก ๆ เริ่มไม่แน่ใจกับสิ่งที่เพิ่งจะรับปากเขาไป "คุณจะเปลี่ยนใจไหมครับ?" ชายหนุ่มเหลือบมองคนลังเล เขาไม่ได้แสดงทีท่าจะขืนใจ หากเธอไม่เต็มใจเขาก็พร้อมจะหยุดทุกอย่าง "ฉัน…ไม่เปลี่ยนใจค่ะ" เฌอแตมยังคงยืนยันคำเดิม แม้เสียงจะไม่หนักแน่นเท่าครั้งแรก แต่ก็ยังคงใจกล้าไม่ต่างจากตอนชวน "แน่ใจนะ เพราะถ้าผมเริ่มแล้ว หยุดไม่ได้แล้วนะครับ" เจ้าของเสียงทุ้มเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า เขาช้อนสายตาถามเธอเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ทุกอย่างจะเริ่มขึ้น "ฉันแน่ใจค่ะ" สิ้นเสียงนั้นเจ้าของร่างบึกบึนก็กระตุกยิ้มขึ้นมา พร้อมทั้งไล่เรียวนิ้วยาวตามกรอบหน้าของคนตัวเล็กกว่า เพียงเท่านั้นเฌอแตมก็รู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งเรือนร่าง วันนี้ความสาวความใสคงจะขาดสะบั้นให้คนที่ไม่แม้แต่จะรู้จักชื่อเสียงเรียงนาม แต่สำหรับวันไนต์สแตนด์คงไม่จำเป็น ยิ่งไม่รู้ข้อมูลกันและกันก็ยิ่งดี จะได้ตัดขาดกันง่าย ๆ แค่ครั้งเดียวทุกอย่างก็จะจบลงรวมไปถึงความรู้สึกของเธอด้วย "ขอจูบอีกได้ไหมครับ?" เฌอแตมเม้มปากเป็นเส้นตรง ระงับความตื่นเต้นด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ แต่เมื่อเห็นสายตาของคนที่รอคำตอบเธอจึงพยักหน้าลงช้า ๆ ราวกับถูกมนต์สะกดที่ไม่ว่าเขาจะขออะไรเธอก็อยากให้ทุกอย่างตามที่ต้องการ แล้วจูบครั้งที่สองในชีวิตจากคนคนเดิมก็ถูกเขาปนเปรอเข้ามาอีกครั้ง ร่างเล็กหลับตาพริ้มแล้วยืนนิ่งตัวแข็งทื่อ เธอปล่อยให้คนไม่รู้จักทักทายริมฝีปากอมชมพูที่ไม่เคยยอมให้ใคร แม้กระทั่งคนที่คบมาเป็นปีก็ไม่เคยได้สิทธิ์นั้นสักครั้ง แต่เมื่อผลการตอบแทนของการเป็นคนดีแบบเธอดันถูกหักหลัง ความคิดมันจะเปลี่ยนไปก็ไม่แปลก ยิ่งเป็นเขาที่อยู่ตรงหน้า ยกให้เป็นจูบแรกก็ไม่มีอะไรต้องเสียดาย มือหนากดเอวคอดเข้าประชิดตัว เขาส่งลิ้นร้อนทักทายโพรงปากหวานแล้วฉกชิมทุกความต้องการอย่างดูดดื่ม ลิ้นซนเกี่ยววนกันจนปากชุ่มด้วยน้ำลาย แลกลิ้นกันนัวเนียเป็นจูบที่ทำเธอดำดิ่งสู่ห้วงอารมณ์ รู้ตัวอีกทีเฌอแตมก็ถูกกดลงบนเตียงนอนกว้าง โดยมีร่างสูงขึ้นคร่อมแล้วไม่หยุดที่จะนัวเนียกับเรียวปากบาง เป็นการจูบที่เนิ่นนานแม้แต่คนไม่เคยก็ไม่คิดอยากจะถอดถอนให้เสียดาย เขาทำให้เธอติดอยู่ในอารมณ์สวาทที่ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะรู้สึกดีได้มากขนาดนี้ รู้สึกดีมากจริง ๆ "อื้อ…" "ชอบไหมครับ?" "ชะ ชอบค่ะ คุณทำอีกได้ไหม…" "ถ้าคุณชอบผมจะทำให้ทั้งคืน"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD