Ep 4 กลับบ้านด่วน
"ครับพ่อ"
"แม่อาการไม่ค่อยดีแกบินกลับมาหน่อย"
"แม่เป็นอะไรครับ"
"มาดูเองเถอะ…จะบินตอนไหน"
"มีเรียนแค่ช่วงเช้าเดี๋ยวหาตั๋วกลับเลยครับ"
ฉันที่นั่งอยู่ในรถเพราะเขาไปรับที่บ้านมามหาลัยพร้อมกัน ได้ยินบทสนทนาเต็มสองหูก็อดเป็นห่วงแม่หลันของฉันไม่ได้ หน้าตาของพี่เมฆตอนนี้ดูกังวลมากฉันเลยเสนอตัวเองช่วยเขาเรื่องจองตั๋วเครื่องบินให้ แล้วก็เลยถามถึงอาการแม่หลันด้วย
"แม่หลันเป็นอะไรคะ"
"ไม่รู้พ่อบอกให้รีบลงไป"
"พี่เมฆจะไปตอนไหน"
"เดี๋ยวถึงมหาลัยพี่จะดูไฟล์ทบินถ้ามีบ่ายพี่จะบินเลย"
"เซย์ไปด้วยนะ"
"พ่อตินจะยอมหรอ"
"ยอมสินี่แม่หลันนะเผลอ ๆ แม่เซย์อาจจะบินตามไปก็ได้"
"งั้นเซย์ดูตั๋ว…ถ้าได้เดี๋ยวพี่จะโทรบอกพ่อตินเอง"
ผมกำลังกังวลเรื่องแม่แต่ก็กังวลเรื่องเซย์ด้วย ถ้าน้องจะไปด้วยผมเองไม่ได้จะขัดแต่กลัวบ้านน้องต่างหากจะไม่ชอบใจ เฮียแฝดเองก็ไม่เคยปล่อยเซย์ไปไหนไกล ถ้าครั้งนี้เซย์ไปก็เท่ากับอยู่ตามลำพังกับผม แถมยังต้องนอนค้างที่ไร่ด้วยถึงจะไปประจำแต่รอบนี้มันก็ไม่เหมือนเดิมโดยเฉพาะเรื่องของเรา ผมเหลือบมองเซย์เห็นน้องจริงจังมากกับการหาตั๋ว ก็เป็นภาพที่แปลกตาดีเราไม่เคยทำอะไรแบบนี้ด้วยกันเลย เวลาปกติเซย์มักอยู่กับมิน หมอก กับผมเซย์มักจะมีระยะห่างเสมอ แต่ไม่ถึงกับไม่พูดไม่จาเธอยังเป็นเธอยิ้มเก่ง ปากหวานยิ่งกับแม่ผมแล้วยิ่งไปกันใหญ่แม่หลันขาเซย์อย่างนั้น เซย์อย่างนี้ทั้งวัน
"เซย์ไม่มีเรียนบ่ายงั้นเอาเร็วสุดเนอะ"
"อืม"
"เราต้องค้างด้วยเซย์กลับไปเก็บเสื้อผ้าทันไหมเนี้ย"
"ที่ไร่ก็มีอยู่"
"เซย์ลืมไปเลยงั้นก็ไม่ต้องกลับบ้านไปเก็บของก็ได้"
บ้านใหญ่ของย่าผมปรับห้องนอนแขกให้เป็นห้องนอนของพ่อตินแม่ซัมเมอร์ห้องหนึ่ง ห้องพี่แฝดทั้งสามนอนด้วยกันอีกห้อง ห้องเล็กสุดคือห้องเซย์ ย่าผมเป็นคนทำให้เองบอกเซย์เป็นผู้หญิงโตแล้วจะนอนรวมกับคนอื่นไม่ได้ เลยทำให้มีเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ของเซย์ครบไปแต่ตัวก็อยู่ได้สบาย
"เอาบัตรพี่จ่าย"
"อยู่แล้วละเซย์ไม่มีเงินหรอก"
"งั้นเก็บบัตรไว้เลยเอาไว้ซื้อขนม"
"ใจดีเกิ๊น…ไม่น่าไว้ใจอะ"
"เอาไม่เอา 1 2 …"
"รูดขนมกินฟรีใครจะไม่เอา…ขอบคุณนะคะนายหัวเมฆ"
พอถึงมหาลัยผมก็รีบโทรหาพ่อตินทันที ท่านดูนิ่งมากแล้วก็อนุญาตให้พาเซย์ไปได้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องพาเซย์กลับมาทันเรียนวันจันทร์ด้วย จากนั้นผมก็รีบขึ้นตึกไปเรียนแล้วก็บอกเพื่อนในกลุ่มเรื่องแม่ และจะไม่อยู่ช่วยงานที่ห้องสโมสรเพราะจองตั๋วบินกลับบ้านแล้ว แต่ไม่ได้บอกเรื่องเซย์จะไปด้วย หลังจากเราบินมาถึงสนามบินก็เป็นพี่อาร์มเป็นคนขับรถมารับพวกเรา ตอนนี้งานในไร่ชาส่วนของการส่งออกก็มีพี่อาร์มกับพี่อานิสซึ่งเป็นลูกบุญธรรมของพ่อผมเข้าช่วยงานด้วย
"ทำไมวันนี้พี่อาร์มว่างมารับครับ"
"พี่เสร็จงานพอดี"
"ขอบคุณนะครับที่มารับแล้วแม่ผมเป็นยังไงบ้าง"
"เราสองคนไปดูเองดีกว่าพี่ก็บอกไม่ถูก"
พอเห็นหน้าพี่อาร์มตอนตอบคำถามผม บอกเลยว่าผมมีความรู้สึกแบบที่ว่ามันต้องมีเรื่องอะไรแน่นอน แต่ก็เลือกที่จะไม่ถามต่อส่วนเซย์ก็นั่งดูวิวข้างทางเหมือนทุกที เซย์ไม่ค่อยพูดกับพี่อาร์มอาจเพราะอายุห่างกันเยอะ แต่ยิ้มแย้มให้ตามปกติเท่าที่ควรจะเป็น ปลายปีพี่อาร์มจะมีข่าวดีผมยังคิดว่าพ่อผมจะชวนบ้านเซย์มารึเปล่า งานแต่งงานแบบคนใต้แท้ ๆ ตามประเพณีบ้านเจ้าสาวพี่เขา ผมว่าถ้าเซย์รู้คงอยากมาร่วมงานแน่นอน
"แม่เป็นไงบ้างครับ…ทำไมมายืนรอผมแบบนี้"
"ฮึ…แม่ไม่ได้เป็นไรพ่อเราเว่อร์เอง"
"อ้าว"
"มา ๆ เซย์มาให้แม่กอดให้ชื่นใจหน่อย"
ฉันมองไปที่แม่หลันทีมองไปที่พ่อเหมืองที ไม่เห็นเหมือนมีใครป่วยเลย สุดท้ายฉันเลยหันไปมองพี่อาร์ม เขาก็ได้แต่ส่งยิ้มโดยไม่พูดอะไร แล้วก็ขอตัวกลับบ้านที่อยู่ด้านออฟฟิศอีกฝั่งของไร่ พอเดินเข้ามาในบ้านก็พบว่าอาหารเย็นกำลังถูกเสิร์ฟ ฉันกับพี่เมฆหันมองหน้ากันแล้วตัดสินใจว่ากินก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากันที่หลัง คุณปู่คุณย่าก็มารวมโต๊ะด้วยปีนี้ท่านอายุมากแล้วแต่ก็ยังแข็งแรงดีมาก เสียงพูดคุยกันสนุกสนานจนฉันเองก็ลืมจุดประสงค์ที่มาตอนแรกไปเลย แล้วประเด็นบนโต๊ะอาหารก็เปลี่ยนมาเป็นเรื่องของฉันแทนโดยแม่หลัน
"เซย์ทำไมใส่แหวนมือนั้นลูก"
"เออ…คือว่า"
"ผมพาน้องไปซื้อเองครับ"
"รีบ?"
"แม่ครับ"
"นี่ถ้ายัยมินไม่ส่งรูปมาให้ดูแม่ไม่มีทางเชื่อนะ"
"รูปอะไรคะ"
"สรุปแม่ไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม"
"จะว่าไม่เป็นก็ไม่ได้"
"แม่ครับอย่าแกล้งผม"
"ก็ถ้าโทรถามเมฆก็ไม่ยอมพูดปากแข็งเหมือนไม้กระดาน ไม่รู้ได้นิสัยใครมา"
"ถ้าคบกันแม่กับพ่อจะได้ขึ้นไปคุยกับบ้านน้อง"
แม่หลันเปิดรูปให้ดูเป็นรูปที่ฉันกำลังเลือกแหวนวันก่อน ที่พี่เมฆเป็นคนเจ้ากี้เจ้าการพาฉันไปนั้นละ มินนะมินทำไมไม่ถามก่อนส่งมาให้พ่อแม่แบบนี้ก็เรื่องใหญ่แน่ ยิ่งพอแม่หลันบอกจะไปคุยกับพ่อแม่ฉัน ๆ ก็รีบหันไปของความช่วยเหลือจากคนข้าง ๆ แต่เขากลับไม่มีท่าทางสะทกสะท้านนั่งจิ้มแตงโมปลาแห้งของโปรดเข้าปากเฉย ฉันเลยต้องโน้มตัวไปกระซิบ
"พี่เมฆ!!"
"หืม"
"บอกผู้ใหญ่ไปสิว่ามันแค่การแสดงพี่ให้เซย์ช่วยกันผู้หญิงเฉย ๆ"
"ต้องบอกหรอ"
"ใช่สิต้องบอก"
"ได้ ๆ …"
"พูดสิเร็ว ๆ"
"พ่อแม่ครับขึ้นไปคุยกับพ่อตินได้เลยว่าเราสองคนจะหมั้นกัน"
"ไอ้…พี่เมฆ!!"