“อ่า...” อรวิภาต้านแรงราคะจากภายในไม่ไหวแล้ว เธอจำต้องปลดปล่อยร่างกายออกจากห้วงราคะที่จวนเจียนระเบิดเสียเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้น เธออาจต้องทิ้งกางเกงในอีกตัวลงถังขยะ เพราะมันเปียกจนไม่อาจใส่กลับบ้านได้
“อูว...” หญิงสาวจึงเริ่มมอบความสุขให้กับตัวเองด้วยการล้วงเข้าไปในกางเกงในแล้วใช้นิ้วถูไถปุ่มกระสันเสียวและร่องสาวของตัวเองชนิดถี่ยิบ อย่างเต็มอารมณ์...
“อ่าห์...อูว...ซี๊ดส์” เธอเขี่ยเม็ดเสียวจนพอใจก็เริ่มสอดนิ้วเข้าไปในรูสาวฉ่ำหวาน จากนั้นก็ละเล็งนิ้วเข้าใส่ช่องสวาทแบบไม่มียั้ง ปากครางสั่นสะท้าน เม็ดนมแข็งตั้งเป็นเม็ด เอ็นผุดโปนไปทั้งร่าง เส้นเลือดฝาดไปทั้งตัว ก่อนจะกดเกร็งภายในจนกระตุกเร่า...
“โอ๊ย...โอ๊วส์...ซี๊ดส์...อูย...ไม่ไหวแล้ว...หมูจ๋า...ทำเมียแรงๆ เลยเมียเสียวแล้ว ผัวขา...” เธอครางกระเส่าส่งเสียเรียกแฟนทอมไม่หยุดปาก หากความจริงแล้วมันมีใบหน้าของวิน แฝงเร้นเข้ามาด้วยอย่างไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งช่วยกระตุ้นอารมณ์ของเธอให้เร่าร้อนขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า
“อูย...” เธอสาวนิ้วแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนเสียงกระแทกดังจ๊อกๆๆ ผสมกับเสียงร้องครางแว่วหวานอย่างกลมกลืน
“อูยเสียว...อ๋อย...เสียวค่ะผัวขา...ฮือ” เมื่อกล้ามเนื้อบีบรัดดูดตอดนิ้วอย่างแรงไม่กี่วินาที เธอก็กระตุกซ้ำ ๆอย่างเสร็จสม ปลดปล่อยน้ำคาวสวาทออกมาจนเต็มร่อง ไหลเยิ้มซึมซับจนเป้ากางเกงเปียกแฉะ
“อ่า...อ่าห์...อูย....ซี๊ดส์” เธอผ่อนคลายความเ****นด้วยการหายใจอย่างสม่ำเสมอ ความสุขที่ได้รับจากนิ้วมือของตัวเอง มันเป็นความสุขที่ช่วยให้เธอหายเครียดจากการทำงานได้ไม่น้อย ซึ่งเธอทำมันบ่อยครั้งเมื่อแฟนไม่อยู่ห้อง แต่ก็ไม่เคยคิดทำในที่ทำงาน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอทนไม่ไหว
“โอย...นี่เราทำให้ออฟฟิศได้ไงเนี่ย” วันนี้เธอรู้สึกว่าไม่เป็นตัวเองเอาเสียเลย เธอก๋ากั๋นกว่าปกติไปมาก เพราะเธอเป็นคนค่อนข้างเคร่งครัดกับกฎระเบียบพอสมควร แต่กลับปล่อยตัวปล่อยใจให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล
“หืม กระโปรงเลอะด้วยอ่ะ” เธอรีบหยิบกระดาษทิชชู่ในกระเป๋าสะพายออกมาแล้วจัดการเช็ดคราบใคร่บนเป้ากางเกงในและส่วนที่ไหลละลงมาตามต้นขาและลำน่องจนสะอาด จากนั้นก็นำมันไปทิ้งลงในถังขยะ
อรวิภาทำธุระในห้องน้ำหญิงเสร็จแล้วก็เดินออกมาอย่างรู้สึกโล่งสบาย กระปรี้กระเปล่า เวลานี้ไม่มีใครเหลืออยู่ในออฟฟิศอีกแล้ว นอกจากยามรักษาการณ์ที่คอยดูแลความเรียบร้อยอยู่ตรงส่วนหน้าของออฟฟิศ ใกล้กับประตูลิฟต์ของชั้นที่สามสิบเอ็ด
“อ้าวคุณอร ยังไม่กลับบ้านหรือครับ” ลุงเดช หรือ นายเดชา ทักทายเธอด้วยรอยยิ้ม เขาเป็นชายอายุประมาณห้าสิบปี ทำหน้าที่เป็นหัวหน้ายามรักษาการณ์ที่นี่มาร่วมห้าปีแล้ว โดยลักษณะนิสัย แกเป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น อารมณ์ดี อัธยาศัยดีและทำงานขยันขันแข็ง จนทำให้คนทั้งบริษัทรักและเคารพแกทุกคน
“ค่ะลุงเดช วันนี้ลุงเดชอยู่เวรหรือคะ”
“ครับผม พอดีคนที่ต้องอยู่เวรวันนี้ลากลับบ้านที่ต่างจังหวัดน่ะครับ ผมก็เลยขออยู่แทน เพราะกลับห้องเช่าไปก็ไปนอนคนเดียวเปล่า ๆสู้มาทำงานดีกว่า”
“ดีค่ะ สู้ๆนะคะ อรกลับละ”
“กลับดี ๆนะครับ”
เธอบอกลายามเดชแล้วออกจากออฟฟิศไป ยามเดชมองเธอจนกระทั่งประตูลิฟต์ปิดสนิท จากนั้นสายตาที่เคยเป็นมิตรและใจดีก็กลับเปลี่ยนเป็นคนละกัน
เดชายิ้มร้าย สายตารุกรนปนหื่น ขณะเดินกลับไปที่ห้องน้ำหญิงของออฟฟิศ แล้วตรงไปเปิดถังขยะ หยิบกระดาษชำระที่หญิงสาวเพิ่งใช้ขึ้นมาดูด้วยสายตาพราว