เขาบดจูบริมฝีปากของเธอเอาไว้อย่างแนบแน่น สอดแทรกลิ้นหนาเข้ามาคลุกเคล้าอย่างรัญจวนใจ ในขณะที่ร่างกายหลอมรวมเข้าหากัน ธีรัชถอดถอน แช่กายนิ่งและกดคลึงเข้าหาซ้ำๆ ไม่นานร่างกายของเธอกับเขาก็หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว
“เจ็บไหมครับคนดี” เขาเอ่ยถามอย่างใส่ใจ แช่กายนิ่งเอาไว้ให้เธอปรับตัว ลดาไม่ตอบแต่ส่ายหน้าไปมาแทน
“พี่จะขยับแล้วนะ” เขาบอกเธอเสียงนุ่ม แล้วความเสียวซ่านรัญจวนใจก็เกิดขึ้นเมื่อธีรัชเริ่มขยับกายสอดแทรกเข้าหาครั้งแล้วครั้งเล่า
เธอครวญครางเสียงสั่นระริกยามที่เขาแนบกายลึกๆ เน้นๆ มือหนากอบกุมสะโพกผายเอาไว้ รั้งไม่ให้เธอลุกหนีไปไหนได้ ก่อนที่ความแข็งแกร่งจะโจนจ้วงเข้ามาจนหมดสิ้น พร้อมด้วยความร้อนผ่าวอันแสนเสียวซ่าน
ลดาครางสะท้านยามที่เขาหลั่งรินหยาดน้ำรักเข้ามาจนหมดสิ้น เธอกระตุกร่างเกร็งค้างอย่างเสร็จสมอารมณ์หมายเป็นครั้งแรกในชีวิต ก่อนที่ริมฝีปากอบอุ่นของเขาจะบดจูบเข้ามาหาอย่างดูดดื่ม กระซิบคำรักหวานๆ อยู่ตรงริมหู
ลดาตื่นเช้ามาทำอาหารใส่บาตรเพราะอยากใช้ชีวิตคู่เริ่มต้นด้วยการทำบุญ ธีรัชลุกขึ้นมาช่วยเธอเตรียมอาหารตั้งแต่เช้า ก่อนจะใส่บาตรด้วยกันที่หน้าบ้าน ซึ่งเขาเห็นเธอทำเป็นประจำทุกวันตั้งแต่ย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านเก่าแก่ของบิดามารดา
“อุ๊ย! พี่ธี” เธออุทานเมื่อเขาขยับตัวมาหนุนตักนุ่มของเธอ ดึงมือน้อยของเธอมากดจุมพิตเบาๆ
“ทำอะไรอยู่ครับคนดี”
“กำลังตัดใบตองสำหรับทำขนมค่ะ” เธอละมือจากใบตองที่กำลังตัดอยู่ ก้มลงมองสามีด้วยสายตาอ่อนโยน
“ทำขนมอะไรเอ่ย” เขาเอ่ยถาม รู้สึกผ่อนคลายที่ได้สูดอากาศบริสุทธิ์นอกบ้าน นอนหนุนตักเมียรักตรงศาลาท่าน้ำแบบนี้
“ข้าวต้มมัดค่ะ”
“น่ากินจัง”
“พี่ธีชอบกินข้าวต้มมัดไหมคะ” เธอเอ่ยถามเสียงนุ่ม
“ชอบกินเมียมากกว่า”
“พี่ธีน่ะ ลามก”
“คืนนี้จะกินทั้งตัวเหมือนเมื่อคืน” เขาขยับใบหน้าขึ้นก่อนจะหอมแก้มสาวฟอดใหญ่
“พี่ธีน่ะ” เธอตีเขาเบาๆ
“พี่รักลดานะ”
“รู้แล้วค่ะ”
“รักพี่หรือเปล่า”
“ยื่นหูมาสิคะ” เธอบอกยิ้มๆ
เขาขยับเข้าไปหา ก่อนจะร้องเสียงหลงเมื่อเขากัดใบหูเข้าให้
“โอ๊ย! กัดพี่ทำไมครับ”
“กัดเพื่อบอกรักค่ะ”
“แสบจริงเมียใคร” เขาลูบหูป้อยๆ
“รักนะคะ” เธอขยับใบหน้าไปกระซิบตรงริมหู เขาดึงเธอมากอดแนบอก มองสายน้ำที่ไหลผ่านตรงหน้าบ้านด้วยกันอย่างเป็นสุข
“พี่ก็รักลดามากนะ จะดูแลลดาด้วยชีวิต พี่สัญญา” เขาจุมพิตกลุ่มผมนุ่มสลวยของเธออย่างแสนรัก
...จบ...
เล่ม 2 เกาะแสนรัก
มิลินตื่นขึ้นมาในห้องนอนกว้างบนเกาะที่ห่างไกลผู้คน เธอถูกเพื่อนๆ ทิ้งเอาไว้บนเกาะแห่งนี้กับเคน ผู้ชายที่ตามจีบเธอตั้งแต่เรียนในระดับมหาวิทยาลัย จะบอกว่าเธอโดนหลอกก็ย่อมได้เพราะว่าหลังจากสำเร็จการศึกษา เพื่อนๆ ในกลุ่มเดียวกันก็ชวนเธอมาเที่ยวเกาะ เธอไม่รู้ว่าเกาะที่นี่เป็นเกาะส่วนตัวของเคน เพราะว่าเพื่อนสนิทไม่ได้บอกพอมาถึงที่นี่เธอถึงได้รู้
เคนเป็นเพื่อนสนิทของณเดชแฟนหนุ่มของปอไหม เพื่อนในกลุ่มของเธอ เขาแสดงออกว่าชอบเธอ แต่เธอไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้ ก่อนที่จะได้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ เธอเคยเห็นหรือพบเจอเขามาก่อนในฐานะรุ่นพี่ปีสี่ที่สาวๆ ในมหาวิทยาลัยต่างก็รุมชอบกันแทบทั้งสิ้น จะเรียกว่าเขาเป็นหนุ่มเนื้อหอมรวมถึงมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับสาวๆ มากมายในสถาบันก็ย่อมได้ ซึ่งเธอไม่นิยมชมชอบผู้ชายมากรักเช่นนี้
“พี่เคนควรไปส่งมิลินขึ้นฝั่ง” เธอมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง ในสายตาของเคนแล้วมิลินคือหญิงสาวเข้มแข็งที่เป็นตัวของตัวเองสูง อีกทั้งยังเป็นผู้หญิงคนเดียวที่มองเขาเหมือนอากาศธาตุ
“ไม่มีเรือ” เขาตอบเสียงเรียบ ใบหน้าที่หันมามองเธอเรียบสนิทเหมือนน้ำเสียง มิลินได้เห็นความไม่แยแสของเขาผ่านดวงตาคมคู่นั้น
“ที่นี่เป็นเกาะของพี่เคน จะไม่มีเรือได้ยังไงกันคะ แล้วเวลาพี่จะขึ้นฝั่งพี่ทำยังไงคะ” เธอพยายามสะกดกลั้นอารมณ์เดือดปุดๆ ในอกเอาไว้ เขาไม่ได้ยั่วโมโหก็เหมือนยั่ว ดวงตาเฉยเมย ใบหน้าหล่อเหลาแต่กระด้างบ่งบอกว่าเขาเย็นชาเพียงใด
สมัยที่เธอเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง เธอเคยเห็นผู้หญิงมาคุกเข่าอ้อนวอนกอดแข้งกอดขาร้องไห้ให้เขารับผิดชอบ แต่ประโยคที่เธอได้ยินจากปากของเขาคือก็สมยอมเอง วินๆ กันทั้งคู่ เขาไม่ได้ขืนใจเสียหน่อย จะมาเรียกร้องหาอะไร
เธออยากเข้าไปตะบันหน้าเขาให้คว่ำเพราะสงสารผู้หญิงคนนั้นจับใจ แต่เคนกลับเดินหนีไปอย่างไม่แยแส บุคลิกของเขาค่อนข้างเย็นชาไร้หัวใจ แต่ก็ยังมีสาวๆ อยากทอดกายทอดใจให้เขาไม่เว้นวาง แล้วก็ได้รับความเจ็บปวดกลับไปเพราะว่าเขาไม่แคร์
มีสาวๆ หลายคนอยากเอาชนะใจของเขาก็ยอมทอดกายใจให้ทุกอย่าง แต่สุดท้ายก็ได้เพียงแค่ความว่างเปล่า แม้แต่เพื่อนในกลุ่มของเธอยังเสียใจจนเคยจะคิดสั้นฆ่าตัวตายมาแล้ว แต่เคนก็ไม่แคร์ เขาพูดสั้นๆ ว่าถ้าคิดว่าไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้แล้วอยากจะตายก็เอาที่สบายใจ และเดินจากไปในขณะที่ทุกคนพยายามห้ามไม่ให้พิชญากระโดดตึกฆ่าตัวตาย แล้วพิชญาก็เลิกฆ่าตัวตายเพราะหล่อนแค่เรียกร้องความสนใจ แต่เธอคิดว่าหากพิชญากระโดดตึกฆ่าตัวตายขึ้นมาจริงๆ เคนเองก็คงไม่ได้รู้สึกผิดอะไร เพราะเขาพูดอย่างเย็นชาว่าเขาไม่ได้สั่งให้เธอฆ่าตัวตาย และสิ่งที่เธอเรียกร้องเขาก็ให้ไม่ได้ ก่อนคบกันได้ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว
“พี่อยู่ที่นี่ครั้งละหลายเดือน ไม่จำเป็นต้องมีเรือ” เขาเดินไปทรุดตัวนั่งลงรับประทานอาหารเงียบๆ เธอมองตามก่อนจะลอบกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ เขาจะทิ้งให้เธอยืนเคว้งอยู่แบบนี้จริงๆ น่ะเหรอ เธอก็หิวเป็นเหมือนกันนะ
“พี่ทำอาหารเผื่อเอาไว้ จัดการเองได้เลย” คนเย็นชาไม่พูดจาหวานหูใส่ใจดูแลหรือตักอาหารให้ เธอยังนึกแปลกใจว่าคนแบบเขาทำไมถึงมีสาวๆ คลั่งไคล้เสียหนักหนา มิลินคิดไปว่าเขาจะเอาใจเธอสารพัดเพื่อให้ได้เธอเสียมากกว่า
มิลินไม่รอให้เขาพูดซ้ำ เธอก็เดินไปตักอาหารเช้ามานั่งรับประทานใกล้ๆ กันกับเขา กินไปแอบมองเขาไป พอเขาหันมามองเธอก็สะดุ้งใบหน้าเหลอหลา ดวงตาของเขาคมกริบกวาดสายตามองใบหน้าของเธอ แต่มันเฉยชาจนเธออ่านความรู้สึกของเขาไม่ออกเลยจริงๆ
“มีอะไร” เขาเอ่ยถาม คนพูดน้อยแบบเขาเวลาถามหรือพูดอะไรก็สั้นและกระชับได้ใจความ เธอไม่ค่อยเห็นเขาพูดเยอะหรือพล่ามอะไรให้ใครฟัง
“พี่เคนจับมิลินมาที่นี่ทำไมคะ”
“พี่ไม่ได้จับเธอมา” เขายกน้ำขึ้นดื่ม
“แล้วทำไมไม่ปล่อยมิลินไป” เธอเอ่ยถาม
“ใครกักขังเธอเอาไว้เหรอ”
“ก็พี่เคนไง”
“ขังยังไง ล่ามแขนล่ามขาด้วยหรือเปล่า” เขามองหน้าเธอนิ่ง มิลินเม้มปากหลบสายตาเพราะสู้แรงตาเขาไม่ไหว
“ไม่ได้ทำแบบนั้น แต่ทำให้มิลินไม่มีทางออกจากเกาะนี้ต่างหาก”
“เกาะแห่งนี้ชื่อเกาะแสนรัก พี่ซื้อเอาไว้นานหลายปีแล้ว” เธอรู้ว่าบ้านเขารวยแต่ก็ไม่เห็นต้องอวดเลย มิลินแอบค่อนขอดในใจ มองแผ่นหลังบึกบึนของเขานิ่ง
บ้านเธอก็รวยเหมือนกัน บิดามารดาทิ้งมรดกเอาไว้ให้ก่อนตายเยอะแยะ ชิ! เธอย่นจมูกใส่เขา แต่ไม่ได้พูดมันออกมาแค่นั้น
“มิลินไม่ได้อยากรู้ค่ะ”
“พี่แค่อยากบอก” เขาหันมามองตอบเธอ ใบหน้าเรียบสนิท เธอเคยตั้งฉายาเขาเอาไว้ว่าผีดิบแวมไพร์จิตใจโหดร้าย เพราะเขาทำให้ผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิตต้องเสียน้ำตามานักต่อนักแล้ว
“มิลินอยากกลับบ้าน”
“ก็กลับสิ”
“จะให้มิลินว่ายน้ำไปเหรอคะ”
“ก็ดีนะ เป็นวิธีที่ใครๆ ก็คิดได้แม้แต่เธอ” เขามองสบตาของเธอ สายตาร้อนแรงนั้นทำให้เธอรู้สึกแข้งขาสั่นไปหมด มิลินถอยหนีเล็กน้อย ทำไมเธอถึงได้ใจสั่นขนาดนี้
“มันเป็นสิ่งเดียวที่มิลินคิดได้ แต่ไม่คิดจะทำหรอกค่ะ” เธอบอกเขาเม้มปากสั่นๆ คล้ายพยายามสู้กับความรู้สึกหวาดหวั่นของตัวเอง ทำไมเธอจะต้องไปกลัวเขาด้วยล่ะ เขาไม่ใช่ยักษ์ไม่ใช่มารเสียหน่อย