EP 7 พันธะร้ายพ่ายรัก : รับแขกพิเศษ

1882 Words
พันธะร้ายพ่ายรัก : ตอนที่ 7 “คาไลน์” วิเวียนทวนคำพูดของพิธีกรบนเวทีเป็นชื่อที่เธอคุ้นเคย เธออยากจะถอยออกจากคนตรงนั้นแต่สุดท้ายแรงดันจากด้านหลังทำให้ตัวเธอพุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ “โอ๊ย!” เธอล้มลงที่พื้นอย่างแรงจนร้องเสียงหลง ทุกคนในงานเงียบลงทันที สายตานับร้อยนับพันจ้องมาที่เธอที่นั่งโดดเด่นอยู่ที่พื้น วิเวียนรวบรวมสติโดยเร็วและรีบดันตัวเองลุกขึ้น พรึบ! อยู่ๆมือปริศนามาจับเธอลุกขึ้นจากด้านหลัง “ขอบคุณค่ะ” วิเวียนหันหน้ามาขอบคุณบุคคลปริศนาที่ช่วยพยุงเธอ แต่แล้วเหมือนถูกแช่แข็งเมื่อเจอกับลูกน้องคนนั้นของเขา ที่สวมชุดเหมือนกับที่เธอเห็นพวกเขาครั้งแรกที่ผับ เป็นคนเดียวกันที่มากระซิบกับเจ๊ซูซี่ก่อนที่เธอจะขึ้นไปหาเขาที่ห้อง “ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว ขอตัวค่ะ” วิเวียนพยายามสะบัดแขนออก แต่เขากลับบีบรัดแน่นมากขึ้น “นายอยากคุยกับคุณ” “ฉันไม่รู้จักนายของคุณ ปล่อยด้วยค่ะ” วิเวียนใช้สายตาชำเลืองไปที่แขนของเธอที่ถูกจับไว้แน่น และพยายามพูดเน้นหนักประโยคสุดท้ายเสียงดังให้คนรอบข้างเธอได้ยิน และมันก็ได้ผล แขนของเธอเป็นอิสระ ดวงตากลมโตหันไปมองคนที่ยืนอยู่บนเวทีแค่เพียงชั่ววินาที เขากำลังจ้องมาที่เธอจริงๆ เธอรีบเดินฝ่าฝูงชนออกมาอย่างไม่สนใจ “ไม่น่าเลยยัยวิเอ๊ย เดินเข้าธนาคารไปฝากเงินก็จบไปนานแล้ว ผลของการอยากรู้อยากเห็นของตัวเองแท้ๆ” วิเวียนเดินไปบ่นไปเรื่องความอยากรู้อยากเห็นของตัวเอง มือบางตีหน้าผากตัวเองเบาๆ ขาเรียวยาวสาวเท้ามุ่งตรงเข้าธนาคารฝากเงินและทำการโอนเงินให้ที่บ้านทันที “ยอดโอนหนึ่งล้านบาท เข้าบัญชีxxx เรียบร้อยแล้วค่ะ อันนี้เป็นใบเสร็จโอนเงินนะคะ” พนักงานธนาคารพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ตื้ด ตื้ด ตื้ด ~~ (ว่าไง) รอไม่นานปลายสายก็กดรับสายเธอ “หนูโอนเงินให้แล้วนะแม่” (มึงโอนมาเท่าไหร่) ปลายสายพูดสวนมาทันทีน้ำเสียงแข็งกระด้าง “ตามที่แม่ต้องการ แต่หลังจากนี้หนูไม่มีให้แม่แล้วนะ หนูต้องทำงานใช้หนี้เขาเหมือนกัน” วิเวียนปั้นคำโกหกเพื่อจะตัดปัญหาให้จบสิ้นกันสักที (ได้เลยลูกแม่ แม่จะไม่กวนใจลูกสาวสุดที่รักของแม่อีกเลย ขอบใจมากเลยลูกรักของแม่ ลูกที่กตัญญูต่อพ่อแม่มีแต่เจริญ) ปลายสายเยินยอเมื่อรู้ว่าได้สิ่งที่ต้องการแล้ว “แค่นี้แหละ หนูยุ่งๆ” วิเวียนตัดสายทันทีที่พูดจบ ใบหน้าหวานไม่ได้แสดงอาการดีใจกับคำพูดของคนปลายสายเมื่อกี้เลยสักนิด “หวังว่าจะตัดขาดกันจริงๆสักทีนะ” วิเวียนเดินมาเรื่อยๆจนถึงหน้าห้าง ระหว่างรอรถกลับคอนโด ความรู้สึกแปลกๆที่เธอใช้เงินของเขายังคงอยู่ เธอพยายามคิดเข้าข้างตัวเองแต่สุดท้ายเธอก็ยังอดสงสัยไม่ได้ “มาเฟียนักธุรกิจอย่างนายจะไม่หวังผลที่ลงทุนเลยเหรอ” ติ้ง~ เสียงแจ้งเตือนแอปพลิเคชันไลน์ดังขัดจังหวะความคิดของเธอ เจ๊ซูซี่ : วันนี้มีงานรับแขกเอสวีวีตอนสองทุ่มนะลูก วันนี้ตารางเราว่างด้วยนิ่ วิเวียน : ทำไมปุบปับจัง ทุกทีแขกระดับนี้ต้องบอกล่วงหน้าไม่ใช่เหรอคะ เจ๊ซูซี่ : พอดีแขกพึ่งโทรมาคอนเฟิร์มเมื่อกี้นี้เอง เจ๊ก็ไม่ทันตั้งตัว วิเวียน : อ่อๆ โอเคค่ะ หนึ่งทุ่มตรง ร่างบางยืนแต่งตัวอยู่หน้ากระจกบานเดิม หลังจากกลับมาจากห้างสรรพสินค้าเธอก็นอนพักเอาแรงเพื่อทำงานคืนนี้ แต่หลับไปได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องตื่นเตรียมตัว วิเวียนอยู่ในชุดเดรสเกาะอกสีดำสนิทเผยให้เห็นหน้าอกที่ยากจะปิดให้มิด ปล่อยผมยาวสลวยดัดลอนปลายเล็กน้อย ซึ่งแตกต่างกับการแต่งตัวเมื่อตอนกลางวันอย่างสิ้นเชิง วิเวียนกลายเป็นสาวเซ็กซี่ขยี้ใจหนุ่มอีกครั้ง ก่อนจะออกเธอไม่ลืมที่จะใส่เสื้อคลุมแขนยาวโอเวอร์ไซซ์ติดกระดุมมิดชิดคลุมเรือนร่างสุดเซ็กซี่ไว้ก่อน วิเวียนเดินลงมารอรถแท็กซี่หน้าคอนโดของเธออย่างเช่นเคย ถึงเธอจะได้เงินดีในอาชีพนี้แต่คิดว่ารถไม่จำเป็นสำหรับเธอ ชีวิตเธอมีแค่คอนโดกับที่ผับ ไม่เคยไปไหนนอกจากสองที่นี้ นานๆจะเดินห้างสรรพสินค้าถ้าจำเป็นต้องไป ความจำเป็นที่ต้องมีรถส่วนตัวเลยตัดทิ้งไปได้เลย อีกอย่างระหว่างผับกับคอนโดเธอก็อยู่ไม่ไกลกันมาก ส่วนใหญ่เจ๊ซูซี่จะแวะส่งเธอเวลากลับดึกเป็นประจำ ต่อให้เธอปฏิเสธเจ๊ซูซี่หลายครั้งก็ไม่เคยสำเร็จ ด้วยความเป็นห่วงและความสบายใจของเจ๊แกเธอเลยยอมให้มาส่งบ่อยๆ "ผับ S.star ค่ะ" วิเวียนบอกกับคนขับแท็กซี่ให้ไปยังจุดหมาย ไม่มีใครไม่รู้จักผับชื่อดังแห่งนี้ ไม่นานรถแท็กซี่ขับมาจอดบริเวณหน้าผับชื่อดัง ร่างบางก้าวขาลงจากรถแท็กซี่โดยไม่รอช้า เพราะใกล้เวลาที่แขกนัดแล้ว วิเวียนสาวเท้าอย่างมั่นใจเดินผ่านสายตาวัยรุ่นหนุ่มสาวที่มองมาที่เธอ ความสวย ความออร่า ที่ทำให้หลายคนมองตาไม่กะพริบ บรรยากาศภายในผับยังเปิดเป็นเพลงคลอเบาๆ เวลานี้นักท่องราตรียังไม่ค่อยมากันมากเลยทำให้บรรยากาศไม่ค่อยครึกครื้นเหมือนกับช่วงดึก "แหมๆ เดี๋ยวนี้ร้อนเงินเหรอจ๊ะ ถึงรับงานด่วน หรือเป็นถังขยะกันนะ รองรับเศษขยะจากคนอื่น" น้ำเสียงแดกดันที่คุ้นเคยโดยที่ไม่ต้องคาดเดาว่าคือใคร "ถ้าฉันได้แขกเยอะแล้วทำให้เธออิจฉาก็ขอโทษด้วยนะนารา ขอตัวก่อน" ริมฝีปากบางกระตุกยิ้มมุมปากเย้ยคนตรงหน้า และเดินหลีกออกมาไม่อยากปะทะอารมณ์ "อย่าผยองไปหน่อยเลย สักวันกูจะกระชากมึงร่วงลงมาเอง" นารากำหมัดแน่นพร้อมกับพ่นคำด่าตามหลัง วิเวียนได้ยินทุกคำพูดแต่เลือกที่จะไม่สนใจ เพราะตอนนี้เธอไม่มีเวลามายืนเถียงกับใครทั้งนั้น เธอต้องการทำงานเพื่อแลกกับเงิน "เจ๊ซูซี่ไปไหน ปกติจะมารออยู่แถวนี้นิ" เธอมองไปรอบๆเคาน์เตอร์ของผับที่จะเป็นที่ประจำของหญิงวัยกลางคน แต่วันนี้กลับไม่เห็นแม้แต่เงา "เห็นเจ๊บ้างไหม" วิเวียนถามกับเด็กพีอาร์ในผับที่อยู่แถวนั้น "สวัสดีค่ะพี่วิ เจ๊ฝากบอกว่าให้พี่วิขึ้นไปที่ห้องรับรองแขกโซนเอสวีวีได้เลยค่ะ ห้องเดิม เจ๊แกบอกมาแค่นี้" เด็กสาวคนนั้นยกมือไหว้รุ่นพี่พร้อมกับบอกสิ่งที่เจ๊ซูซี่สั่งไว้ "อ่อๆ ขอบใจมาก" เมื่อเธอได้ยินแบบนั้นก็รีบเดินเข้าห้องน้ำส่องความเรียบร้อยของตัวเอง จัดผมเผ้าให้ดี เธอใช้เวลาไม่นานกับการเตรียมตัว "แล้วแขกไม่สั่งเหล้าเหรอไง หรือเจ๊เตรียมให้แล้ว" วิเวียนพึมพำกับตัวเอง เพราะทุกทีเวลารับแขกเด็กพีอาร์จะเป็นคนยกเหล้าไปเสิร์ฟแขกด้วยตัวเอง แต่ครั้งนี้ไม่มีใครบอกอะไรกับเธอเลย คิดแค่ว่าเจ๊ซูซี่น่าจะเตรียมให้หมดแล้ว ร่างบางรีบขึ้นไปที่โซนเอสวีวีดั่งเช่นเคย ระหว่างทางก่อนถึงห้องก็เจอกับบอดี้การ์ดยืนเรียงกันด้วยสีหน้าเรียบเฉยเหมือนกับหุ่น เมื่อเธอลองมองดีๆเหมือนเธอเคยเห็นคนพวกนี้มาก่อนหน้านี้ "คงไม่ใช่หรอก" ร่างบางพึมพำกับตัวเองเบา “เอ่อ…ฉันมาตามที่นัดไว้” วิเวียนทำท่าทีกล้าๆกลัวๆเมื่อมาถึงหน้าห้องรับรองที่มีบอดี้การ์ดหน้าโหดยืนขวางอยู่สองคน พยายามบอกตัวเองว่าไม่ใช่เขาแต่บรรยากาศมันบ่งบอกชัดเจน ต่อให้อยากถอยหลังกลับคงไม่ทันแล้ว ถือซะว่าเขาให้ทิปหนักตามที่เธออยากได้ จบงานแล้วแยกย้ายเหมือนเดิม ขอให้ง่ายเหมือนวันนั้นด้วยเถอะ “ชื่อ?” หนึ่งในบอดี้การ์ดเอ่ยถามเธอด้วยน้ำเสียงเข้ม “วิเวียน” เธอตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ยิ่งมองหน้าบอดี้การ์ดทำให้เธอรู้สึกกลัวจนขนลุก แค่สายตาก็เหมือนฆ่าเธอได้แล้ว “เชิญ” ประตูเปิดออกพร้อมกับเสียงเข้มของบอดี้การ์ดหน้าห้อง แกร๊ก~ เมื่อเธอก้าวพ้นประตูเข้ามา ประตูก็ถูกปิดอย่างรวดเร็วจนเธอหันกลับไปมองด้วยความตกใจ ภายในห้องมืดสนิทจนน่าขนลุก ไม่รู้ว่ากำลังเล่นอะไรกันปกติถ้ามีแขกไฟต้องเปิด ความรู้สึกไม่ชอบมาพากลทำให้วิเวียนยืนนิ่งและพยายามปรับสายตาให้เข้ากับความมืดมิดนี้ แต่แล้วตาก็ไปสะดุดเข้ากับ…. “อ้าวเจ๊ วิตกใจหมด ทำไมไม่เปิดไฟทั้งหมดละ อยู่มืดๆทำไม ไหนว่าแขกมาแล้ว” วิเวียนเอ่ยทักเจ๊คนสนิทที่นั่งอยู่บนโซฟาหนังกลางห้องกำลังก้มหน้าก้มตาแต่เธอจำลักษณะของหญิงวัยกลางคนได้ วิเวียนพูดไปพร้อมกับหันไปกดเปิดสวิตช์ไฟให้สว่างกว่าเดิม พรึบ! ไฟสว่างจ้าทั่วห้องพร้อมกับร่างบางหันหน้ากลับมาตามเดิม “ค่อยสว่…..” คำพูดถูกกลืนหายไปในลำคอ “คะ คาไลน์” วิเวียนตาโตกับชายร่างสูงที่ยืนอยู่มุมห้องกำลังจ้องมาที่เธอด้วยสายตายากจะคาดเดา และมีลูกน้องอีกคนที่เธอเจอวันนี้ตอนกลางวันยืนอยู่ไม่ห่าง ฮึก ฮือออ ~ เสียงสะอื้นทำให้เธอละสายตาจากชายร่างสูงมามองคนที่กำลังส่งเสียงสะอึกสะอื้น กำลังถูกมัดมือมัดขาด้วยเชือกเส้นใหญ่อย่างแน่นหนา ด้วยก่อนหน้านี้ไฟค่อนข้างสลัวทำให้เธอไม่ทันได้สังเกตที่มือและข้อเท้าของเจ๊ซูซี่ว่ากำลังถูกมัดอยู่ และไม่เห็นว่ามีคนอื่นอยู่ด้วย “นี่มันอะไรกัน” วิเวียนแววตาวูบไหวกับสิ่งที่เห็นก่อนจะหันไปถามเขา “เจ๊ขอโทษ ฮือ ฮือ วิ เจ๊ขอโทษ” เจ๊ซูซี่ร้องไห้ออกมาไม่หยุด ทำให้เธอก้าวขาเพื่อจะไปหา “หยุด!” น้ำเสียงเข้มพูดออกมาทำให้เธอชะงักฝีเท้าทันที น้ำเสียงของเขาทำให้เธอเสียวสันหลังวาบ “ฉันถามว่านี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!!!!” วิเวียนตวาดลั่นอย่างเหลืออด ดวงตากลมโตจ้องเขม็งไปที่ชายหนุ่มอย่างเดือดดาล มือบางกำหมัดแน่น ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าหนักแบบสม่ำเสมอค่อยๆเดินมาหาเธออย่างช้าๆ นัยส์ตาดุคู่นั้นจ้องมาที่เธอไม่วางตา จนทำให้วิเวียนก้าวถอยหลังโดยอัตโนมัติ ปึก! แผ่นหลังของเธอชนเข้ากับผนังห้องบ่งบอกว่าไม่มีทางหนีอีกแล้ว ตึก ตึก ตึก คาไลน์เดินเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆ จนตัวเธอห่างกับเขาแค่คืบ กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ของเขาเข้ามาเตะจมูกเธอ “นายต้องการอะไร!!!” วิเวียนถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือผสมกับความกลัว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD