“ได้ค่ะ สองขอตัวขึ้นไปบนห้องนอนกับคุณภามก่อนนะคะ” สรัลชนาพูดออกมาอย่างจงใจก่อนจะเดินตามภามขึ้นไปบนห้อง แต่ก็มิวายส่งสายตาหยามหยันให้กีรกาน
กีรกานไม่ได้ตามขึ้นไปด้วยแต่ก็มองอย่างตัดพ้อ เพราะไม่รู้ว่าจะตามไปทำไม เขาคงไม่เห็นเธอในสายตาอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นก็คงไม่พาสรัลชนามาทั้งที่ไม่ได้บอกกล่าวกับหล่อนสักนิด
ก่อนจะยกยิ้มสมเพชตัวเอง เพราะรู้ว่าอาการที่มีคือความหึงหวง แต่เธอมีสิทธิ์อะไร เธอมีสถานะแค่เป็นแม่ของลูกของเขาก็เท่านั้น
กีรกานไม่อยากจะทนมองเห็นคนทั้งสองลงมาจากห้องด้วยกัน หญิงสาวจึงเดินไปหยิบเสื้อตัวยาวกับหมวกมาสวมให้ลูกน้อย ก่อนจะมุ่งฝีเท้าออกจากบ้าน แต่ยังไม่ทันจะพ้นประตูบ้านกลับมีเสียงดังไล่ตามหลังมา
“จะไปไหน” ภามตั้งคำถามและเดินเข้าไปหา
“กั้งจะพาลูกออกไปที่ไร่ด้วย”
“ส่งลูกมาให้ฉัน”
“กั้งจะพาแกไปด้วย” บอกให้เขาทราบถึงความต้องการและไม่คิดจะทิ้งแกไว้กับเขาและผู้หญิงของเขาแน่
“ส่งแกมา” คราวนี้ภามบอกน้ำเสียงดุเข้มแถมยังอุ้มลูกไป แต่ทิศทางที่ชายหนุ่มมุ่งตรงไปคือที่ไร่ หล่อนคิดว่าเขาจะให้ลูกอยู่กับเขาและสรัลชนาที่บ้านเสียอีก ก่อนจะเดินตามเขาไป ซึ่งไร่และตัวบ้านก็อยู่ไม่ห่างกันนัก เดินสักห้านาทีก็ถึงแล้ว
หนูน้อยลักษณ์นารายิ้มที่ได้เห็นดอกไม้หลากสีและชี้นิ้วตามประสาเด็ก
“บัญชีของไร่เป็นยังไง” ชายหนุ่มถามขึ้น
“ไม่ขาดทุนค่ะ แต่รายได้ลดลง” กีรกานแจ้งตามความจริง เพราะเศรษฐกิจที่แย่ลงและมีคู่แข่งทางธุรกิจมากขึ้น เพียงแค่ในอำเภอแห่งนี้ก็มีไร่กุหลาบมากกว่าสิบที่แล้ว
“ฉันจะเข้าไปดู”
ภามบอก และในตอนนี้เจ้าของไร่ก็มายืนอยู่หน้าออฟฟิศขนาดเล็กที่ตนเป็นคนสั่งให้สร้างขึ้น
“พาลูกเข้าไปก่อน ฉันขอเดินดูรอบ ๆ หน่อย” เขาว่าและส่งลูกสาวให้กับกีรกาน ด้านหญิงสาวก็พยักหน้าและเดินเข้ามาในออฟฟิศ
เมื่อภามมาที่ไร่ ชายหนุ่มก็มักจะเดินไปสำรวจไร่เสมอ โดยสาเหตุที่ภามสั่งให้สร้างออฟฟิศไว้ในไร่เพราะต้องการให้มีสถานที่ติดต่อซื้อขายให้เป็นที่ และไม่อยากจะให้มีคนเข้าไปยุ่งวุ่นวายที่บ้าน เพื่อความปลอดภัยบางอย่าง
เพียงเห็นว่ากีรกานเดินเข้าไปแล้ว เท้าหนาของชายหนุ่มก็ก้าวออกไปยังจุดหนึ่ง และมีใครคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกลนัก
ชายคนนั้นยกมือขึ้นไหว้ตามประสาลูกน้องและนายจ้าง ก่อนที่ริมฝีปากหยักของภามจะเปิดออกและมีการพูดบางสิ่ง
กีรกานพาลูกสาวมาประจำที่ นั่นคือโซฟาตัวเดิมที่มักจะใช้เป็นที่นั่งเล่นตุ๊กตาของลักษณ์นารา มือบางเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อเตรียมเปิดรายงานรายรับและรายจ่าย รวมถึงเตรียมเอกสารต่าง ๆ ให้กับเขา
เมื่อภามเข้ามาจะได้ดูมันได้เลย เธอรู้ว่าแม้จะไม่ขาดทุน แต่หากยังเป็นแบบนี้ต่อไปมันก็คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ และเธอก็ไม่ได้เรียนจบทางด้านบริหารมา บางปัญหาก็แก้ไขหรือต่อรองได้ไม่ดีมาก คงจะสู้เขาไม่ได้
เมื่อเตรียมเอกสารเสร็จเวลาก็ผ่านมาเกือบจะสิบห้านาทีแล้ว แต่ภามก็ยังไม่ได้เข้ามาในออฟฟิศ จนกระทั่งเข้าสู่นาทีที่ยี่สิบ หญิงสาวจึงขยับฝีเท้าไปดู
เธอแหวกผ้าม่านเพื่อส่องหาเขาแต่ก็ไม่พบ จนต้องเปลี่ยนไปยังอีกฝั่งของห้อง เธอไม่สามารถทิ้งลูกสาวได้ แต่จะอุ้มลูกสาวออกไปด้วยก็เกรงว่าจะโดนดุ เพราะเวลานี้แดดเริ่มร้อนขึ้น ก่อนจะพบว่าเขากำลังยืนคุยกับคนงานของเธออยู่