บทที่ 5 พบลูกค้า ปะทะฝีปากกับเจ้านาย

1455 Words
บทที่ 5 พบลูกค้า ปะทะฝีปากกับเจ้านาย เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันถูกปลุกตั้งแต่เช้าตรู่โดยกอหญ้า เธอเตรียมทุกอย่างไว้ให้เรียบร้อย ทั้งเสื้อผ้า อาหารเช้า และแม้แต่แฟ้มเอกสารที่ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับบริษัทของสุธา “คุณหนูคะ วันนี้มีประชุมกับลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทค่ะ คุณสุธาต้องการให้คุณไปเข้าร่วมด้วย” ฉันเลิกคิ้วขึ้น “ฉันต้องไปด้วยเหรอ? ทำไมต้องเป็นฉัน?” “เพราะคุณหญิงเป็นคนกำหนดค่ะ” กอหญ้าตอบเสียงเรียบ “และอีกอย่าง… คุณสุธาก็อยากให้คุณเข้าไปเรียนรู้งานด้วย” ฉันกลอกตา นี่มันไม่ใช่การเรียนรู้งานหรอก แต่มันคือการจับฉันโยนเข้ามาในโลกธุรกิจที่ฉันไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องมาก่อนต่างหาก ถึงจะไม่พอใจ แต่ฉันก็จำต้องทำตาม กอหญ้าเลือกชุดสูทให้ฉันซึ่งมันคือชุดที่เลือกไว้เมื่อคืน พร้อมกระโปรงทรงสอบที่ดูหรูหราและมีภูมิฐาน เมื่อฉันแต่งตัวเสร็จและส่องกระจก ฉันก็ต้องยอมรับว่ามันทำให้ฉันดูเป็นสาวทำงานที่มั่นใจขึ้นมา “โอเค ไปก็ไป” ฉันพูดก่อนจะเดินออกจากบ้านขึ้นรถไปบริษัทของสุธา ที่บริษัทของสุธา เมื่อมาถึง ฉันเดินเข้ามาในตึกสำนักงานที่หรูหรา พนักงานบางคนแอบมองมาที่ฉัน บางคนกระซิบกระซาบกัน ฉันรู้ว่าพวกเขาคงพูดถึงฉันในฐานะ ‘คู่หมั้นของเจ้านาย’ หรืออาจจะเป็น ‘นางร้ายที่ผลักไอรีนตกบันได’ แต่ช่างเถอะ ฉันไม่สนใจสายตาพวกนั้น ฉันเดินตรงไปที่ห้องประชุมตามที่เลขาของสุธาบอกไว้ พอเปิดประตูเข้าไป ฉันก็เห็นสุธานั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ ข้างๆ เขามีลูกค้ารายใหญ่ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นนักธุรกิจวัยกลางคนที่มีอำนาจอยู่พอสมควร “คุณลินนา มาพอดีเลย เชิญนั่งสิ” สุธาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ฉันยิ้มบางๆ แล้วเดินไปนั่งลงตรงข้ามเขา ก่อนจะเหลือบมองแฟ้มเอกสารที่อยู่บนโต๊ะ การประชุมเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ ฉันพยายามตั้งใจฟัง แม้จะไม่เข้าใจรายละเอียดทุกอย่าง แต่ก็พยายามเก็บข้อมูล แต่ดูเหมือนสุธาจะจงใจเมินฉันอย่างสิ้นเชิง เขาไม่ได้มองฉันเลยสักครั้ง พูดคุยกับลูกค้าและทีมงานราวกับว่าฉันไม่มีตัวตน จนกระทั่งลูกค้าคนนั้นพูดขึ้นมา “ว่าแต่ คุณลินนา คิดเห็นยังไงเกี่ยวกับแผนขยายตลาดของบริษัทคุณสุธา?” ฉันชะงักเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองสุธา เขายังคงสีหน้าเรียบเฉย แต่ฉันรู้ว่าเขาคงอยากดูถูกฉันอยู่ในใจ “ฉันคิดว่า… ถ้าจะขยายตลาดก็ควรคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าต่างประเทศให้มากขึ้น ตอนนี้คู่แข่งในตลาดเฟอร์นิเจอร์เยอะขึ้น ถ้าเรายังใช้วิธีเดิมๆ อาจจะเสียเปรียบ” คำพูดของฉันทำให้ทุกคนเงียบไปครู่หนึ่ง สุธาหัวเราะเบาๆ แต่แววตาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “หืม? ดูเหมือนคุณจะเข้าใจธุรกิจดีนี่ ไม่คิดเลยว่าคนอย่างคุณจะให้ความเห็นที่มีประโยชน์ได้” ฉันหันไปมองเขา แววตาเต็มไปด้วยความท้าทาย “ก็แน่สิ ฉันไม่ใช่แค่ผู้หญิงโง่ๆ ที่คุณคิดหรอกนะ” สุธายกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ราวกับประหลาดใจกับท่าทีของฉัน “งั้นเหรอ? แต่ถ้าคุณฉลาดจริง ก็พิสูจน์ให้ผมเห็นหน่อยสิ ว่าคุณไม่ได้มาเล่นๆ” “ก็ลองดูสิ” ฉันตอบกลับด้วยรอยยิ้มเย็นชา ดูเหมือนเกมนี้จะเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น บรรยากาศในห้องประชุมเริ่มตึงเครียดขึ้นเล็กน้อยหลังจากการปะทะคารมของฉันกับสุธา ทุกสายตาจับจ้องมาที่เรา ราวกับกำลังชมการแข่งขันบางอย่างอยู่ ลูกค้าที่ยังอยู่ในห้องมองฉันกับสุธาสลับกันไปมา ก่อนจะยิ้มบางๆ อย่างสนใจ “ดูเหมือนว่าคู่หมั้นของคุณสุธาจะมีความมั่นใจไม่เบาเลยนะครับ” “ก็แค่ปากเก่งน่ะครับ” สุธาตอบกลับอย่างไม่แยแส ก่อนจะปรายตามองฉันเหมือนจะท้าทาย ฉันยกยิ้มมุมปาก “งั้นเหรอ? งั้นคุณคงไม่ว่าอะไรถ้าฉันจะขอมีส่วนร่วมในโปรเจกต์นี้ด้วยสินะ?” ทันทีที่ฉันพูดออกไป ห้องประชุมก็เงียบสนิท ทุกคนมองหน้ากันอย่างตกตะลึง ไม่เว้นแม้แต่ลูกค้าที่ดูเหมือนจะสนใจมากขึ้น สุธานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะในลำคอ “หึ… คุณคิดว่าตัวเองจะช่วยอะไรได้?” “ก็คงต้องให้เวลาพิสูจน์” ฉันเอนหลังพิงเก้าอี้ ไขว่ห้างอย่างมั่นใจ “หรือคุณกลัวว่าฉันจะทำได้ดีกว่าคุณ?” ดวงตาของสุธาวาวโรจน์ขึ้นมาทันที ราวกับไม่ชอบใจที่ฉันท้าทายเขา แต่เขาก็ยังคงรักษาท่าทีสุขุมเอาไว้ “งั้นก็ตามใจ” เขาพูดเสียงเย็น “แต่ถ้าคุณทำพลาดล่ะก็ อย่าหวังว่าผมจะช่วยปกป้องชื่อเสียงของคุณ” “ก็ลองดูสิ” ฉันยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ ลูกค้าที่นั่งฟังอยู่หัวเราะเบาๆ “ดูเหมือนว่าผมจะอยากติดตามโปรเจกต์นี้มากขึ้นแล้วสิ” เมื่อการประชุมดำเนินไปจนจบ ฉันเดินออกจากห้องประชุมพร้อมกับความรู้สึกที่ปะปนกันไปหมด ฉันรู้ดีว่าตัวเองเพิ่งโยนตัวเองเข้าไปในสนามรบโดยไม่ทันตั้งตัว แต่ในเมื่อฉันมาอยู่ในร่างของลินนาแล้ว ฉันก็จะไม่ยอมให้ใครมาดูถูกง่ายๆ ขณะที่ฉันกำลังจะเดินกลับไปที่ห้องทำงานชั่วคราวของตัวเอง เสียงของสุธาก็ดังขึ้นจากด้านหลัง “คุณคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่?” ฉันหันกลับไปสบตากับเขา “ก็แค่เริ่มต้นบทบาทใหม่ในบริษัทของคุณ” “อย่ามาทำเป็นเล่นสนุกกับธุรกิจของผม” เขาพูดเสียงเย็น “นี่ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะเอามาเดิมพันได้” ฉันยกยิ้ม “แล้วใครบอกว่าฉันแค่เล่นสนุก?” สุธามองฉันนิ่ง ราวกับกำลังพยายามอ่านความคิดของฉัน แต่ฉันไม่คิดจะแสดงความหวั่นไหวให้เขาเห็น “งั้นก็ดี” เขาพูดในที่สุด “ถ้าคุณอยากจะพิสูจน์ตัวเองนัก ก็อย่าถอยหนีซะล่ะ” ฉันมองเขาด้วยสายตาแน่วแน่ “ไม่มีทาง” นี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของเกมที่ฉันไม่ได้เลือกจะเล่น แต่ในเมื่อฉันเข้ามาอยู่ในโลกนี้แล้ว ฉันก็จะไม่ยอมเป็นแค่นางร้ายที่ถูกกดขี่อีกต่อไป หลังจากการประชุมจบลง ฉันเดินออกจากห้องประชุมด้วยท่าทางที่ดูมั่นใจ แต่ข้างในก็เต็มไปด้วยความคิดมากมาย สุธายังคงมองฉันเป็นแค่ผู้หญิงที่ไม่มีความสามารถ และฉันรู้ว่าเขาคงคิดว่าฉันจะทำพลาด แต่ถ้าฉันทำสำเร็จล่ะ? ถ้าฉันสามารถพลิกเกมนี้ได้? ขณะที่ฉันกำลังเดินกลับไปที่ห้องทำงาน เสียงฝีเท้าของใครบางคนก็ดังขึ้นด้านหลัง ฉันไม่ต้องหันกลับไปมองก็รู้ว่าเป็นใคร “คุณคิดว่าการเข้ามายุ่งกับธุรกิจของผมมันเป็นเรื่องสนุกเหรอ?” สุธาเอ่ยขึ้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเย็นชา ฉันหยุดเดิน หันกลับไปสบตากับเขาอย่างไม่เกรงกลัว “ฉันไม่ได้คิดว่ามันสนุก แต่มันก็น่าสนใจดีไม่ใช่เหรอ?” สุธาขมวดคิ้วก่อนจะหัวเราะในลำคอ “หึ… ผมอยากรู้จริงๆ ว่าคุณจะทำได้สักแค่ไหน” “ก็คงต้องรอดูกันต่อไป” ฉันยักไหล่ “แต่คุณเองก็อย่าประเมินฉันต่ำไปล่ะ” “ผมไม่ได้ประเมินคุณต่ำหรอก” เขาพูดเสียงเรียบ “แต่ผมไม่เชื่อว่าคุณจะทำได้” “งั้นก็เป็นหน้าที่ของฉันที่จะพิสูจน์ให้คุณเห็น” ฉันตอบกลับอย่างมั่นใจ สุธาเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ “ถ้าคุณคิดจะเล่นเกมนี้จริงๆ ผมก็จะไม่ช่วยคุณ ถ้าคุณล้มเหลว คุณก็ต้องรับผิดชอบตัวเอง” “ก็ดีเหมือนกัน” ฉันยิ้มบางๆ “เพราะฉันก็ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณอยู่แล้ว” แววตาของสุธาดูเคร่งเครียดขึ้นเล็กน้อย แต่เขาไม่ได้พูดอะไรอีก เขาเพียงแค่ปรายตามองฉันก่อนจะเดินจากไป ฉันมองตามแผ่นหลังของเขาแล้วพ่นลมหายใจเบาๆ นี่ฉันไปท้าทายผู้ชายคนนี้ทำไมกันนะ? แต่ช่างเถอะ… ในเมื่อฉันเข้ามาอยู่ในร่างของลินนาแล้ว ฉันก็จะไม่ยอมเป็นแค่นางร้ายที่ต้องถูกใส่ร้ายหรือรอให้ใครมาชี้นิ้วสั่งอีกต่อไป เกมนี้เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD