ทิชา ทิชานนท์
ในขณะเดียวกัน เขม เขมณัฐ อดีตคนรักของควีนกลับต้องเป็นฝ่ายอยู่ในสภาวะจำยอมโดยไม่สามารถที่จะคัดค้านหรือโต้แย้งในความรักครั้งใหม่ของอดีตเจ้านายที่เขาเคยรับใช้มาเป็นเวลานานหลายปีได้ ทุกวันนี้เขมยังคงอยู่ในอาการเสียใจกับการตัดสินใจที่ผิดพลาดของตัวเอง ทั้งที่หัวใจของเขามีเพียงควีนมาโดยตลอด แต่เขากลับปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองเพียงหวังว่าจะไม่ให้อดีตเจ้านายคิดกับตัวเขาเป็นเพียงของเล่นฆ่าเวลาเช่นที่ผ่านมา
สุดท้ายควีนกลับพบรักใหม่กับนายตำรวจหนุ่มผู้มีอนาคตไกลซึ่งต่างจากเขาโดยไม่ต้องเปรียบเทียบ ถึงแม้ว่าวันนี้เขาจะได้มาอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังใหญ่ของดาราหนุ่มอย่างทิชาก็ตาม ความรู้สึกและหัวใจของเขายังคงปรารถนาถึงอดีตเจ้านายเก่าแทบทุกวันจนเป็นที่สังเกตของดาราหนุ่ม
"นายคิดถึงควีนเหรอเขม เห็นนะเหม่อแทบทุกวัน" คนถูกถามถึงกับสะดุ้งกับเสียงของดาราหนุ่มที่ดังขึ้นอยู่ด้านหลังของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
"คุณทิชา!" เขมตกใจอุทานเรียกชื่อเจ้าของเสียงก่อนจะหันหน้ามามองในขณะที่มือของเขากำลังถือแก้วไวน์ที่เพิ่งซื้อจากร้านสะดวกซื้อเมื่อช่วงเย็นเพื่อเตรียมยกขึ้นดื่ม
"แอลกอฮอล์ช่วยอะไรนายไม่ได้หรอกนะ อย่างน้อยก็ทำให้เราลืมเลือนความทรงจำได้ชั่วคราวเท่านั้นแหละ เพราะหลังจากหมดฤทธิ์นายก็ยังคงรู้สึกเหมือนเดิม ที่เราพูดเนี่ยไม่ใช่ว่าเราต้องการให้นายหยุดดื่มมันหรอกนะ นายอยากจะดื่มก็ดื่มเถอะแต่เราอยากให้นายมีสติมากกว่านี้" ดาราหนุ่มนั่งลงตรงปลายเตียงในห้องนอนของเขม ขณะที่เจ้าของห้องนั่งดื่มไวน์อยู่ตรงโต๊ะระเบียงห้องนอนนั้น
ชายหนุ่มนั่งฟังคำพูดของดาราหนุ่มด้วยความรู้สึกลังเลบวกกับความมึนเมาที่เริ่มจะแสดงอาการขึ้นบ้างแล้ว ทำให้เขมรีบยกแก้วที่เหลือไวน์อยู่เกือบครึ่งแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวแล้ววางแก้วลงบนโต๊ะ
จากนั้นก็เดินเข้ามาภายในห้องนอนและหยุดยืนตรงปลายเตียงที่ดาราหนุ่มกำลังนั่งอยู่ ทำให้ทิชารู้สึกตกใจและแปลกใจเล็กน้อยกับการเข้ามาในห้องของอีกคน
"นายจะทำอะไรน่ะ อย่านะเขม"
ดาราหนุ่มรีบถอยหลังขึ้นบนเตียงด้วยความตกใจ ขณะที่เขมเริ่มพูดจาไม่รู้เรื่องเอ่ยเพียงชื่อของควีนอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ทิชาเข้าใจว่าอีกคนคงจะเมามากแล้วเลยเกิดภาพหลอนคิดว่าตัวเองเป็นควีนเจ้านายเก่าของอีกคนอย่างแน่นอน
เมื่อดาราหนุ่มคิดได้เช่นนั้นจึงไม่กล้าที่จะขัดขืนเพราะคนที่ไร้สติจากฤทธิ์แอลกอฮอล์มักจะทำอะไรขาดการยั้งคิด เขาจึงโอนอ่อนและทำตามคำบอกของอีกฝ่ายอย่างว่าง่าย ด้วยความที่เป็นนักแสดงเขาจึงคิดได้ว่าต้องใช้บทบาทการแสดงเข้าช่วยเพื่อให้เขารอดพ้นจากน้ำมือคนไร้สติเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์
ทบาทการแสดงของเขานับว่าช่วยทำให้สถานการณณ์ยืดเยื้อขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจู่โจมของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี ในขณะที่มืออีกข้างของเขาก็พยายามติดต่อหาพี่แมคทันที
ไม่ถึง 3 นาทีก็ปรากฏร่างใหญ่ของแมคที่หน้าประตูห้องโดยเขมไม่ทันได้รู้ตัวคงเป็นเพราะความเมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่เขาดื่มเข้าไปจึงถูกแมครวบตัวแล้วช่วยดาราหนุ่มได้สำเร็จ แต่คนทั้งสองก็ไม่ได้ทำรุนแรงอะไรกับเขม ชายหนุ่มผู้ถวิลหารักครั้งเก่าแต่อย่างใด เมื่อเขาถูกรวบตัวก็เป็นจังหวะเดียวกับที่เขมหลับพอดี
แมคจึงค่อยๆ ประคองร่างของคนเมาลงนอนบนเตียง ก่อนที่ดาราหนุ่มจะช่วยห่มผ้าปิดไฟในห้องแล้วปิดประตูห้องให้ จากนั้นสองคนพี่น้องจึงพากันเดินกลับห้องของตนโดยที่ดาราหนุ่มกลับไปที่ห้องนอนของตนแต่แมคก็เดินตามเข้าไปด้วย
"ขอบคุณนะครับพี่แมคที่เข้ามาช่วยผมไว้ทันไม่อย่างนั้นผมคงแย่แน่"
ดาราหนุ่มยกมือขึ้นขอบคุณลูกพี่ลูกน้องที่เขาไว้ใจและรักมากที่สุดก่อนที่เขาจะสวมกอดพี่ชายด้วยความรู้สึกดี
"น้องทิชาอย่าคิดมากเลย ถ้าพี่ไม่ช่วยน้องแล้วจะให้พี่ไปช่วยใคร คนเก่งของพี่" แมคกล่าวตอบดาราหนุ่มอย่างเป็นกันเองพลางยกฝ่ามือใหญ่ขึ้นลูบศีรษะเบาๆ เพื่อส่งต่อความอบอุ่นให้กับคนตัวเล็ก แต่ในใจลึกๆ ของเขากลับรู้สึกรักและเป็นห่วงน้องชายคนนี้มาก
หากไม่ติดคำว่าพี่น้องเขาคงตัดสินใจที่จะแสดงความรู้สึกจริงๆ จากหัวใจของตัวเองให้กับดาราหนุ่มได้รับรู้ไปตั้งนานแล้ว เขาคงไม่ต้องเสียเวลาเก็บความรู้สึกนั้นไว้ภายในใจเพียงคนเดียวอย่างนี้มานานกว่า 10 ปี
สีหน้าของแมคคงจะแสดงออกถึงความไม่สบายใจจนน้องชายดาราเจ้าบทบาทจับผิดสังเกตถึงอาการที่เขาเป็นอยู่ได้ จึงถูกน้องชายผู้น่ารักชิงหอมแก้มด้วยความรักและรู้สึกดีที่มีต่อพี่ชายเพียงคนเดียวอย่างตั้งใจ ทั้งที่ในใจของดาราหนุ่มเองก็รู้มาโดยตลอดว่าแมคไม่ได้รู้สึกกับตัวเองเพียงแค่น้องชายเท่านั้น แต่ตัวเขาเองไม่สามารถจะตอบสนองความรู้สึกของพี่ชายได้ เพราะในใจของเขาก็มีชายหนุ่มที่ซื่อสัตย์ต่อความรักของตัวเองไม่น้อยกว่าพี่ชายอย่างแมคอีกหนึ่งคนนั่นก็คือ จันทร์ ชายหนุ่มที่หาเช้ากินค่ำเป็นคนที่เขารักและเฝ้ารอเพื่อสักวันหนึ่งเขากับคนรักจะสมหวังในสิ่งที่เขาทั้งสองคนตั้งใจปลูกต้นรักร่วมกันเมื่อ 5 ปีก่อน
ดาราหนุ่มพลางคิดทบทวนถึงเหตุการณ์ในอดีตที่เขาได้พบรักกับจันทร์ พ่อค้าขายผักในตลาด ขณะที่จิตใจของเขากำลังจะโอนอ่อนตามความรู้สึกของตัวเองให้กับพี่ชายลูกพี่ลูกน้องอย่างแมคแต่เขาก็ไม่สามารถจะตอบสนองความรู้สึกของอีกฝ่ายได้ เพราะคำว่าพี่น้องเป็นเส้นกั้นระหว่างเขาทั้งสองคน
จนกระทั่งจันทร์ได้เข้ามาในชีวิตของดาราหนุ่มทุกอย่างก็เปลี่ยนไปแต่ความรักและความรู้สึกดีของดาราหนุ่มที่มีต่อพี่ชายคนนี้ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่ความรู้สึกเก่าๆ ที่เคยมีต่อพี่ชายแบบเดิมมันไม่หลงเหลืออีกแล้ว เพราะทั้งหัวใจของเขามีเพียงพ่อค้าหนุ่มเพียงคนเดียว
"ผมต้องขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่ทำให้ผมนะครับ ผมรู้และเข้าใจมาโดยตลอดว่าพี่คิดและรู้สึกยังไงกับผม แต่ผมก็ต้องขอบคุณพี่ที่เข้าใจในความรู้สึกของผมเช่นกัน ถึงแม้ว่าผมจะเป็นคนรักของพี่ไม่ได้ ผมก็จะไม่มีวันที่จะทอดทิ้งพี่ชายคนนี้เช่นกัน ขอบคุณนะครับ"
ทิชานั่งจับมือใหญ่ของแมคไว้บนตักพลางพูดถึงความรู้สึกภายในใจของเขาให้อีกฝ่ายได้รับรู้ยิ่งเขาพูดคนนั่งข้างๆ ก็ยิ่งมีสีหน้าที่เศร้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด พอมาถึงประโยคท้ายๆ รอยยิ้มหวานก็เริ่มปรากฏบนใบหน้าของแมคนับว่าเป็นรอยยิ้มที่สร้างความสุขให้กับดาราหนุ่มทุกครั้งที่ได้เห็น เมื่อเขาบอกถึงความรู้สึกต่อพี่ชายจบลง ทิชาก็ชิงหอมแก้มพี่ชายอีกครั้ง ก่อนจะรีบดันตัวของพี่ชายให้ลุกขึ้นจากเตียงนอนเดินออกไปจากห้องด้วยอาการมึนงงกับการกระทำของเขาเป็นครั้งที่ 2
ทันทีที่ประตูห้องถูกปิดดาราหนุ่มก็กลับมานั่งยิ้มให้ตัวเองด้วยอาการเขินอายอยู่นานกว่าจะล้มหัวลงนอนได้
ในวันรุ่งขึ้น ณ ห้องบอลรูมใหญ่ของโรงแรมชื่อดังใจกลางกรุง
ความวุ่นวายได้เกิดขึ้นเมื่อลูกชายคุณนภาว่าที่เจ้าบ่าวได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ขณะที่พิธีการกำลังจะเริ่มขึ้นอีกไม่ถึง 20 นาทีข้างหน้านี้ ซึ่งไม่มีใครไม่รู้ล่วงหน้าว่าวันนี้เป็นวันมงคลสมรสระหว่างลูกชายหัวแก้วหัวแหวนทิชา ทิชานนท์และลูกสาวเจ้าของกิจการจิวเวลรี่ชื่อดังของประเทศ จัดงานแต่งงานใหญ่โตในโรงแรมชื่อดังระดับประเทศ มีแขกเหรื่อมาร่วมงานนับพันคนแต่ทุกคนต้องตกใจเมื่อว่าที่เจ้าบ่าวได้หายตัวไปอย่างน่าแปลกใจ ซึ่งคนที่เป็นทุกข์มากที่สุดคงจะหนีไม่พ้นคุณนภาเป็นแน่
บุคคลที่รู้ถึงการหายตัวไปของดาราหนุ่มก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นคือคนในครอบครัวของคุณนภาเพียงฝ่ายเดียว
ส่วนทางว่าที่เจ้าสาวกลับไม่รู้เรื่องนี้เพราะคุณนภาปิดบังเอาไว้ ซึ่งขณะนี้พิธีการกำลังจะเริ่มขึ้นแต่ขาดว่าที่เจ้าบ่าวซึ่งทางว่าที่เจ้าสาวเองก็รู้สึกแปลกใจ
ครึ่งชั่วโมงที่แล้วดาราหนุ่มยังอยู่กับเธออยู่เลย ตอนนี้กลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเสียแล้ว พอเธอไปถามกับคุณนภาก็ได้คำตอบว่าดาราหนุ่มเกิดท้องเสียกะทันหันจึงขอตัวไปรับยาที่โรงพยาบาลใกล้เคียงก็คงจะรีบกลับมา
คำตอบที่ได้รับจึงแพร่สะพัดไปทั่วงานว่าว่าที่เจ้าบ่าวท้องเสียเข้าโรงพยาบาลเร่งด่วนอาจจะกลับมาทำพิธีไม่ทันตามกำหนดเวลา
"ติดต่อน้องได้ไหมแมค?" คุณนภาเอ่ยถามหลานชายที่พยายามติดต่อลูกชายด้วยความรีบร้อนและไม่สบายใจ
"ติดต่อไม่ได้เลยครับคุณอา"
"แล้วแมคคิดว่าน้องจะไปที่ไหนได้บ้าง?" หล่อนยังคงยิงคำถามใส่หลานชายไม่หยุดเพราะกลัวจะเสียหน้าและเป็นข่าวครึกโครม
"ผมได้โทรไปถามคนรู้จักตามสถานที่ต่างๆ ที่คิดว่าน้องจะไป แต่ก็ไม่พบตัวครับ เดี๋ยวยังไงผมขอออกไปตามหาน้องด้วยตัวเองได้ไหมครับคุณอาเผื่อจะได้เบาะแสอะไรผมจะรีบติดต่อกลับครับ" เมื่อหล่อนได้ยินเช่นนั้นก็รีบพยักหน้าก่อนจะกล่าวอะไรบางอย่างกับหลานชาย
"รีบไปเถอะลูกไปตามหาน้องให้เจออาไม่อยากเสียหน้า อีกอย่างตระกูลของว่าที่ลูกสะใภ้อาก็รวยมาก เขาคงทำให้ครอบครัวของเราสบายไปทั้งชาตินะลูก ช่วยตามหาน้องให้เจอเร็วๆ นะ ถ้าเจอแล้วให้เอาตัวกลับมาเดี๋ยวอาจะจัดการเอง!" เธอกล่าวเสียงแข็งด้วยความไม่สบอารมณ์
"ครับคุณอาผมจะรีบตามตัวน้องให้เจอเร็วๆ ผมขอตัวก่อนนะครับ" แมคตอบรับคำสั่งของคุณนภาด้วยความจำใจก่อนจะรีบเดินออกจากโรงแรมเพื่อตามหาน้องชายที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เมื่อเขาปิดประตูรถยนต์ แมคก็หยิบมือถือขึ้นมาเพื่อกดโทรหาคนต้นเรื่องทันที
"น้องทิชาตอนนี้อยู่ที่ไหนครับ?"
เมื่อคนปลายสายกดรับสายจากเขา แมคก็รีบยิงคำถามใส่น้องชายทันที
แต่สิ่งที่เขาได้ยินที่ดังแทรกระหว่างที่เขากำลังเอ่ยถามดาราหนุ่มเขากลับได้ยินเสียงลมและเสียงคลื่นน้ำซัดซ่าดังลอดมาตามสายมาจึงทำให้รู้ว่าคนต้นเรื่องน่าจะอยู่ที่ชายทะเลสักแห่งแน่นอน