ตกดึกในคืนนั้นหมาป่าหนุ่มก็แอบบุกเข้าไปยังบ้านของนายกเทศมนตรีนาเดียร์ เขาผ่านยามหลายคนไปได้อย่างง่ายดายและเงียบเชียบ ไม่มีใครรู้ถึงการมาของเขาแม้แต่คนเดียว
นาเดียร์ที่ยังไม่รู้เรื่องกำลังประชุมกับทางดิสโทเปียเรื่องที่จะส่งเด็กไปเพิ่มให้ การทดลองหลาย ๆ อย่างที่องค์กรทำยังไม่ประสบความสำเร็จ เหล่าเด็ก ๆ ที่ส่งไปก่อนหน้าก็ทนไม่ไหวและตายไปหลายคนแล้ว
“ครั้งนี้อยากได้กี่คน?”
(มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ)
เธอยกไวน์แดงขึ้นมาแกว่งเล็กน้อยแล้วจิบมันเพื่อดื่มด่ำกับรสชาติ ก่อนจะเผยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความร้ายกาจออกมา
“ได้สิ ส่วนแบ่งเท่าเดิมใช่ไหม?”
(เพราะเป็นการร้องขอพิเศษ คุณคานิกซ์ได้สั่งให้เพิ่มงบขึ้น คุณจะได้เพิ่มจากปกติอีกเท่าตัวหนึ่งถ้าทำตามที่เขาต้องการได้และถ้าเด็กคนไหนมีพลังพิเศษคุณจะได้เปอร์เซ็นต์เพิ่มอีก 40 %)
“ครั้งนี้ดูจะทุ่มเทเหลือเกินนะ”
(ใช่ครับ เพราะเราจะทำการวิจัยต่อจากเมื่อ 20 ปีที่แล้ว คุณน่าจะรู้เรื่องค่าหัวของลูกสาวตัวเองแล้วไม่ใช่หรือไง)
มือบางกระแทกแก้วลงโต๊ะอย่างไม่สบอารมณ์ รอยยิ้มบนไปหน้าจางหายไปอย่างรวดเร็วและกลายเป็นสีหน้านิ่งเรียบที่ไม่บ่งบอกอารมณ์
“ฉันไม่เคยมีลูกสาว อย่ามาพูดอะไรแบบนี้ให้ได้ยินเด็ดขาด”
(....ขอโทษครับ ครั้งหน้าผมจะระวัง)
“ช่างเถอะ ไว้ฉันจะส่งวัตถุดิบไปให้โดยเร็วที่สุด ฝากบอกคานิกซ์ด้วย”
(รับทราบครับ มิสซิส V)
นาเดียร์ไม่รู้เลยว่าทุกคำพูดถูกเอสโทเพลที่ยืนอยู่ด้านนอกได้ยินมันทั้งหมด ร่างสูงสั่นเทิ้มไปด้วยความโกรธนอกจากเธอจะไม่เห็นเจนัสเป็นลูกสาวแล้วยังมองพวกเด็ก ๆ เป็นแค่วัตถุดิบในการทดลองเท่านั้น
เขาอยากจะเข้าไปบีบคอเธอให้ตายคาที่แต่ทำได้แค่ระงับความโกรธเอาไว้เท่านั้น แค่ความตายมันไม่สาสมกับสิ่งที่เธอทำหรอกเพราะคนแบบเธอต้องโดนมากกว่านั้น
เมื่อระงับความโกรธลงได้เอสโทเพลก็ตั้งสติและคิดถึงสิ่งที่ต้องทำ เขาจัดแจงเอาชุดพ่อบ้านที่เตรียมไว้ออกมาสวม ซ่อนใบหูให้ดูเหมือนมนุษย์มากที่สุดก่อนจะเข้าไปปะปนกับเหล่าคนรับใช้มากหน้าหลายตา
“นี่ นาย! เอาของว่างไปเสริฟคุณนาเดียร์ที”
“ครับ”
“อ้อ แล้วก็เตรียมตัวด้วย วันนี้คุณนาเดียร์อารมณ์ไม่ค่อยดี นายอาบน้ำแล้วใช่ไหม?”
“เอ่อ ใช่ครับ”
“ดี ถ้าคุณนาเดียร์ให้ทำอะไรก็ทำไปซะ เรื่องเงินถ้าเสร็จงานแล้วค่อยมารับ”
ดูเหมือนว่าฟ้าจะเป็นใจซะเหลือเกิน เอสโทเพลก้มหน้าเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปรับถาดเครื่องดื่มมาถือไว้ เขาค่อย ๆ เดินไปตามทางอย่างไม่เร่งรีบเพื่อไม่ให้ยามที่เฝ้าจับตามองทุกการเคลื่อนไหวเกิดความสงสัย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
‘เข้ามา’
เอสโทเพลเปิดประตูเข้าไปเมื่อได้ยินเสียงอนุญาตแล้วนำถามเครื่องดื่มในมือไปวางไว้บนโต๊ะและทำท่าเตรียมเดินออกไปทันที
“เดี๋ยว”
ร่างสูงชะงักนิ่งอยู่กับที่ เขาได้ยินเสียงเธอลุกขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาประชิดตัว นิ้วเรียวเชยคางเขาขึ้นมาพร้อมกับมองด้วยสายตาที่ราวกับกำลังพินิจพิเคราะห์ของชิ้นหนึ่งเท่านั้น
“นายหน้าตาดีนะ ฉันชอบ ถอดเสื้อผ้าแล้วไปรอบนเตียง อย่าให้ต้องพูดซ้ำ”
เธอพูดเสร็จก็ผลักใบหน้าเขาออกด้วยปลายนิ้วก่อนจะหยิบทิชชู่มาเช็ดแล้วปาลงพื้น เอสโทเพลเก็บความไม่พอใจเอาไว้และเดินหายไปในห้องนอนที่อยู่ติดกัน
ด้านนาเดียร์ก็เดินกลับมาที่โต๊ะทำงานก่อนจะกดโทรศัพท์ภายในออกไปหาคนข้างนอกเพื่อจัดการไม่ให้มีคนมาขัดจังหวะช่วงเวลาแห่งความสุขของเธอ
(ครับ คุณนาเดียร์)
“อย่าให้ใครเข้ามารบกวนฉันจนกว่าฉันจะเรียกหา”
(ได้ครับ ผมจะกำชับทุกคนไว้ให้)
นาเดียร์ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจก่อนจะหยิบของเล่นที่มักใช้กับคู่นอนออกมาจากลิ้นชักโต๊ะทำงาน
ฟึ่บ!!
เสียงหวดแส้ดังแหวกอากาศขึ้นมาตามด้วยรอยยิ้มที่แสนวิกลจริตของนาเดียร์ เธอเสพติดการเห็นคู่นอนตัวเองเจ็บปวดและชื่นชอบเสียงกรีดร้องเป็นที่สุด
ร่างบางเดินตามชายหนุ่มเข้าไปยังห้องนอน ทันทีที่ก้าวขาเข้ามาไฟในห้องก็ดับพรึบลง เหลือเพียงแสงเทียนที่นำทางเธอไปยังเตียงกว้างเท่านั้น
“ชักถูกใจแล้วสิ ต้องตบรางวัลหน่อยแล้วล่ะ”
เธอพูดออกแล้วก้าวเดินไปช้า ๆ อย่างไม่นึกสงสัยอะไร ภายใต้ความมืดคนที่เพิ่งเข้ามาจากห้องที่สว่างจ้าสายตายังคงไม่คุ้นชินจึงทำให้ไม่เห็นสิ่งผิดปกติที่รออยู่บนเตียง
“ถอดเสื้อผ้าหรือยัง”
เธอเห็นแค่ร่างสูงที่นั่งอยู่ในมุมลึกสุดของเตียงเท่านั้น แสงจากเทียนทำให้การมองเห็นถูกบดบังไปเกินครึ่ง
“ถอดแล้วครับ....”
“งั้นก็คลานเหมือนหมาแล้วมาแล้วเลียเท้าฉันซะสิ”
นาเดียร์ออกคำสั่งด้วยเสียงแหบพร่า เท้าเรียวถูกยกเหยียบยันเตียงไว้พร้อมกับที่ชายหนุ่มขยับเข้ามาชิดเธอเรื่อย ๆ
“ผมจะเลียให้ทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยครับ”
“เด็กดี ถ้านายทำให้ฉันพอใจได้ นายจะได้ทุกอย่างแน่นอน”
“งั้นผมขอเลยได้ไหมครับ”
“อยากได้อะไรล่ะ ลองบอกมาสิ”
“ชีวิตของคุณไง”
“!!!”
กว่าจะรู้ตัวว่าคนตรงหน้าไม่ใช่คนรับใช้ตัวเองก็สายไปแล้ว เอสโทเพลอาศัยแรงที่มากกว่าดึงเธอลงไปนอนคว่ำหน้าบนเตียง มือหนากดศีรษะเล็กไว้เพื่อกันเสียง ส่วนขาหนัก ๆ ของเขาก็กดอยู่กลางแผ่นหลังเรียนเนียน
“อื้อ!!!!”
“ชู่ววว ไหนบอกให้ได้ทุกอย่างไง หุบปากแล้วอยู่นิ่ง ๆ ซะ”
นาเดียร์พยายามดิ้นรนขัดขืนแต่มันก็ไร้ประโยชน์ เอสโทเพลแรงเยอะกว่ามากแถมเธอยังเริ่มหายใจไม่ออกแล้วด้วย
“คนที่ขายได้แม้กระทั่งลูกแบบเธอโดนแค่นี้มันยังน้อยไป”
แรงที่มือกดใบหน้าเล็กให้จมลงไปบนที่นอนนุ่ม ๆ ร่างบางดิ้นรนอีกครู่ใหญ่ก่อนจะสงบลง เอสโทเพลพลิกร่างเธอนอนหงายก่อนจะอุ้มเธอพาดบ่าเอาไว้แล้วบ่นพึมพำออกมาเบา ๆ
“อย่าเพิ่งตายซะล่ะ แค่นี้มันยังไม่สาแก่ใจเลยนะ”
»»»»»«««««
เอสโทเพลนำร่างที่ไร้สติของนาเดียร์โยนลงบนพื้นหญ้ากลางป่าก่อนจะหยิบโซ่ที่เตรียมมาออกจากกระเป๋า ร่างสูงเอาแผ่นไม้ที่ทำเป็นเหมือนเครื่องกากบาทมาวางทาบร่างหญิงสาวแล้วล่ามโซ่เอาไว้
“อืม....ที่นี่มันที่ไหนกัน....”
ตอนที่เขากำลังจับเธอมัดเข้ากับต้นไม้อีกทีนาเดียร์ก็ตื่นพอดี ก่อนที่เธอจะแหกปากลั่นป่าเอสโทเพลก็เอาลูกบอลกลม ๆ ที่เป็นอุปกรณ์เซ็กส์ทอยปิดปากเธอไว้ทันที
“เอามาใช้แบบนี้เสียของแฮะ ช่างเถอะไว้ค่อยซื้อใหม่ก็ได้”
หมาป่าหนุ่มบ่นพึมพำเล็กน้อยโดยไม่สนการพยายาม ดิ้นรนของคนตรงหน้า เธอเปล่งเสียงอู้อี้อยู่ในลำคอ ดวงตาสีฟ้าอ่อนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“ไม่ต้องกลัวเพราะยังไงเธอก็ไม่รอด”
มือหนาหยิบมีดประจำตัวออกมาลากผ่านกรอบหน้าเรียวสวย ความคมของมันแค่ออกแรงเบา ๆ ก็บาดเข้าเนื้อแล้ว
“เธอรู้บ้างหรือเปล่าว่ามันมีกี่ชีวิตที่ต้องสังเวยให้กับความโลภของเธอ?”
“อื้อ!!!”
ใบหน้าสวย ๆ ของนาเดียร์ตอนนี้มันเต็มไปด้วยเลือดลากยาวตั้งแต่โหนกแก้มลงมาหาคาง เอสโทเพลมองเธอด้วยสายตานิ่งเรียบไร้ซึ่งความเมตตาใดจะมอบให้
“จะว่าไปเธอรู้ขั้นตอนการทดลองหรือเปล่า?”
“.....”
“ถ้าขัดขืนมาก ๆ ก็ต้องทำให้หนีไม่ได้ แบบนี้ยังไงล่ะ”
“อื้อออ!!!!!”
ใบมีดคมตวัดตัดเส้นเอ็นที่ข้อเท้าทั้งสองข้างอย่างรวดเร็ว เลือดสด ๆ พุ่งออกมาจากบาดแผลอาบใบหน้าของหมาป่าหนุ่มปลุกสัญชาตญาณสัตว์ป่าในตัวให้ตื่นขึ้น ใบหูที่พยายามเก็บเอาไปโผล่ออกมาอีกครั้งเพราะอารมณ์ที่ไม่มั่นคงของเขา
“ส่วนอันนี้ของแถมนะ”
เขาพูดพร้อมปาดมีดลงบนข้อมือบาง เส้นเอ็นทั้งสองข้างถูกตัดทันที ตอนนี้ตัวของเอสโทเพลเองก็เต็มไปด้วยเลือดไม่ต่างจากนาเดียร์เลยสักนิด ถ้าเขาไม่อุดปากเธอไว้คงได้ยินเสียงร้องด้วยความทรมานของเธอแล้ว
“จะว่าไปเราอยู่กลางป่านี่น่า....”
ที่นี่ไกลพอสมควรจากตัวเมืองอีสเทอร์วิลล์ ต่อให้เธอกรีดร้องแค่ไหนก็คงยากมากที่จะมีคนได้ยินเข้า เมื่อคิดได้แบบนั้นเอสโทเพลจึงดึงที่ปิดปากเธอออกแล้วโยนทิ้งทันที
“เอ้า แหกปากซะสิ!!”
“กรี๊ดดดดด!!!!”
เสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดดังก้องไปทั่วป่าเมื่อเขากรีดมีดลากตั้งแต่ริมฝีปากขึ้นให้หาโหนกแก้ม เธอพยายามหันหน้าหนีแต่มันก็ไร้ประโยชน์ คนตรงหน้าเธอตอนนี้กลายเป็นหมาบ้าจริง ๆ ไปซะแล้ว
“อ้อ ลืมเลยว่าต้องให้คนจำหน้าได้”
เขาหยุดมือเมื่อนึกขึ้นได้ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุขแตกต่างกับนาเดียร์ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความหวาดกลัว
“ฮืออ วะ ไว้ชีวิตฉันเถอะ ขะ ขอร้อง....”
นาเดียร์พยายามอย่างมากที่จะเค้นเสียงออกมา ริมฝีปากของเธอเสียหายจนแทบพูดไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ เอสโทเพลคิ้วกระตุกเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ
“ทำไมล่ะ เธอเองก็กลัวเหรอความตายน่ะ”
แววตาของเอสโทเพลเต็มไปด้วยความชิงชังและรังเกียจ ยิ่งเธอร้องขอชีวิตมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งอยากทำให้เธอทรมานมากขึ้นเท่านั้น
“เสียดายที่เวลาน้อยไปหน่อยไม่งั้นคงได้เล่นสนุกกับเธออีกเยอะ”
“ยะ อย่านะ ขะ ขอร้อง....”
“ไม่ล่ะ ฉันไม่มีอะไรให้เธอทั้งนั้น เธอทำให้พี่เจนัสต้องตกนรกทั้งเป็น ทำให้เด็ก ๆ อีกหลายคนต้องตายเพราะความโลภของเธอ สิ่งเดียวที่เธอควรได้รับคือความตายเท่านั้น”
“ค่อก....”
มีดคมถูกปักเข้าคอระหงทันทีที่เขาพูดจบ นาเดียร์กระตุกอีกสองสามทีก่อนจะหมดลมหายใจลง ดวงตาเธอเบิกกว้างและยังเต็มไปด้วยน้ำตา
“ต่อไปก็ของฝากให้ดิสโทเปียสินะ.....”