ใกล้คลอด

886 Words
จากหญิงสาวคนหนึ่งที่ไม่มีต้นทุนอะไรเลยในชีวิต เธอเติบโตมากับความฝันเรียบง่าย เรียนให้จบปริญญา หางานดีๆเพื่อดูแลครอบครัว แต่แล้วเส้นทางที่วาดหวังไว้กลับเปลี่ยนไป เพราะผู้ชายคนนั้น คนที่ทิ้งสิ่งมีชีวิตเล็กๆเอาไว้ในตัวเธอ ถึงแม้เขาจะไม่เคยมองเห็นคุณค่า แต่สำหรับเธอแล้ว เด็กน้อยคนนี้คือสิ่งล้ำค่าที่สุดในชีวิต เป็นกำลังใจเดียวที่ทำให้เธอเลือกจะยืนหยัด จุดเริ่มต้นของชีวิตแม่เลี้ยงเดี่ยวคือการขายของมือสองเล็กๆในเพจออนไลน์ พอเริ่มมีคนติดตามมากขึ้น เพื่อนๆก็นำของมาฝากขายพร้อมค่าตอบแทนเล็กน้อย เมื่อมีเงินเก็บ เธอตัดสินใจลงทุนในสิ่งที่รักอาหาร สุดท้ายเลือกเปิดร้านขายยำในห้องเช่าเล็กๆที่เพื่อนช่วยหาให้ แต่เส้นทางกลับไม่ง่ายเหมือนความฝัน วันแรกๆ แทบไม่มีลูกค้า ความเงียบเหงาทำให้หลายครั้งคิดจะล้มเลิก หากแต่ทุกครั้งที่นึกถึงลูกน้อยที่กำลังจะลืมตาดูโลก เธอก็เตือนตัวเองว่า “จะล้มไม่ได้ ต้องสู้” เพราะเธอรู้ดีว่าการเกิดมาแล้วต้องเจอกับความลำบากมันเป็นอย่างไร และเธอจะไม่มีวันยอมให้ลูกต้องลำบากแบบนั้น ด้วยความพยายาม เธอลองทำทุกวิถีทางเพื่อให้ร้านเป็นที่รู้จัก จากวันที่ทำทุกอย่างคนเดียวเสิร์ฟอาหาร ล้างจาน รับออเดอร์ และลงมือทำเองทั้งหมดพอมีรายได้ เธอก็เริ่มจ้างพนักงานเพิ่ม จากหนึ่งเป็นสอง และในที่สุดปัจจุบันร้านเล็กๆ มีลูกน้องถึงห้าคน แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังไม่ละทิ้งการขายออนไลน์ เพราะนั่นช่วยต่อยอดและเป็นรายได้เสริมให้กับร้าน ทุกครั้งที่เหนื่อยล้า เธอมักวางมือจากงานเพื่อลูบหน้าท้อง พูดคุยกับลูกน้อยในครรภ์ ขอเพียงกำลังใจเล็กๆเพื่อก้าวต่อไป เวลาล่วงเลยจนท้องโตเข้าเดือนที่เก้า เพื่อนสนิทก็มักแวะมาที่ร้านเสมอเพื่อช่วยเหลือและคอยห่วงใย “มิ้ง ท้องแกโตขนาดนี้ยังมาทำงานอีกหรอ” “ก็ฉันเสียดายเวลาอ่ะแก อีกตั้งเดือนนึงกว่าจะคลอด” “แกคิดจะทำงานจนถึงวันคลอดเลยรึไง” “ไม่ขนาดนั้นหรอก แค่อยากทำอีกสักหน่อยค่อยหยุด” “ไม่ได้นะ ช่วงเวลาใกล้คลอดแกต้องพักผ่อน ระมัดระวังตัว เดี๋ยวเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแย่เลยนะ ไม่เป็นห่วงตัวเองก็เป็นห่วงลูกบ้าง” “ก็ได้ๆ นี่ฉันถือว่าเห็นแก่คำเตือนเพื่อนละกัน” “ก็ดี แล้วนี่จะเอายังไงต่ออ่ะ ร้านแกคนก็เริ่มเยอะขึ้นทุกวัน” “ก็ว่าจะหาผู้จัดการมาช่วยดูร้านให้ก่อนช่วงนี้ จนกว่าจะคลอด พอลูกสามเดือนว่าจะจ้างพี่เลี้ยง แล้วก็ค่อยหาทำเลที่จะเพิ่มสาขา” “มันจะเหนื่อยนะ ฉันว่าแค่ร้านเดียวแกกับลูกก็อยู่กันได้โดยที่ไม่ต้องลำบากอะไร” “ในอนาคตมันไม่แน่ไม่นอน ฉันอยากให้ลูกได้เรียนโรงเรียนดีๆ มีชีวิตที่ดี อยากสร้างบ้านไว้อยู่กับลูกสองคน ฉันไม่อยากอยู่ในห้องเช่าสี่เหลี่ยมกับลูกไปตลอดชีวิตหรอกนะ” “อืมๆ เอาที่แกว่าเลย ฉันจะคอยเป็นกำลังใจให้นะ” “ถ้าไม่มีแกก็คงไม่มีฉันในวันนี้ ขอบใจนะที่หาร้านเช่าให้” “ขอบคุณอะไรหล่า ที่แกมีวันนี้ก็เพราะตัวแกนั่นแหละ ฉันแค่ช่วยหาร้านให้เฉยๆ” “เอาหน่า ยังไงก็ขอบคุณละกันนะ” “จร้า ยังไงก็สู้ๆนะ เพื่อลูก” “ฉันจะสู้เพื่อลูกจนกว่าจะหมดลมหายใจ” “นี่ฉันไม่คิดเลยนะว่าการมีลูก จะทำให้แกยอมเหนื่อยยอมสู้ได้ขนาดนี้” “แกก็ลองมีสิจะได้เข้าใจความรู้สึกว่า การสู้เพื่อคนที่รักถึงมันจะเหนื่อยแต่ก็มีความสุข” “ตอนนี้อย่าพูดถึงเรื่องมีลูกเลย แค่แฟนฉันยังหาไม่ได้เลย 555” “แล้วคนนั้นหล่ะ คนที่ไปส่งแกที่มหาลัยวันนั้น” “บ้า แค่เพื่อนเฉยๆ พอดีวันนั้นรถฉันเสียอ่ะ พี่เขาเลยอาสาไปส่ง” “แน่ใจนะว่าไม่มีอะไรไปมากกว่าแค่เพื่อน” “ไม่มีจริงๆ สาบานได้เลย” “ค่ะ เชื่อแล้วค่ะ” “แกอ่ะไปพักได้แล้ว เดี๋ยวฉันช่วยดูร้านให้” คำพูดยังไม่ทันจบ สีหน้าของหญิงท้องเริ่มเปลี่ยนไปทันที ความเจ็บปวดแผ่ซ่านทั่วร่างจนเพื่อนรีบสังเกตเห็น “นี่แกเป็นอะไรหรือเปล่าอ่ะ ทำไมทำหน้าแบบนั้น” “แก…ฉันรู้สึกปวดท้อง เหมือนจะคลอดเลย” “แต่มันยังไม่ถึงเวลาคลอดนี่” “ฉันไม่รู้เหมือนกัน แค่รู้สึกว่าตอนนี้มันปวดมากๆ” “มาฉันเดี๋ยวฉันช่วยประคอง แกไปนั่งพักก่อน เผื่อสักพักมันจะดีขึ้น” เวลาผ่านไปสิบนาที อาการกลับไม่ดีขึ้น ตรงกันข้าม ความเจ็บกลับรุนแรงขึ้นกว่าเดิม “โอ้ยย ฉันไม่ไหวแล้ว แกเรียกรถพยาบาลมาเลย” “ได้ๆ” ทุกคนในร้านต่างหันมามองด้วยความตกใจ เสียงร้องของหญิงท้องดังสะท้อนอยู่ในบรรยากาศ ก่อนที่รถพยาบาลจะมาถึงและรีบนำเธอขึ้นรถไปทันที…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD