ตอนที่ 11
มุกดารินทร์แอบรู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่รู้ว่าอาเธอร์ไม่ได้ไปซ้อมดนตรีกับเพื่อน เธออยากใช้เวลาอยู่กับเขานานกว่านี้ ความรู้สึกของมุกดารินทร์ที่มีพี่ชายกำลังก่อตัวขึ้นช้าๆ โดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว อาเธอร์สังเกตเห็นใบหน้าผิดหวังของน้องสาว ก่อนจะคิดอะไรบางอย่างออก
“ถ้าเธอมีเวลาว่าง เราไปหาอะไรทำสนุกๆ กันไหม” ดวงตากลมโตของมุกดารินทร์เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ เธอไม่คิดว่าเขาจะชวนเธอไปไหนสองต่อสอง
“อะไรเหรอคะ”
“ก็เธออยากทำอะไรล่ะ” อาเธอร์ถามกลับ เขาอยากให้เธอเป็นคนเลือก
มุกดารินทร์ก้มหน้าเล็กน้อย พยายามคิดว่าอะไรที่เธออยากทำในกรุงเทพฯ แต่ก็ไม่รู้จะตอบอะไร เพราะเธอไม่เคยได้ไปเที่ยวไหนมาก่อนเลย
“อืม…แล้วแต่พี่อาเธอร์สิคะ” อาเธอร์ยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจกับคำตอบนั้น
“ว่าแต่อายุของเธอคงจะยังเข้าผับไม่ได้” เขาพูดพร้อมกับเหลือบมองเธออย่างเยาะเย้ย
“อีกสองอาทิตย์มุกก็จะอายุครบ 17 แล้วค่ะ” มุกดารินทร์ตอบเสียงจริงจังเป็นการบ่งบอกว่าเธอไม่ได้เด็กแล้ว แต่เรื่องที่จะเข้าผับไม่มีอยู่ในหัวของเธออยู่แล้ว ต่อให้อายุถึงก็ตาม เพียงแค่ชายหนุ่มตรงหน้าไม่มองว่าเธอเด็กก็พอ
“แล้ววันนี้มีการบ้านไหม? จะได้ช่วยสอน” อาเธอร์เปลี่ยนเรื่องอีกครั้ง เขารู้ดีว่าสถานที่แบบนั้นมันก็ไม่เหมาะกับเธอในตอนนี้เช่นกัน แต่ก็อยากลองใจถามดู เพราะเคยเห็นเด็กบางคนอายุยังน้อยแต่ก็แอบเข้าผับกัน
“ก็พอมีค่ะ..แต่ไม่เยอะ” มุกดารินทร์ตอบ
“โอเค” อาเธอร์ตัดสินใจ
“พอดีฉันมีคาเฟ่อยู่ที่หนึ่ง เดี๋ยวเราไปนั่งทำการบ้านกันที่นั่น ฉันขี้เกียจฝ่ารถติดล่ะ อีกอย่างตอนนี้ก็ปวดฉี่ด้วย”
“ค่ะ” มุกดารินทร์พยักหน้ารับ
รถสปอร์ตคันหรูของอาเธอร์เลี้ยวเข้าจอดในซอยเล็กๆ ที่เงียบสงบ ก่อนจะมาหยุดนิ่งอยู่หน้าคาเฟ่แห่งหนึ่งที่ดูเรียบง่ายแต่เก๋ไก๋ ตัวอาคารเป็นสไตล์มินิมอล มีต้นไม้สีเขียวรายล้อม บรรยากาศดูอบอุ่นและเป็นส่วนตัว
“ถึงแล้ว” อาเธอร์ดับเครื่องยนต์ เขาหันไปมองมุกดารินทร์ที่กำลังมองรอบๆ ด้วยแววตาตื่นเต้น
ร้านสวยจังเลยค่ะ มุกดารินทร์เอ่ยชม
“ลงมาสิ” อาเธอร์เปิดประตูลงไปก่อน เขายืนรอจนมุกดารินทร์ก้าวลงจากรถ แล้วจึงเดินนำเธอเข้าไปในคาเฟ่ ภายในตกแต่งด้วยโทนสีอบอุ่น มีแสงไฟสลัวๆ และกลิ่นหอมอ่อนๆ ของกาแฟคั่วสดลอยอบอวลไปทั่ว มีลูกค้าไม่มากนัก ทุกคนดูเหมือนจะกำลังจดจ่ออยู่กับโลกส่วนตัวของตัวเอง
อาเธอร์พามุกดารินทร์ไปนั่งที่โต๊ะมุมโปรด ที่เขาชอบมานั่งเป็นประจำ ซึ่งค่อนข้างเป็นส่วนตัวและสามารถมองเห็นบรรยากาศโดยรอบได้ มุกดารินทร์นั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเขา
“อยากกินอะไรสั่งได้เลยเต็มที่นะ ว่าแต่...เธอกินกาแฟมั้ย? อาเธอร์ถามพร้อมกับยื่นเมนูให้เธอ
มุกดารินทร์เปิดดูเมนูแล้วเลือกอาหารกับเครื่องดื่มที่ชื่นชอบ ขณะที่อาเธอร์สแกนคิวอาร์โค้ดสั่งอาหารให้เธอ ตามที่บอก จากนั้นเขาก็ลุกจากไปอย่างเร่งรีบ
“มุกทานได้แค่ช็อกโกแลตเย็นค่ะ กาแฟทานไม่ได้ใจสั่น” เด็กสาวหันมาตอบ หลังจากที่อาเธอร์ไปเข้าห้องน้ำกลับมา
ระหว่างที่รออาหารและเครื่องดื่ม อาเธอร์ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โทรหาป้าอุ่นเรือนแม่ครัวและพี่อดุลย์พ่อครัว ที่บ้าน
“ป้าอุ่นครับ เย็นนี้ไม่ต้องเตรียมอาหารเย็นนะครับ พอดีผมกับน้องจะทานข้าวข้างนอกกันและอาจจะกลับดึกหน่อย...ฝากบอกพี่อดุลย์ด้วยนะครับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงปกติ แต่แววตาคมกริบเหลือบมองมุกดารินทร์เล็กน้อย ราวกับต้องการดูปฏิกิริยาของเธอ
เด็กสาวที่แอบฟังบทสนทนาอยู่ได้ยินคำว่าน้องก็ถึงกับใจเต้นแรง มันทำให้เธอรู้สึกเหมือนเขายอมรับในสถานะของเธอแล้ว แต่ก็ยังแปลกใจว่าทำไมเขาถึงไม่เรียกเธอว่าน้องสักที หรือแทนตัวเองว่าพี่ก็ได้ เด็กสาวนั่งคิดก็ถึงกับถอนหายใจออกมา จนเขาเอ่ยถาม
“ถอนหายใจทำไม มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า”
“เปล่าค่ะ มุกแค่คิดถึงบ้าน” เด็กสาวบ่ายเบี่ยง
“บ้านเธออยู่ไหนนะ”
“นครสวรรค์ค่ะ”
“อยากกลับบ้านมั้ย”
“กลับไปก็ไม่เจอใครหรอกค่ะ”
“เสียใจด้วยนะเรื่องพ่อกับแม่ ถ้ามีอะไรที่ฉันพอจะช่วยได้ก็บอกมาเลย”
“ขอบคุณค่ะพี่อาเธอร์ คุณป้าช่วยจัดการให้หมดแล้วค่ะ ทั้งเรื่องขายบ้านและทรัพย์สินของพ่อกับแม่”