ตอนที่ 13
“เดี๋ยวเราไปซื้อของกันต่อนะ” อาเธอร์เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบในรถ ดวงตาคมกริบเหลือบมองเธอเล็กน้อย
“ที่ไหนคะ” มุกดารินทร์ถามด้วยความสงสัย
“ก็ที่ห้างไง พอดีแม่สั่งเอาไว้ เพราะว่าท่านไม่มีเวลาพาเธอมาซื้อ”
“แล้วเดี๋ยวเสร็จ เราไปดูหนังกันนะ รอบสองทุ่ม เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงสบายๆ ราวกับเป็นเรื่องปกติ
มุกดารินทร์ถึงกับเบิกตากว้าง
“โห...โปรแกรมแน่นจัง” เธออุทานออกมาโดยไม่รู้ตัว ทั้งตกใจและรู้สึกประหลาดใจกับตารางเวลาที่ไม่คาดคิด
“ทำไม เธอไม่ชอบดูหนังเหรอ” อาเธอร์หันมาเลิกคิ้วมองเธอ ก่อนจะเอ่ยถาม
“ปะ เปล่า ๆ ค่ะ คือมุกเกรงใจพี่” เด็กสาวรีบปฏิเสธ พลางก้มหน้าเล็กน้อยด้วยความรู้สึกผิด อาเธอร์ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าเดิม
“ตั้งแต่เลิกกับแฟนฉันก็ดูหนังคนเดียวมาตลอด” ประโยคนั้นทำให้หัวใจของมุกดารินทร์กระตุกเล็กน้อย
คำพูดของเขาทำเอาหัวใจของเด็กสาวเต้นแรง ความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นภายในใจจนยากจะอธิบาย และด้วยความอยากรู้เรื่องราวของเขา ทำให้มุกดารินทร์พลั้งปากเอ่ยถามออกไป
“พี่อาเธอร์เลิกกับแฟนนานหรือยังคะ” อาเธอร์ไม่ได้ตอบคำถามของเธอ ทำให้มุกดารินทร์รู้สึกว่า...ตัวเองก้าวล่วงเรื่องส่วนตัวของเขามากเกินไป จึงรีบเอ่ยขอโทษทันที
“ขอโทษค่ะ มุกไม่ควรถาม”
อาเธอร์ไม่ได้พูดอะไร ปล่อยให้ความเงียบเข้าครอบงำบรรยากาศภายในรถ จนมุกดารินทร์รู้สึกผิด เธอคิดว่าเขาคงไม่พอใจที่เธอเซ้าซี้เรื่องส่วนตัว แต่แล้วเสียงทุ้มของเขาก็เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ
“ไม่นานหรอก” ในที่สุดอาเธอร์ก็ตอบ เสียงของเขาฟังดูเรียบเฉยจนยากจะคาดเดาความรู้สึก
“เพิ่งเลิกกันเมื่อไม่กี่เดือนมานี้เอง”
มุกดารินทร์พยักหน้ารับช้าๆ เธอรู้สึกโล่งใจที่เขาไม่โกรธ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมคนอย่างอาเธอร์ถึงได้เลิกกับแฟนได้ ชายหนุ่มรูปหล่อ มีฐานะ แถมยังดูเป็นสุภาพบุรุษ แม้บางครั้งจะดูเย็นชาไปบ้าง ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์
“ทำไมถึงเลิกกันเหรอคะ” มุกดารินทร์พลั้งปากถามออกไปอีกครั้ง แต่เธอก็ไม่ได้ตั้งใจ แค่ปากเร็วกว่าความคิดอาเธอร์ชะงักไปเล็กน้อย ดวงตาคมกริบของเขาหันมาสบกับดวงตาของเธอเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะเอ่ยตอบ
“เค้าไปมีคนอื่น แล้วฉันจับได้เราก็เลยเลิกกัน ก็คล้าย ๆ กับคู่รัก คู่อื่น ๆ นั่นแหละ ไม่มีอะไร” น้ำเสียงของเขาฟังดูสบาย แต่แววตาของเขากลับฉายแววเจ็บปวดที่มุกดารินทร์สัมผัสได้
เด็กสาวนิ่งไป ความรู้สึกสงสารจับใจพลันแล่นเข้าเกาะกุมหัวใจดวงน้อยของเธอ อาเธอร์ที่ดูแข็งแกร่งและเย็นชา ก็มีมุมที่เปราะบางเช่นกัน
“ขอโทษนะคะ มุกไม่น่าถามต่อเลย” มุกดารินทร์เอ่ยขอโทษอีกครั้งด้วยน้ำเสียงจริงใจกว่าเดิม
“ไม่เป็นไรหรอก แล้วเธอล่ะ มีแฟนรึยัง” อาเธอร์ถามกลับบ้าง พลางหันมามองมุกดารินทร์ที่นั่งเคียงข้างเขาอยู่ แววตาคมกริบนั้นฉายแววความอยากรู้อยากเห็นอย่างชัดเจน
เธอสะดุ้งเล็กน้อยกับคำถามที่กะทันหัน ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อด้วยความอายที่จะตอบ
“มุกยังไม่เคยมีแฟนค่ะ” เธอตอบเสียงเบาราวกับกระซิบ
อาเธอร์ยิ้มมุมปากเล็กน้อยอย่างพึงพอใจเมื่อได้ยินคำตอบนั้น ความโล่งใจแวบเข้ามาในแววตาของเขา ก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะคลี่กว้างขึ้นอีกนิดโดยที่มุกดารินทร์ไม่ทันสังเกต
“แล้วมีใครมาจีบหรือเปล่า” คำถามของเขาดังขึ้น ก่อนจะตามมาด้วยประโยคเด็ดที่เธอยังไม่ได้เอ่ยอ้างอะไร
“ถ้าตอบว่าไม่มีใครจีบ....แสดงว่าโกหก”
“ก็มีบ้างค่ะ แต่มุกยังไม่ถูกใจใคร” เธอตัดสินใจตอบ
“ดีแล้ว” เขาเอ่ยสั้นๆ ก่อนจะยิ้มที่มุมปาก
พอถึงห้างอาเธอร์ก็พามุกดารินทร์ไปเดินเลือกของใช้ ตามที่ผู้เป็นมารดาได้สั่งเอาไว้ เมื่อมุกดารินทร์ได้ของใช้ที่จำเป็นเพียงพอแล้ว เธอก็รีบบอกเขาด้วยความเกรงใจ
อาเธอร์พาเด็กสาวเดินลึกเข้าไปด้านในโซนชุดนอนของร้านภายในห้าง ดวงตาของมุกดารินทร์เบิกกว้างเมื่อเห็นชุดนอนหลากหลายแบบที่แขวนเรียงรายอยู่เต็มราว โดยเฉพาะชุดนอนผ้าซาตินบางเบาพลิ้วไหวที่ดูหวาบหวิวจนเธอต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก มันทั้งสวยงาม เย้ายวน และเกินกว่าพวกลายการ์ตูนน่ารัก ๆ ที่ใส่มาทั้งชีวิตเสียอีก มุกดารินทร์ไม่กล้าแม้แต่จะหยิบขึ้นมาดูด้วยซ้ำ
อาเธอร์เดินนำหน้าไปอย่างสบายๆ สายตาคมกริบกวาดมองไปทั่ว ก่อนจะหยุดที่ชุดนอนผ้าซาตินสีครีมตัวหนึ่งที่ดูเซ็กซี่ และเย้ายวนเป็นพิเศษ เขาสัมผัสเนื้อผ้าลื่นมือเล็กน้อย ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบมันลงมา แล้วหันทาบกับลำตัวบอบบางของเธอ อย่างถือวิสาสะ