ตอนที่ 15
หลังจากชมภาพยนต์เสร็จมือของอาเธอร์ยังคงจูงมือของมุกดารินทร์เดินไปตลอดทาง หัวใจดวงน้อยของเด็กสาวเต้นระรัวด้วยความรู้สึกที่ปะปนกันไปหมด ทั้งความอบอุ่น และความหวั่นไหวที่เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ
อาเธอร์ไม่ได้พูดอะไร เขาพาเธอไปขึ้นรถและเปิดประตูให้เธอเข้าไปนั่งอย่างเอาใจ ก่อนจะวนไปขึ้นตำแหน่งคนขับ ทิ้งให้ความรู้สึกหลากหลายให้อบอวลอยู่ในรถ ก่อนที่ความรู้สึกจะค่อยๆ ก่อตัวขึ้นระหว่างคนสองคนที่ไม่ใช่พี่น้องโดยสายเลือด แต่กลับมีบางสิ่งบางอย่างที่ดึงดูดเข้าหากันอย่างไม่อาจปฏิเสธได้
หลังจากกลับจากชมภาพยนต์ มุกดารินทร์ก็รีบขึ้นห้องไปอาบน้ำชำระร่างกาย เด็กสาวเดินออกมาจากห้องน้ำใน ชุดนอนลายการ์ตูนตัวโปรด ที่ดูน่ารักสดใส ผมยาวที่เพิ่งสระเสร็จยังคงชื้นเล็กน้อย แต่แล้วเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นก็ทำให้เธอต้องชะงัก
“มุก...อยู่ในห้องหรือเปล่า?” เสียงทุ้มต่ำของอาเธอร์ดังมาจากด้านนอกห้อง มุกดารินทร์ใจเต้นรัว เมื่อคิดว่าเขาต้องมาชวนเธอไปที่ห้องของเขา
บานประตูเลื่อนเปิดออก เผยให้เห็นร่างสูงโปร่งของอาเธอร์ที่ยืนอยู่ตรงหน้า เขาสวมเพียงเสื้อยืดสีขาวเนื้อนุ่มและกางเกงขาสั้นสีเข้ม เผยให้เห็นมัดกล้ามที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อยืด ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยดูคมคายและเย็นชา บัดนี้กลับอ่อนโยนลงอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาคมกริบที่เคยดูดุดัน ในยามนี้กลับทอประกายอบอุ่น ขณะมองมาที่เธออย่างอ่อนโยน
“เพิ่งอาบน้ำเสร็จเหรอ” น้ำเสียงของเขาฟังดูนุ่มนวลและเป็นห่วงเป็นใยอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่มีความกระด้างหรือเย็นชาแบบที่เธอเคยสัมผัสในวันแรกที่เจอกันเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่นี้มุกดารินทร์ก็รู้สึกพอใจอย่างประหลาด หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งความอบอุ่น ความสบายใจ และความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ ภายใต้หัวใจของเธอ
“ค่ะ”
“ไม่เห็นไปเอาหนังสือที่ห้องพี่เลย?” อาเธอร์ถามพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย สายตาคมกริบกวาดมองชุดนอนลายการ์ตูนของเธอ มุกดารินทร์รู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า เธอรีบก้มหน้าลงเล็กน้อย
“มุกลืมค่ะ”
“ลองใส่ชุดนอนที่พี่ซื้อให้หรือยัง?” อาเธอร์ถาม เสียงเข้มเล็กน้อย แต่แววตากลับแฝงความไม่เข้าใจ
“คือ...มุกรอให้แม่บ้านเอาไปซักก่อนค่ะ” มุกดารินทร์ตอบเสียงเบา
อาเธอร์พยักหน้าช้าๆ ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องของเธอโดยไม่รอคำเชิญ มุกดารินทร์ใจเต้นแรง ก่อนจะปล่อยให้เขาเดินตรงไปยังโต๊ะทำงานเล็กๆ แล้ววางหนังสือที่เตรียมมาให้เธอที่โต๊ะ
“แล้วได้ลองน้ำหอมที่พี่ซื้อให้หรือเปล่า?” อาเธอร์ถามพลางก้มลงมองขวดน้ำหอมที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งของเธอ มุกดารินทร์เงยหน้าขึ้นมองเขา เธอนึกถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เธอแอบฉีดเมื่อสักครู่
“แล้วพี่ได้กลิ่นมั้ยคะ?” เธอถามกลับด้วยรอยยิ้มซุกซนเล็กน้อย แอบหวังว่าเขาจะได้กลิ่นที่เธอตั้งใจฉีด
อาเธอร์ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะแกล้งทำเป็นดมจมูกฟุดฟิดอย่างจงใจ แล้วส่ายหน้า
“ไม่เห็นจะได้กลิ่นเลยนี่...” เขาพูดด้วยน้ำเสียงยียวน
“แต่มุกฉีดแล้วนะคะ!” มุกดารินทร์โพล่งออกมาอย่างลืมตัว เธอไม่ยอมให้เขากล่าวหาได้ง่าย ๆ และอยากให้เขารู้ว่า...เธอเห็นคุณค่าของมัน
“จริงๆ นะคะ!...ถ้าพี่อาเธอร์ไม่เชื่อก็ลองดมดูสิคะ”
ด้วยความที่อยากให้เขาเชื่อจนลืมความรักนวลสงวนตัวไปชั่วขณะ มุกดารินทร์ขยับตัวเข้าไปใกล้อาเธอร์ ก่อนจะยื่นลำคอระหงไปให้เขาดอมดม ราวกับจะพิสูจน์ว่าเธอนั้นได้ฉีดน้ำหอมที่เขาซื้อให้แล้วจริงๆ
กลิ่นหอมอ่อนๆ ของน้ำหอมที่ผสมกับกลิ่นกายสะอาดบริสุทธิ์ของเธอลอยแตะจมูกของอาเธอร์ตั้งแต่ในตอกแรกแล้ว แต่ที่เขาแกล้งไม่เชื่อเพราะอยากใกล้ชิดเธอ
อาเธอร์ไม่รอช้ารีบทำทีแกล้งก้มหน้าลงมาเพื่อจะใกล้ชิดเด็กสาวอย่างที่ตั้งใจ แต่ไม่ทันระวังว่ามุกดารินทร์จะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ทันใดนั้นริมฝีปากหยักได้รูปของเขาก็สัมผัสกับริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อของเธออย่างไม่ตั้งใจ เพียงเสี้ยววินาที...แต่ก็มากพอที่จะทำให้โลกของทั้งสองหยุดหมุน