ต อ น ที่ 2
ข้อตกลง
โรแซนรวบรวมเรี่ยวแรงที่มีอยู่น้อยนิดพยายามผลักร่างหนาของมาเฟียหนุ่มให้ออกห่างอย่างทุรนทุราย ความป่าเถื่อนที่เธอได้รับจากเขายังฝังแน่นอยู่ในความทรงจำและความรู้สึกของเธอได้ดี
พรึ่บ!
ในที่สุดวัลดัสก็ยอมผละตัวออกจากร่างบางของเลขาสาว ดวงตาดุดันเต็มไปด้วยความหงุดหงิดทำไมต้องเป็นเลขาเขาด้วย ทำไมไม่ใช่ผู้หญิงคนอื่น
“บอสยังไม่สร่างเมาเหรอคะ” โรแซนถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น การกระทำของเขาทำให้เธอรู้สึกไม่ไว้ใจเท่าไหร่นัก
“คิดว่าไงล่ะ” วัลดัสตอบเสียงเรียบ พร้อมปรายตามองยอดปทุมถันที่เด่นชัดอยู่บนชุดนอนซีทรูของหญิงสาว ที่บ่งบอกว่าเธอไม่ได้สวมใส่ชุดชั้นในปกปิดเอาไว้
สายตาที่มองมาอย่างเปิดเผยของวัลดัสทำให้โรแซนกระชับเสื้อคลุมของตัวเองอีกครั้ง เธอไม่กล้าพูดอะไรออกไปตอนนี้ เพราะการทำงานกับเขามานาน ได้รู้ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังของเขาทำให้เธอพอจะรู้ว่านิสัยของเขาเป็นคนยังไง
ป่าเถื่อน เยือกเย็น ไร้ซึ่งความเมตตาและเอาแต่ใจเป็นที่สุด นั่นคือเขาที่เธอรู้จัก แต่เพราะรายได้จากการเป็นเลขาของเขาสูงกว่าการเป็นเลขาที่อื่นหลายเท่า ทำให้เธอเลือกที่จะเมินเฉยนิสัยพวกนั้นและทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
“เมื่อคืนฉันป้องกันรึเปล่า” วัลดัสถามเสียงเรียบ
“ไม่ค่ะ แต่ฉันป้องกันตัวเองเรียบร้อยแล้วค่ะ” โรแซนตอบกลับด้วยน้ำเสียงปกติ
“เธอต้องการให้ฉันรับผิดชอบยังไงกับสิ่งที่เกิดขึ้น” คำถามของวัลดัสไม่ได้ทำให้โรแซนแปลกใจเท่าไหร่นัก เพราะเขามักเป็นพวกชอบใช้เงินแก้ปัญหา คำขอโทษจากเขาจึงเป็นสิ่งแรกที่เธอตัดทิ้งออกไป แต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่เธอไม่ได้คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาของเธอ เธอไม่มีอะไรจะให้เขาต้องรับผิดชอบ เธอไม่ได้ถือสาอะไรกับเรื่องพรหมจรรย์พวกนั้นอยู่แล้ว
“ไม่มีค่ะ แซนเข้าใจว่ามันเป็นอุบัติเหตุค่ะ ถ้าบอสมีสติคงไม่ทำแบบนั้น”
“ถ้าไม่ได้โกรธหรือไม่ได้อยากให้ฉันรับผิดชอบแล้วเธอลางานทำไม”
“แซนแค่รู้สึกไม่สบายค่ะ อยากพักผ่อนสักหน่อย อีกอย่างช่วงนี้บอสไม่มีงานสำคัญ แซนจึงมองว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้พักผ่อนค่ะ”
“ป่วยเพราะฉันเหรอ”
“ค่ะ” โรแซนตอบเสียงเรียบ โดยไม่หลบสายตาของมาเฟียหนุ่ม ทำให้เขาได้สังเกตเห็นใบหน้าที่ไร้เครื่องสำอางของเลขาสาวเป็นครั้งแรก ถึงใบหน้าจะดูซีดเซียว แต่ผิวของเธอก็ยังดูสุขภาพดี ริมฝีปากอวบอิ่มน่าจูบนั้น กลิ่นหอมอ่อนๆ เฉพาะตัวที่ไม่ได้ถูกปรุงแต่งจากน้ำหอมราคาแพงยิ่งทำให้เธอดูน่าหลงใหลมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า
“ฉันให้เวลาเธอสามวันรีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้วกลับไปทำงาน” วัลดัสออกคำสั่ง ทำให้โรแซนตอบตกลงอย่างไม่มีทางเลือก
“ค่ะ งั้นวันนี้รบกวนบอสกลับไปก่อนได้ไหมคะ” โรแซนเอ่ยปากไล่มาเฟียหนุ่มเป็นนัยอีกครั้ง ทำให้วัลดัสยอมกลับออกไป
ถึงแม้เขาจะสะดุดตากับโรแซนตั้งแต่แรกเห็นวันที่มาสัมภาษณ์งาน แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะเอาเธอมาเป็นคู่หลับนอน เพราะมันจะทำให้งานเสียระบบ ที่สำคัญเขาเสียดายความสามารถของเธอ ผู้หญิงน้อยคนที่จะสามารถจัดการปัญหาทุกอย่างให้เรียบร้อยได้โดยไม่ต้องถึงมือเขา
โรแซนมองแผ่นหลังกว้างของมาเฟียหนุ่มที่เดินหายลับออกจากห้องพักของเธอไปด้วยความโล่งใจ เธอลอบถอนหายใจออกมาทันทีที่บานประตูปิดสนิทลง ก่อนจะเดินลากเท้าไปทิ้งตัวนอนลงบนโซฟาอย่างหมดแรง ขืนเขาอยู่ต่อนานกว่านี้เธอคงได้เป็นลมตรงหน้าเขาไปแล้ว
หญิงสาวเดินกลับไปนอนพักบนเตียงนอนสีชมพูอ่อนของตัวเองหลังจากแน่ใจว่าวัลดัสได้เดินกลับออกจากห้องของเธอไปแล้วด้วยความอ่อนเพลีย เพราะพิษไข้ที่ดูเหมือนจะหนักขึ้นกว่าเดิม ทั้งๆ ที่เธอก็ได้ทานยาดักไปก่อนแล้วโรแซนเหลือบมองดูนาฬิกาที่บ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบเก้าโมงเช้าแล้ว ก่อนจะหลับตาลงนอนอีกครั้ง
ทางด้านของวัลดัส
วัลดัสเดินออกมาจากห้องของเลขาสาวด้วยความรู้สึกหงุดหงิดในใจไม่น้อย อารมณ์กระสันในกายของเขาพลุ่งพล่านขึ้นทันทีที่ได้สัมผัสกับความหอมหวานจากริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ แต่ก็ต้องข่มอารมณ์ไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองทำผิดกฎของตัวเองอีกเป็นครั้งที่สอง
“เตรียมผู้หญิงมาให้กูหน่อย” วัลดัสหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูมากรอกสายหาบารอนด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทว่าในใจกลับรู้สึกร้อนรุ่มไม่หาย
วัลดัสขับรถกลับมายังบริษัทของตัวเองในเวลาเกือบสิบเอ็ดโมงเช้า เขามองบารอนที่นั่งแทนที่โรแซนหน้าห้องทำงานด้วยความรู้สึกขัดหูขัดตาแบบบอกไม่ถูก
“ที่ตรงนี้ไม่เหมาะกับมึงนะ” วัลดัสบอกบารอนด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์ จนบารอนรีบลุกจากที่นั่งของโรแซนด้วยความงุนงง
“นายว่าอะไรนะครับ”
“เตรียมผู้หญิงมาให้กูรึยัง” วัลดัสเลือกที่จะเมินเฉยต่อคำถามของบารอน เพราะเขาเพียงแค่ต้องการระบายความในใจออกมาเท่านั้น
“รออยู่ด้านในแล้วครับ” บารอนบอกเพราะบริษัทนี้เป็นบริษัทขาวสะอาดที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นฉากบังหน้า ทำให้ไม่มีความลับอะไรในบริษัทแห่งนี้ วัลดัสจึงชอบที่จะให้ผู้หญิงมาหาเขาที่นี่
วัลดัสเดินตรงเข้าไปภายในห้องทำงานทันทีก่อนเห็นหญิงสาวหน้าตาสะสวยนั่งรออยู่บนโซฟากลางห้อง เธอโปรยยิ้มให้เขาด้วยท่าทางยั่วยวน ทว่าวัลดัสกลับมีเพียงแววตาดุดันที่มองเธอเท่านั้น
เขาเดินตรงไปกระชากหญิงสาวมาบำเรอกามด้วยความอัดอั้น หญิงสาวที่ทำงานด้านนี้เป็นหลัก พยายามเอาใจปรนเปรอมาเฟียหนุ่มอย่างถึงใจ แบบที่เธอไม่เคยทำที่ไหนมาก่อน เพราะเขารุนแรงจนเธอต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากับจังหวะรักที่หนักหน่วงของเขา
ปึก! ปึก! ปึก!
สะโพกสอบถาโถมแรงกายเข้าออกอย่างหนักหน่วง การกระทำป่าเถื่อนของเขาส่งผลให้ช่องทางรักของหญิงสาวเริ่มแสบและฝืดเคืองจนเธอเริ่มทนไม่ไหวดิ้นทุรนทุรายอยู่ใต้ร่างของเขา
“ระ...แรงเกินไปแล้ว ฉันเจ็บ!” หญิงสาวพยายามดิ้นรนเอาตัวรอด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้มีท่าทีพึงพอใจเลยแม้แต่น้อย
วัลดัสไม่ได้สนใจถ้อยคำวิงวอนของหญิงสาวใต้ร่างเลย เขาระบายอารมณ์กระสันผ่านร่องสวาทของเธอหวังให้ดับความรู้สึกกระหายในใจของเขา ทว่าไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนความรู้สึกมันก็ไม่เหมือนกับเมื่อคืนนี้เลยแม้แต่น้อย
พรึ่บ!
วัลดัสเหวี่ยงร่างบางของหญิงสาวลงไปกองกับพื้นด้วยความหงุดหงิดที่เธอไม่สามารถดับอารมณ์กระสันของเขาได้
“ออกไป” วัลดัสหันไปบอกหญิงสาวเสียงแข็ง ก่อนจะเดินไปต่อสายหาบารอนหน้าห้องให้หาผู้หญิงคนใหม่มาให้เขาแทน
วัลดัสระบายอารมณ์กระสันลงกับผู้หญิงที่ถูกหามาไม่ต่ำกว่าสามคนภายในวันเดียว แต่ก็ไม่สามารถดับความรู้สึกกระสันที่ค้างคาในใจเขาได้และนั่นมันยิ่งทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า
“แม่งเอ๊ย!” วัลดัสสบถออกมาอย่างหัวเสีย เมื่อหญิงสาวรายสุดท้ายได้สลบไปก่อนที่เขาจะปลดปล่อยออกมาใส่ถุงยางอนามัยเสียอีก
วัลดัสนำเอาแก่นกายใหญ่เก็บเข้าที่ ก่อนจะคว้ากุญแจรถเดินออกจากห้องไปด้วยความหงุดหงิด
“นายจะไปไหนครับ”
“จัดการข้างในให้เรียบร้อย”
“นาย...”
“กูจะไปไหนต้องรายงานมึงด้วยรึไง” วัลดัสปรายตามองบารอนด้วยสายตาไม่ชอบใจ ก่อนจะเดินผ่านโต๊ะทำงานประจำตำแหน่งโรแซนไป
บารอนมองตามแผ่นหลังกว้างของเจ้านายด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะเดินเข้าไปดูในห้องทำงานของเขา เขายืนมองร่างของหญิงสาวที่นอนสลบอยู่ด้วยความเวทนา อีกทั้งยังมีถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วเกลื่อนพื้นไม่ต่ำกว่าหกชิ้นด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ อีกทั้งยังสงสัยในใจว่าอะไรทำให้วัลดัสต้องระบายอารมณ์กามมากมายขนาดนี้