สองสัปดาห์ต่อมา
รามิลกำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ตั้งแต่กลับมาจากเมืองไทยเขาก็บินไปทำงานอีกหลายที่ก่อนจะกลับมายังบริษัทแม่ที่ควบคุมกิจการทุกอย่าง
ชายหนุ่มเป็นลูกครึ่งไทย-รัสเซียซึ่งเติบโตมาในครอบครัวเล็กๆ ที่มีบิดามารดาเป็นอาจารย์แต่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตขณะเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ จากนั้นเขาก็ทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองมาตลอด ชายหนุ่มทำงานทุกอย่างที่มันได้เงินจนมีทุกอย่างในทุกวันนี้ได้ก็เพราะความขยันของตนเอง
รามิลมีธุรกิจทั้งในประเทศไทยยุโรปและอีกหลายประเทศทั่วโลก เขาบินไปมาอยู่ตลอดเวลาทำให้ไม่ค่อยมีชีวิตส่วนตัวเท่าไหร่ ที่ผ่านมาชายหนุ่มมีแฟนอยู่หนึ่งแต่เธอก็ทนกับความบ้างานของเขาไม่ไหวสุดท้ายเขาก็อยู่ตามลำพังคนเดียวและไม่คิดจะมีชีวิตคู่
เขาถือว่านั่นมันคือภาระความรับผิดชอบซึ่งเขาทำมันได้ไม่ดีเท่ากับการทำงาน
ขณะที่เขากำลังนั่งตรวจเอกสารแฟ้มสุดท้ายเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นก่อนที่แม็กซิมจะเปิดเข้ามาพร้อมกับยิ้มให้กับคนที่เป็นทั้งเจ้านายและเพื่อนๆ
“มีอะไรแม็กซิม ฉันทำงานใกล้จะเสร็จ” เขาเงยหน้ามองลูกน้องเล็กน้อยแล้วก็ก้มทำงานต่อ
“เมื่อกี้คุณเอมี่โทรมาครับ”
“เอมี่ไหน”
“ผู้จัดการของคุณมารีน่าไงครับ”
“เธอจะโทรมาทำไมอีกล่ะ”
“เธออยากจะให้มารีน่าเข้ามาขอโทษคุณอีกครั้งครับ”
“ฉันไม่อยากจะยุ่งกับสองคนนั้นอีกแล้ว”
“แต่เธอยืนยันว่าจะให้คุณมารีน่าเข้ามาพบคุณให้ได้ ตอนนี้เธอมาเที่ยวรัสเซียพอดี”
“นายคิดว่าเธอมาเที่ยวจริงๆ เหรอแม็กซิม ฉันว่าเธอตั้งใจจะมาหาฉันนั่นแหละ แต่ฉันไม่เคยเอาคนที่เป็นลูกน้องหรือคนที่ทำงานด้วยมาเป็นคู่นอนหรอกนะ อีกอย่างสองคนนี้ก็ดูไว้ใจไม่ได้ถ้าหมดสัญญาพรีเซ็นเตอร์คอนโดครั้งนี้คงต้องเปลี่ยนคนใหม่”
“แต่คุณรามิลจะไม่ให้โอกาสเธอเหรอครับ เธอสวยหุ่นดีสเปกคุณเลยนะ”
“ฉันรู้ว่าตรงสเปกฉันแต่ตอนนี้ฉันไม่นึกอยากจะนอนกับใครเลย”
“คุณรามิลดูผิดปกติไปนะครับ”
“นายหมายความว่ายังไงแม็กซิม”
“ก็ตั้งแต่คุณกลับมาจากเมืองไทยคุณยังไม่เคยเรียกผู้หญิงคนไหนมานอนด้วยเลย พวกเธอเหล่านั้นพยายามติดต่อมาหาผมตลอดตั้งแต่รู้ว่าคุณกลับมาที่นี่”
“ใครมันจะบ้านอนกับผู้หญิงได้ตลอดเวลากันล่ะแม็กซิม”
“ผมรู้แต่ครั้งนี้คุณดูแปลกไปจริงๆ นะครับมีอะไรหรือเปล่า” เขาถามแล้วมองหน้าเจ้านายอย่างรู้ทัน
“ไม่มีอะไรหรอกน่า”
“ผมรู้นะว่าคุณยังติดใจผู้หญิงคนนั้นอยู่”
“นายนี่จะรู้จักฉันมากเกินไปแล้วนะ”
“ก็ผมอยู่กับคุณมาตั้งแต่อายุยี่สิบครับนี่มันก็สิบกว่าปีแล้วคงไม่มีใครรู้ใจคุณเท่าผมหรอก”
“นั่นสินะหรือสุดท้ายแล้วฉันกับนายจะแต่งงานกันดีล่ะ ในเมื่อนายคิดว่าเป็นคนที่รู้ใจฉันมากที่สุด”
“ไม่ดีกว่าผมไม่อยากฟ้าผ่า”
“พูดอะไรแบบนั้นแม็กซิมสมัยนี้ผู้ชายกับผู้ชายเขาแต่งงานอยู่ด้วยกันมีตั้งเยอะแยะ”
“ใช่ผมรู้ว่ามีเยอะแต่ผมไม่เคยคิดกับคุณแบบนั้นนะครับ อีกอย่างผมก็มีแฟนแล้ว”
“นายพูดถึงเรื่องแฟนมาก็ดีเลยช่วงนี้ฉันมีเวลาพักสองอาทิตย์นายไม่ต้องตามติดฉันก็ได้นะ ฉันให้นายใช้เวลากับแฟน”
“แล้วคุณรามิลจะไปไหนให้ผมเดาไหม”
“ก็ลองเดามาสิ”
“ผมว่าคุณต้องกลับเมืองไทยเพื่อไปหาผู้หญิงคนนั้นอีกแน่นอน”
“ถ้าคิดว่าเดาใจฉันถูกก็ไปจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย”
“แล้วคุณจะให้เธอไปเจอที่โรงแรมอย่างเดิมหรือเปล่าครับ”
“อือ”
“ทำไมคุณไม่ไปพักบนเกาะส่วนตัวล่ะครับ ช่วงนี้ที่นั่นบรรยากาศดีมากๆ”
“เอาไว้ฉันจะลองคิดเรื่องนี้ดูอีกทีแล้วกันนะ ยังไงนายก็ติดต่อพศินให้ฉันด้วย”
“ได้ครับ” แม็กซิมออกจากห้องของเจ้านายจากนั้นโทรศัพท์หาพศินเพื่อติดต่อผู้หญิงคนนั้นให้กับเจ้านายซึ่งเขาจะบินไปเมืองไทยในอีกสี่วันข้างหน้า
“เดี๋ยวฉันติดต่อกลับไปนะแม็กซิม” พศินบอกกับมือขวาของเจ้านายจากนั้นเขาก็โทรศัพท์ไปยังเอเย่นที่เรียกใช้บริการเป็นประจำ
“สวัสดีค่ะคุณพศินมีอะไรให้เชอร์รี่รับใช้คะ”
“ผมอยากติดต่อผู้หญิงคนนั้นให้เจ้านายครับ”
“เออ....คือ”
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคุณเชอร์รี่”
“เชอร์รี่ก็กำลังจะถามคุณพศินอยู่พอดีเลยค่ะแต่ไม่อยากจะโทรไปรบกวนในเมื่อคุณพศินโทรมาเองแบบนี้ก็ดีเลยค่ะ”
“มีอะไรเหรอครับ”
“คืนนั้นเชอร์รี่ส่งผู้หญิงไปให้เจ้านายของคุณแล้ว แต่เธอบอกว่าคนที่เธอนอนด้วยไม่ใช่เจ้านายของคุณ
“เธอรู้ได้ยังไงว่าไม่ใช่เจ้านายของผม”
“ก็ผู้ชายที่เธอไปนอนด้วยคืนนั้นเป็นคนไทยน่ะ แล้วก็ทั้งอ้วนทั้งลงพุงเธอกลับมาบ่นจนเชอร์รี่หูชาเลยว่าส่งเธอไปให้ใครก็ไม่รู้ ดีว่าเงินหนาหน่อยเธอก็เลยยอม”
“จะเป็นไปได้ยังไงครับคืนนั้นผู้หญิงที่คุณเชอร์รี่ส่งมาก็นอนกับเจ้านายของผมนะ”
“แต่เชอร์รี่ว่าน่าจะมีการเข้าใจผิดอะไรกันแน่เลยเพราะผู้หญิงของเชอร์รี่ไม่ได้บอกแบบนั้นนะ จะมีผู้หญิงที่ไหนที่ได้นอนกับเจ้านายของคุณแล้วกลับมาบ่นบ้างล่ะ”
“ครับผมว่าน่าจะมีการเข้าใจผิด เอาไว้ผมจะโทรหาคุณเชอร์รี่อีกทีนะคะ” พศินวางสายจากเชอร์รี่แล้วก็ขมวดคิ้ว เพราะคืนนั้นลูกน้องของเขาก็บอกว่ามีผู้หญิงไปนอนกับเจ้านายจริงๆ
พศินโทรศัพท์เรียกให้ลูกน้องมาเจอที่ห้องทำงานเพราะอยากจะถามว่าคืนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“มีอะไรครับคุณพศิน”
“คืนนั้นผู้หญิงที่ไปนอนกับเจ้านายคือใคร”
“ก็คนที่เอเย่นต์ส่งมาไงครับ แต่แปลกนะเธอแต่งตัวมาด้วยชุดนักศึกษาสงสัยเอเย่นอยากให้เจ้านายเปลี่ยนบรรยากาศ”
“แล้วนายได้ถามหรือเปล่าว่ามาหาใคร”
“ผมไม่ได้ถามครับเพราะปกติชั้นนั้นก็ไม่มีคนอื่นพักอยู่นะ”
“แน่ใจได้ยังไงว่าคนที่นอนกับเจ้านายเป็นคนที่เอเย่นส่งมา เพราะถ้าไม่ใช่คนเอเย่นส่งมาเธอจะเดินขึ้นมาทำไมล่ะครับ อีกอย่างยังอยู่ในชุดนักศึกษาด้วย แต่ผมก็แปลกใจอยู่นิดหน่อยเพราะถ้ามารับงานก็ไม่น่าจะแต่งตัวแบบนี้หรือถ้าจะแต่งก็น่าจะใส่เสื้อคลุมสักหน่อย”
“แปลกใจอีกแล้วเหรอ”
“ก็คนที่เขาส่งมาตัวเล็กผิวขาวดูเด็กๆ ไม่ใช่หุ่นตูมๆ เหมือนคนก่อนของเจ้านาย”
“นายช่วยไปเช็กหน่อยว่าคืนนั้นมีคนเข้าพักชั้นนี้ไหม ดูกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าห้องด้วยนะว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
“ได้ครับ ขอเวลาครึ่งชั่วโมงเดี๋ยวจะติดต่อกลับมานะครับ”
ลูกน้องของเขาหายไปพักใหญ่จากนั้นเดินเข้ามาบอกว่าคืนนั้นคนที่จองห้องชั้นนี้มีอีกคือเสี่ยสมานและก็มีผู้หญิงสองคนขึ้นมาบนนี้ คนหนึ่งใส่ชุดนักศึกษาและเข้าไปในห้องของรามิลส่วนอีกคนสวมชุดเกาะอกสีแดงเพลิงเข้าไปอีกห้องหนึ่ง
“นายไปสืบมานะว่าคนที่จองห้องนั้นเป็นใครชื่ออะไรแล้วนัดใครมาเจอหรือเปล่า”
“ได้ครับผมจะจัดการเรื่องนี้แล้วจะรีบรายงานคุณพศินทันที”