ตอนที่ 2
จากนั้นบทสนทนาของทั้งคู่ก็ได้เริ่มต้นขึ้น ไทรีบขอยืมนั่งเก้าอี้ข้าง ๆ ที่ว่างอยู่เพื่อคุยกับเธอ แต่ทั้งคู่ก็สนทนาทั่วไปเรื่องสัพเพเหระ แต่แววตาของไทนั้นเต็มไปด้วยความสนใจอย่างเปิดเผย ในขณะที่ชมพู่ก็ตอบกลับอย่างสุภาพ แพรไหมที่นั่งโต๊ะเดียวกันมองสถานการณ์อยู่ห่าง ๆ กับมิ้นท์
“ดูพี่ไทเนี่ย...ท่าทางเค้าจะสนใจยัยชมเพื่อนของเราจริง ๆ ว่ะมิ้นท์” มิ้นท์พยักหน้าเห็นด้วยกับแพรไหม
“แพร!..เดี๋ยวผมขอไปรับโทรศัพท์ด้านนอกสักครู่นะ ตามสบายนะทุกคน” กรกฎเดินมากระซิบบอกภรรยา ก่อนจะบอกกับเพื่อนๆ ของเธอที่นั่งดื่มกันอย่างสนุกสนาน พอเห็นสามีหนุ่มออกไปคุยโทรศัพท์นานจนผิดสังเกต แพรไหมจึงเดินมาดูด้านนอก โดยมีมิ้นท์แอบตามเพื่อนมาด้วย
“นี่ยัยชม คงจะรู้ตัวแล้วสินะ ว่าพี่ไทเค้าเข้ามาจีบน่ะ” แพรไหมหยุดยืนคุยกระซิบกระซาบกับมิ้นท์ บริเวณมุมหนึ่งของงานเลี้ยง สายตาคู่สวยก็พลางชำเลืองมองไปยังกลุ่มเพื่อนของสามีที่กำลังสังสรรค์กันอย่างสนุกสนาน
“แพรจะไปห้องน้ำเหรอ?” มิ้นท์ถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนสาวออกมายืนด้านนอกห้องจัดเลี้ยง
“เปล่า… แต่พี่กรนะสิ หายออกมานานตั้งแล้ว” แพรไหมตอบด้วยน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความกังวลเล็กน้อย
“คงไม่มีอะไรหรอกมั้งแพร พี่กรออกจะ…” มิ้นท์พยายามพูดให้เพื่อนสบายใจ พลางชะเง้อคอมองไปยังกลุ่มเพื่อนของกรกฎอีกแรง
ทันใดนั้นเอง เงาร่างสูงของกรกฎก็ทาบทับลงด้านหลังสองสาว ก่อนที่เสียงทุ้มนุ่มจะเอ่ยทักขึ้นจนทั้งคู่สะดุ้งโหยง
“แอบมานินทาอะไรกันอยู่ตรงนี้จ๊ะ… สาว ๆ”
“ว้าย!” มิ้นท์ร้องเสียงหลง ตัวสะดุ้งเฮือก หันขวับไปมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง หัวใจเต้นระรัวราวกับกลองศึก เธอเอามือทาบอกด้วยความตกใจ ใบหน้าขาวซีดเผือด
แพรไหมเองก็ตกใจไม่น้อย เธออุทานออกมาเบา ๆ
“พี่กร! มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะเนี่ย ตกใจหมดเลย แล้วคุยโทรศัพท์เสร็จแล้วทำไมไม่เข้าไป” มือเรียวสวยยกขึ้นมาลูบอกด้วยอาการใจหายใจคว่ำ ขณะพลางบ่นสามี ใบหน้าสวยหวานปรากฏร่องรอยของความตกใจอย่างชัดเจน
“ก็นินทาเรื่องเพื่อนของคุณกรนั่นแหละค่ะ” มิ้นท์หัวไว รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติและโกหกช่วยเพื่อนอย่างรวดเร็ว
“แต่แพรบอกเพื่อนยัยชมเอาไว้แล้วล่ะ ถ้ายัยชมยอมคบหากับพี่ไทเมื่อไหร่ เธอจะคอยรายงานความเคลื่อนไหวเวลาที่พี่ไทชวนคุณไปไหนมาไหนทุกครั้ง คราวนี้คุณหมดสิทธิ์เที่ยวแน่คุณกร!” ในแววตาของแพรไหมมีความเจ้าเล่ห์เล็ก ๆ แฝงอยู่ เธอมองสามีด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก กรกฎแอบถอนหายใจออกมาอย่างเงียบ ๆ กับแผนการอันแยบยลของภรรยา
“โถ่ววว!!! แพรจ๋า นี่เราแต่งงานกันมาตั้งเจ็ดปีแล้วนะ คุณยังไม่ไว้ใจผมอีกเหรอ” กรกฎโอดครวญ
“หึ!...เสือมันก็ยังเป็นเสืออยู่วันยังค่ำนั่นแหละค่ะ” แพรไหมประชดสามี
“แพร!..คุณจะกลับเข้าไปหรือยัง” กรกฎถามภรรยา
“คุณกลับเข้าไปก่อนเถอะค่ะ แพรจะไปห้องน้ำกับมิ้นท์”
“โอเค งั้นคุณรีบตามมานะ”
พอกรกฏเดินจากไป แพรไหมก็เม้าท์กับเพื่อนของเธอต่อ
“เพราะอย่างนี้ไง ฉันถึงไม่กล้ามีลูกกับเค้า”
“แหม่!..แต่มันก็ตั้ง 7 ปีแล้วนะแพร มิ้นว่าคุณกรเค้าคงเลิกเจ้าชู้ไปแล้วมั่ง”
ฝั่งด้านในห้องจัดเลี้ยงที่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยและเสียงดนตรีคลอเบา ๆ ไทพยายามชักชวนชมพู่สนทนาถึงเรื่องราวต่าง ๆ รวมไปถึงยามว่างของเธอ ชมพู่ตอบคำถามทุกอย่างด้วยความตรงไปตรงมา ชัดเจนในทุกถ้อยคำ แต่กระนั้น น้ำเสียงและท่าทีของเธอก็แฝงไว้ซึ่งความสุภาพและรักษาระยะห่างอย่างตั้งใจ ทำให้ไทไม่สามารถหาช่องทางที่จะสานสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดไปกว่าบทสนทนาทั่วไปได้เลย
“แล้วเวลาว่าง ๆ คุณชมพูชอบทำกิจกรรมอะไรเหรอครับ?” ไทถามด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม ชมพู่ตอบด้วยรอยยิ้มบาง
“ก็แล้วแต่ค่ะ บางทีก็อ่านหนังสือ ดูหนัง ไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ บ้าง”
“พี่ไท..ลองชวนชมพู่เค้าไปเที่ยวสิ” ดินรีบส่งข้อความทางไลน์มาบอกเพื่อนรุ่นพี่เพราะเขาเป็นปรมาจารย์ด้านจีบสาวรองจากกรกฎที่ถอดเขี้ยวเล็บไปแล้ว ไทได้อ่านข้อความจึงรีบคุยต่อทันที
“ถ้าคุณชมพู่จะลองเปลี่ยนจากเที่ยวกับเพื่อน ๆ แล้วไปเที่ยวกับผมบ้าง พอจะเป็นไปได้มั้ยครับ” ชมพู่ยิ้มแห้ง ๆ ก่อนจะตอบอย่างสุภาพแบบไม่ให้หนุ่มรุ่นพี่คนนี้เสียใจ
“ขอบคุณค่ะ แต่ช่วงนี้ชมยุ่ง ๆ อยู่เลย”
ไทเริ่มรู้สึกถึงความไม่ราบรื่นในการจีบครั้งนี้ แววตาที่เคยเป็นประกายเริ่มหม่นลงเล็กน้อย จากนั้นกรกฎเดินเข้ามาสมทบวงสนทนาที่โต๊ะของภรรยา
“คุยอะไรกันอยู่เหรอครับ?” ไทรีบปรับสีหน้า
“คุยกันเรื่องทั่วไปน่ะกร คุณชมพู่เนี่ยเค้าเป็นคนน่ารักคุยสนุก” ชมพู่ยิ้มให้กรกฎ