พ่อของวิน

1110 Words
"วิวครับ เขาไปแล้ว" เด็กน้อยเดินเข้ามาในมุมใต้โต๊ะห้องครัวที่ผู้เป็นแม่แอบมาหลบร้องไห้อยู่ พอเจ้าหล่อนรู้ว่าตัวเองพลาดแล้วที่แอบได้ไม่เนียนก็ถึงกับรีบปาดน้ำตากลัวลูกเห็น "อึก ทำไมวินยังไม่นอนอีกครับมันดึกมากแล้วนะ" เธอบ่นลูกเสียงสั่น "วินไม่หลับหรอกครับถ้าวิวเป็นแบบนี้" มือน้อยประคองใบหน้าผู้เป็นแม่ให้หันมาสบตากับเขา ใครบอกว่าวินไม่รู้เรื่องอะไร วินฉลาดและเก่งมากจริง ๆ จนเธอไม่สามารถโกหกวินได้เลย เธอมักจะแพ้ทางให้ลูกชายคนนี้เสมอ ตอนนี้ก็เช่นกัน... "วิวขอโทษนะ อึก ขอโทษที่ทำให้วินเป็นห่วง" เธอรู้สึกผิดจริง ๆ ทั้งโมโหตัวเองที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองต่อหน้าลูกได้ หากเป็นเรื่องอื่นคงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอเลย แต่เพราะเป็นเรื่องเขาเธอถึงได้อ่อนไหวขนาดนี้ แม้จะพยายามเข้มแข็งแค่ไหนแต่เธอก็ยังได้แค่พยายามเท่านั้น เธอไม่ได้เข้มแข็งเลยสักนิด "ไม่ ๆ ครับ วิวไม่ต้องขอโทษครับ โอ๋ ๆ อย่าร้องนะครับคนสวยของวิน" ประโยคปลอบโยนของลูกน้อยยิ่งทำให้เธอแทบจะร้องไห้หนักกว่าเดิม เวลามีคนโอ๋เธอยิ่งดูอ่อนแอเข้าไปใหญ่ ทำไมเธอถึงเป็นแบบนี้กันนะ "วิน ฮึก~" "ต่อไปวินจะไม่ให้คุณลุงเข้าใกล้แม่อีกแล้ว ไม่ให้ใกล้วินด้วย เขาทำแม่วิวร้องไห้วินไม่ชอบเลย" เด็กน้อยเพียงแค่แค้นใจแทนผู้เป็นแม่ แต่เด็กก็คือเด็ก เขาไม่ผิดอะไรเลย ยิ่งไม่ควรเลยสักนิดที่ต้องมาอยู่ตรงกลางระหว่างอารมณ์ของผู้ใหญ่สองคน "......" วิวถึงกับหยุดร้องและนิ่งเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง เธอโกรธเขาก็จริง แต่ควรจะเห็นแก่ตัวโกหกลูกเพียงเพราะเรื่องบาดหมางของเธอและเขางั้นเหรอ? หรือเธอควรบอกความจริงเรื่องพ่อของวินให้เขาได้รับรู้ดีหรือไม่? ทุกอย่างมันตีรวนไปหมด เธอคิดไม่ตกกับเรื่องนี้ หากจะให้หนีก็คงไม่รู้ว่าควรหนีไปที่ใดถึงจะดี "วินครับ แม่ไม่ร้องแล้วก็ได้ แต่แม่ขอถามวินหน่อยได้ไหมครับ?" "ครับถามวินได้เลย วินจะตอบแม่วิวทุกอย่างเลย" วินน้อยเอ่ยอย่างใสซื่อ เวลาปกติคงเรียกชื่อเล่นติดปาก แต่ตอนนี้เรียกแม่ทุกคำเพียงเพราะอยากทำทุกวิถีทางให้ผู้เป็นแม่รู้สึกดีขึ้น "วินยังอยากรู้ว่าพ่อเป็นใครอยู่ไหมครับ?" เธอกลืนก้อนสะอื้นและถามลูกชายด้วยแววตาจริงจัง พร้อมกับรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ หากลูกเธอตอบมาแบบไหน เธอยินดีทำตามนั้นไม่เห็นแก่ตัวเด็ดขาด "อยากครับ" ท้ายสุดแล้วไม่มีลูกคนไหนไม่ต้องการพ่อ เพียงเพราะความไม่รู้ว่าการมีอยู่กับไม่มีอยู่นั้นมีดีมีเสียต่างกันอย่างไร แต่สำหรับลูกชายของเธอที่อายุเพียงเท่านี้ก็ย่อมโหยหาคำว่าครอบครัวที่อบอุ่น พ่อกับแม่อย่างที่ใคร ๆ เขามีกัน "แม่จะบอกความจริงให้นะครับ พ่อวินก็คือคนที่เรียกว่าลุงโซ่นั่นแหละ" เธอยอมบอกความจริงกับลูก ไม่ใช่ใจอ่อนสงสารไอ้คนที่เธอไม่ยอมให้เข้าบ้านนั่น เธอเพียงสงสารลูก อย่างน้อยเขาก็ควรจะได้รู้ ในอนาคตเธอก็คงต้องพยายามอธิบายให้เขาเข้าใจว่าเพราะอะไรพ่อกับแม่ถึงไปต่อกันไม่ได้ แต่อาจจะต้องให้วินโตกว่านี้เสียหน่อย "จริงเหรอครับ เป็นเขาเหรอ?" ตอนแรกวินดูอึ้งจนตาโต แต่ไม่นานกลับมีรอยยิ้มน้อย ๆ ผุดขึ้นตรงมุมปากเล็ก เขารู้สึกชื่นชอบและชื่นชมลุงสุดหล่อคนนั้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอ ทั้งความสุขุมสุภาพ ให้ความรู้สึกปลอดภัยจนเด็กน้อยอยากอยู่ใกล้เพียงเเรกเห็น หรือเป็นเพราะสายสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกที่บางครั้งอาจมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เด็กน้อยดีใจมาก แต่ก็ยังเป็นห่วงแม่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าคนที่ขึ้นชื่อว่า 'พ่อ' ต้องเป็นสาเหตุที่ทำให้แม่ร้องไห้อย่างแน่นอน "ครับ" เธอพยักหน้าตอบรับอย่างไม่อาจเลี่ยงได้ "แต่พ่อทำแม่ร้องไห้" วินเอ่ยเสียงเบาจนเธอต้องรวบตัวมากอดไว้ในทันที พร้อมกับรีบอธิบาย ก่อนที่เด็กน้อยจะเข้าใจเป็นอื่นและทุกข์ใจ เธอยอมกลืนก้อนความเจ็บนี้ไว้คนเดียว ดีกว่าต้องทนเห็นคนที่เธอรักมากที่สุดในชีวิตต้องมาเจ็บปวดกับเรื่องที่เขาไม่ผิด "พ่อกับแม่แค่มีเรื่องไม่เข้าใจกันนิดหน่อย ตอนนี้เลยต้องแยกกันก่อน แต่สำหรับวินแล้ววินเป็นลูก เขาก็เป็นพ่อ" แม้จะเป็นพ่อที่ไม่เคยทำตัวเหมือนพ่อเลยก็ตามเถอะ... "งั้นวินก็คุยกับพ่อได้ เจอพ่อได้ใช่ไหมครับ" "ได้สิครับ เดี๋ยวแม่ขอตกลงกับเขาก่อนนะ วันนี้เราไปนอนดีกว่าดึกมากแล้ว" เธอรีบเปลี่ยนเรื่องทันที เพราะนี่เป็นเวลาดึกมากแล้วหากยืดเยื้อเวลามากไปจะไม่มีผลดีกับวิน เขายังเด็กควรพักผ่อนให้เต็มที่ไม่มีสิ่งใดรบกวนเขา ยกเว้นเสียแต่... "พ่ออยู่นอกบ้าน" ในจังหวะที่กำลังจะพาลูกเข้านอนชั้นบน สายตาก็ดันมองผ่านกระจกใสซึ่งเธอลืมปิดผ้าม่านเสียเอง บ้านที่เธอเช่าอยู่เป็นทาวน์เฮาส์สองชั้นหลังเดี่ยว พอมองออกไปไฟถนนก็จะส่องให้เห็นคนที่ทำตัวผลุบ ๆ โผล่ ๆ อยู่หน้าบ้าน "ไหนวินบอกเขากลับไปแล้วไงครับ?" "วินเห็นออกไปแล้วรอบหนึ่งนะครับ แม่จะเปิดประตูให้พ่อเข้ามาไหมครับ? ยุงไม่กันพ่อแย่เหรอ?" เด็กน้อยท่าทางดูเป็นห่วงพ่ออยู่เหมือนกัน วินจะใส่ใจเรื่องความเท่าเทียมอยู่เสมอ ปฏิบัติกับแม่อย่างไรก็คงอยากทำกับพ่อแบบนั้นบ้าง "เดี๋ยวแม่ไปบอกให้เขากลับไปนอนเองครับ วินขึ้นไปรอนะ ไม่ต้องห่วงแม่นะครับแม่จัดการได้" เธอบอกลูกชายด้วยท่าทีใจเย็น ดั่งคนใจดีที่แค้นสุมอก "ไม่ร้องไห้แน่นะครับ" วินถามซ้ำเพื่อความมั่นใจ "ไม่ครับ รอบนี้จะคุยกับพ่อด้วยเหตุผล" คุยด้วยเหตุ ส่วนผลก็เอาไว้ทีหลัง ...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD