ล่องเรือ
ตอนที่ 1
ล่องเรือ
สายลมพัดผ่านผิวน้ำของแม่น้ำแยงซีเกียง อีกหนึ่งแม่น้ำสายสำคัญของจีน รอยอร์ชหรูลำหนึ่งแล่นอยู่กลางน้ำ โดยมีคณะทัวร์จากเมืองไทยของคณะศิระกรุ๊ป ที่เช่าเหมาลำเพื่อให้ชมทัศนียภาพอันงดงามราวภาพวาดของสองวิถีชีวิตริมแม่น้ำสายหลักที่หล่อเลี้ยงคนจีนอย่างมากมาย
เรือหรูลำนี้มีทั้งหมดชั้น แยกเป็นสัดส่วนชัดเจนชั้นล่างสำหรับผู้โดยสารทั่วไป สองและสามสำหรับทริปที่ไม่ต้องการความเบียดเสียดนัก ชั้นสี่นั้นมีเพียงสองห้องวีไอพี สำหรับแขกระดับสูงพรีเมี่ยมเท่านั้น
ร่างสูงของชายผู้หนึ่งนั่งอยู่ห้องหรูนั้น ดวงตาคู่สีถ่านเพ่งมองยังสายน้ำที่ไหลเอื่อยเฉื่อย คล้ายต้องการปลดปล่อยอารมณ์ของตัวเอง มือหนาที่เห็นเส้นเลือดตามหลังมือ ขยับแก้วน้ำสีทองไปมา
คล้ายกำลังครุ่นคิดและรอคอยอะไรบางอย่าง
แกร่ก!!!
และเหมือนการรอคอยของเขาจะสิ้นสุดลง เมื่อประตูห้องวีไอพีของเรือถูกเปิดขึ้น ปรากฏร่างอรชรของหญิงสาวผู้หนึ่งเดินเข้ามาอย่างช้าๆ
“ขอโทษค่ะคุณกร พราวไม่ทราบว่าให้ตามมาที่ห้องนี้”
พราวฟ้า เอ่ยเสียงหวานเมื่อมองหน้าหล่อเหลาคมคายของคนตรงหน้า เขาคือ ศิรกร เจ้าของบริษัทศิระกรุ๊ปผู้ทำธุรกิจอาหารทะเลส่งออกรายใหญ่ของไทย และเป็นเพื่อนกับคุณภาส เจ้านายของเธอ
ก็ไม่เชิงว่าเป็นเจ้านายเสียทีเดียว เพราะคนภายในที่ล้อมรอบตัวต่างก็รู้ว่าเธออยู่ในฐานะเด็กเลี้ยงคนหนึ่งของ ภาส แม้แต่ ศิรกรเองก็ตาม
ภาส กับ ศิรกร เป็นเพื่อนทางธุรกิจร่วมกัน
ความจริงในวันนี้ เธอไม่ควรจะมายืนตรงนี้ ต่อหน้าของ ศิรกร และถูกสายตาโลมเลียตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยไม่แต่น้อย และไม่แน่ใจว่าคิดถูกหรือผิดที่ขอมาร่วมทริปเที่ยวจีนของศิระกรุ๊ป ด้วยคาดหวังว่า ภาส จะมาด้วย
“มานั่งนี่ซิ”
ศิรกร เอ่ยเสียงราบเรียบ สายตาคู่สีถ่านของเขาไล่มองเธอตั้งแต่เรียวขาอ่อนที่ขาวเนียน จนถึงชายกระโปรงบางพลิ้ว จนจินตนาไปถึงเนื้อในได้ไม่อยาก เสื้อครอบเนื้อดีนั้นแนบไปผิวของเธอจนเห็นทรวดทรงองค์เอวชัดเจน ทั้งสะโพกกลมกลึงน่าสัมผัส และหน้าอกอวบตึงที่เหมือนจะใหญ่เกินตัว
มองตรงไหนก็น่า....ไปหมด
เธอสวยไปทุกส่วนจนลำคอเขาเริ่มจะแห้งผาก และเพราะความเย้ายวนนี่แหละแต่ติดที่เธอเป็นเด็กเลี้ยง หรือบ้านเล็กของเพื่อนร่วมธุรกิจ ทำให้เขาผลีผลามมากไม่ได้
แต่อะไรบางอย่างที่เกิดขึ้น ทำให้เธอต้องการคุยข้อตกลงกับเขาในทริปนี้ ที่ห้องวีไอพีของเรือ นั่นทำให้เธอเข้ามาหาเขาเพียงลำพังโดยไม่มีคนของเขาอยู่ด้วยสักคน
“นั่งตรงนี้เหรอคะ?” พราวฟ้า ไม่ได้ตั้งใจกวนประสาทเขา แต่มุมที่เขาบอกเป็นเก้าอี้นวมตัวใหญ่ที่หันไปทางกระจกเรือ และเขานั่งตรงกลางจนแทบจะไม่เหลือเนื้อที่ให้เธอแทรกตัวแม้แต่น้อย
“ใช่ นั่งตักพี่ไง”
“อะ ..คุณกร!!”
มือหนาคว้าเอวคอดเพียงนิด ร่างบางก็เซถลาลงบนตักเขาอย่างว่าง่าย แขนแกร่งโอบรอบสะโพกเธอไว้หลวมๆ แฝงความนุ่มนวลอยู่ในที
“เรียกว่าพี่กรดีกว่า แบบที่หนู เรียกภาส”
ศริกร บอกเสียงนุ่ม ตาคู่คมกริบกวาดมองใบหน้าเรียวรูปใข่ที่สวยหมดจดและแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์อย่างปราณีตน่ามอง มือหนาไล้ยังต้นแขนเปลือยเนียนของเธอเบาๆ
“พี่กรทำแบบนี้ ไม่กลัวพี่ภาสรู้เหรอคะ?”
แม้ทั้งสองจะไม่ถึงกับเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่การใกล้ชิดทางธุรกิจที่ต้องเกื้อกูลก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ ภาสเกรงอกเกรงใจ ศิรกร อยู่พอควร
“ก็อย่าให้รู้ซิครับ พี่ไม่พูด หนูไม่พูดใครจะรู้ละ คนของพี่ที่นี่ก็พร้อมจะรูดซิบปากอยู่แล้ว”
ศิรกร เอ่ยเสียงกระเส่าก้มหน้าซุกยังซอกคอระหง
ความจริงเขาไม่ถึงกับอดอยากนัก ถึงจะโสดยังไม่ลงหลักปักฐานมีครอบครัวกับใคร แต่ก็มีสาวๆต่อคิวเคียงข้างให้ปลดปล่อยอยู่ไม่ขาด และในทริปนี้คนของเขาก็พาเด็กเอ็นสวยๆมาด้วยหลายคน
แต่ตอนนี้เขากระหายใคร่อยากจะสัมผัสกับ ร่างระหงที่เขาเฝ้ามองมานาน ตั้งแต่เจอเธอตอนไปดีลงานกับ ภาส ที่บริษัทบ่อยๆ และรู้ว่าเธอเองเป็นเด็กเลี้ยงคนหนี่งของภาส ที่อีกฝ่ายไม่ค่อยสนใจและมีเวลาให้นัก
เพราะภาส เอง แต่งงานและมีครอบครัวแล้ว
“หนูไม่พูด แต่พี่กรก็ต้องสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องของหนูกับที่บ้านเด็ดขาด ไม่งั้นดีลของเราจบแน่นอน”
เธอไม่ได้ขู่ แต่บอกเขาตามตรง ในวันที่จะขึ้นเครื่องนั้น เธอได้ทราบที่สนามบินว่า ภาส ยกเลิกเที่ยวในทริปนี้ เพราะภรรยา ของเขาไม่สบายและปล่อยให้เธอมาคนเดียวกับทีมศิระกรุ๊ปที่เธอไม่รู้จักใครสักคน
เขาบอกว่า ไม่สะดวกมาร่วมทริป
แต่เธอรู้ดีว่า ภาส กลัวว่าภรรยาของเขาจะทราบเรื่อง ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขารับปากเธอเป็นอย่างดี และวางแผนร่วมกันมาหลายเดือน
เพราะเธอเป็นเพียงบ้านเล็ก ที่ไม่สำคัญอะไร
สุดท้ายที่แย่กว่านั้น เมื่อขึ้นทริปมาด้วยในวันแรก ที่เธอดันลืมโทรศัพท์ไว้ในล็อบบี้โรงแรม แล้วยายของเธอโทรเข้ามา เป็นจังหวะที่ ศิรกร เดินมาและรับสายพอดี
ไม่แน่ใจว่าเขาคุยอะไรกับยายของเธอบ้าง
แต่หลังจากนั้น เขาก็เรียกเธอมาคุย เพื่อยื่นข้อเสนอดีลลับสนองความปราถนาของตัวเอง เพื่อไม่ให้ความลับบ้านเล็กของเธอหลุดรอดไปให้คนที่บ้านรู้
ตอนนี้เธอจึงโกรธและโมโหเขานัก ที่ใช้ข้อต่อรองนี้กับเธอ
“พี่เป็นคนเชื่อถือได้ครับคนดี”
น้ำเสียง ศิรกร อ่อนลงอย่างเว้าวอน หน้าหล่อเหลาซุกลงยังเนินอกอวบ ก่อนจะดึงครอปของเธอลงและเต้าเต่งตึงก็ปรากฎต่อหน้าเขา
*********************