เจอกันครั้งแรก
"ทำไมต้องเป็นผมด้วยครับ"
ภาคินนั้งหน้ามุ่ยคิ้วขมวด วันนี้พวกเขาสามพี่น้องถูกเรียกตัวเขามาพบด้วยโดย ประมุขของบ้าน นั้นก็คือคุณเทวัญ พ่อของพวกเขานั้นเอง
ภาคินเป็นลูกชายคนกลาง
ของตระกูนคุณากร อายุ 38ปี หล่อเข้มสูง180 เปลี่ยนคู่นอนไม่ซ้ำหน้าน้ำแตกแล้วแยกย้ายจ่ายจบ ถ้ารับขอเสนอนี้ได้เขาก็จัดให้ถึงใจเลยทีเดียว เขาถือว่าเป็นเจ้าพ่อธุระกิจอสังหา เลยก็ว่าได้ยังมีธุระกิจผับบาดังๆอีกหลายแห่ง
แถมยังใจนักเลง ฆ่าได้หยามไม่ได้ ไม่กลัวใคร
ตรงข้ามกับครอวครัวที่พ่อเป็นหมอและเป็นเจ้าของโรงพยาบาลชื่อดังที่ตอนนี้ เกษียณตัวเองให้ลูกชายคนโตกับคยเล็กบริหารต่อ เพราะลูกชายคนกลางนั้น หัวรั้นออกไปทำธุกิจของตัวเองและ ประสบความสำเร็จมากมาย
"ก็เพราะมีแกคนเดียวที่จะช่วยหนูพรีมได้"
คุณเทวัญกล่าวเสียงเคียด ปราณุทเพื่อนรักของเขาเสียชีวิตกระทันหันพร้อมภรรยาทั้งคู่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตรายมีคนหมายจะเอาชีวิตพวกเขาทั้งคู่เพื่อ หวังที่จะฮุบธุรกิจที่ตัวเขาสร้างมากับภรรยา ก่อนหน้าที่ทั้งคู่จะเสียชีวิตสองวัน ปราณุทได้มาหาเขาที่บ้าน มาพร้อมทนายและเขียนพินัยกรรมที่บ้านของเทวัญ และมีสักขีพยานอีก 2 คน และฝากพินัยกรรมไว้กับเทวัญ ปรานุทเล่าเรื่องที่เขาถูกปองร้ายให้เทวัญฟัง และยังได้ฝากฝังลูกสาวคนเดียวและธุรกิจของเขาที่ต้องการให้ลูกสาวเป็นผู้สืบทอดต่อไปแต่นั้นก็หมายถึงลูกสาวของเขาก็จะตกเป็นเป้าที่จะถูกหมายเอาชีวิต ปราณุทจึงจำใจต้องมาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่เขาไว้ใจที่สุดและมีคนหนึ่งที่เพื่อนของเขารู้จักดีและคนคนนี้จะสามารถดูแลคุ้มครองพีมรดาได้
ภาคินลูกชายคนกลางของเพื่อนที่มี อิทธิพลพอสมควร กิตติศักดิ์ของภาคินที่ใครก็รู้ว่าไม่ธรรมดา เขาเป็นคนเดียวที่ปรานุทเห็นว่าจะดูแลลูกสาวเขาได้
"ฝากลูกสาวเราด้วยนะ ยายพรีมเขาไม่มีใครบอกเขาว่าอย่าไว้ใจใคร แม้กระทั่งอาของเขาเอง"
นี้เป็นคำสั่งเสียของปรานุทก่อนที่จะขึ้นรถออกจากบ้านเขาไป
"พี่ใหญ่ ไอเล็ก ใครก็ได้ทำไมต้องเป็นผมด้วย"
ภาคินเอ่ยเสียงเครียด นั้งมองหน้าบิดาอย่างไม่เข้าใจ
"ตาใหญ่เขาก็มีครอบครัวแล้วตอนนี้พี่สะใภ้แกก็ท้องอยู่ ส่วนตาเล็กรับมือไม่ไหวกับพวกนี้แน่และที่สำคัญปรานุทระบุไว้ในพินัยกรรมว่าหนูพรีมกับบริษัทจะอยู่ภาพใต้การดูแลของแกสองปี และะพ่อกับแม่ก็เห็นควรตามนั้น"
คุณเทวัญยังยืนยันคำเดิม
"ถือว่าสงสารผู้หญิงตัวเล็กๆเถอะตาคิน"
คุณภาวิณีผู้เป็นแม่ช่วยเสริม
"ภาคินพ่อไม่เคยขอร้องอะไรแก เเต่เรื่องนี้พ่อขอ ตอนที่พ่อกับแม่ขาดทุนจากโรงพยาบาลจนแทบจะหมดตัวแม้แต่ญาติก็ไม่นับญาติก็มีแต่ปรานุทกับแม่ของหนูพรีมที่ยื่นมือเข้ามาช่วยจนพ่อกับแม่ ประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ ถ้าไม่มีพวกเขาก็อาจจะไม่มีเราในวันนี้ก็ได้นะ"
คุณเทวัญยังนึกถึงวันนั้นได้ดี วันที่เขาไม่เหลือใครแต่มีโทรศัพท์หนึ่งสายที่โทรหาเขาพร้อมกับแสงสว่างนำทางชีวิต ให้เขาได้ยืนหยัดขึ้นมาอีกครั้งนั้นก็
คือปรานุทนั้นเอง
"พี่เป็นความหวังเดียวเลยก็ว่าได้นะครับที่จะพาเขารอดปลอดภัยไปได้"
คนิตน้องชายคนเล็กเอ่ยขึ้น
"ถ้าคินไม่ช่วยผมจะช่วยน้องเองครับพ่อ"
ราเชนพี่ชายคนโตเอ่ย ทำให้ภาคินต้องคิดหนังเข้าไปอีก เรื่องนี้ถือว่าอันตรายมากและพี่สะใภ้เขาก็ท้องอยู่
"ผมคงไม่มีทางเลือกสินะครับ"
ภาคินกล่าวเสียงเข้มทุกสายตามองมาที่เขาคนเดียว
"เฮ้อออ...ก็ได้ครับ"
ทุกคนยิ้มออก
"ขอบใจมากนะตาคิน"
คุณเทวัญเอ่ยกับลูกชาย
"พี่ชายผมสุดยอดไปเลย"
คนิตเอ่ยชมพี่ชายตัวเอง
"พอเลยไม่ต้องมาพูดดีเลยไอเล็ก"
ภาคินเอ่ยอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่
"ฮ่าๆๆ พานผมเรื่องอะไรเนี่ย"
คนิตเอ่ยกับพี่ชาย
ถึงแม้จะมีพี่น้องผู้ชายแต่ทั้งสามคนก็รักกันมากนี้ถือเป็นความโชคดีของครอบครัวคุณากร
"เอาละเย็นนี้หนูพรีมจะมาถึงสนามบินพ่ออยากให้แกไปรับน้อง แค่ล้อเครื่องบิน แตะสนามบินประเทศไทยนั้นก็หมายถึงอันตรายจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และอีกอย่างน้องยังไม่รู้ว่าตอนนี้พ่อกับแม่ได้จากเขาไปแล้ว พ่อแค่ส่งข่าวไปว่าปรานุทให้กลับบ้านพร้อมกับจองตั๋วเครื่องบิน ไว้ให้ไฟล์นี้"
เทวัญกล่าวกับลูกชาย
"ครับผม ผมจะดูเเลหนูพรีมของพ่อกับแม่ให้เองครับไม่ต้องห่วง"
ภาคินพูดขึ้นอย่างจำใจ เห็นแกพ่อกับแม่ที่ขอร้องเขา เขาจะทนทำภารกิจนี้ให้เสร็จไว้ๆ แล้วเขาก็จะได้เป็นอิสระ
สนามบิน...
"เที่ยวบินนี้มีรายชื่อของคุณพิมรดาครับนาย"
โจลูกน้องคนสนิทรายงานภาคิน
"อืมม..มึงดูไว้แล้วกัน"
"ครับนาย"
ภาคินนั้งกดมือถือเล่น พร้อมการ์ดที่ยืนอยู่รอบข้างอีก 2 คน ส่วนโจมือขวาของเขากับลูกน้องอีกหนึ่งคนไปยืนรออยู่ที่ผู้โดยสารขาออก
"นายครับคุณพิมรดามาแล้วครับ"
ลูกน้องวิ่งมาบอก ภาคินปิดโทรศัพท์เก็บใส่กระเป๋ากางเกง เขายืนขึ้นแล้วเดินไปข้างหน้า เจอหญิงสาวคนหนึ่งกำลังที่ยืนอยู่กับโจ เธออยู่ในชุดสูตรที่ดำกระโปรงยาว ผมถูกรวบไว้ และมีแว่นดำช่วยเสริมให้ใบหน้าเธอดูโดดเด่นสะดุดตาเข้าไปอีก
เธอใส่รองเท้าผ้าใบยี่ห้อดัง ทำเอาพาคินถอนสายตาไม่ได้ไปพักหนึ่งเลยทีเดียว
พิมรดา อายุ26ปี ลูกสาวคนเดียวของปรานุทกับกัญญา ผิวขาวอมชมพูใบหน้ารูปไข่ตากลมคิวคมสวย หุ่นเพียว สูง170 มาตรฐานความสูงที่กำลังสวย
"ก็ยังดีที่ไม่ใช่มาแนวคุณหนูจ๋า"
ภาคินดูจากการแต่งตัวของเธอแล้วก็พอใจอยู่ระดับหนึ่ง
"นายครับคุณพิมรดามาถึงแล้วครับ"
โจก้มหน้านิดหนึ่งรายงานนาย
"เออ..เห็นแล้ว เชิญสิครับรออะไรอยู่"
ประโยคหลังภาคินหันไปพูดกับหญิงสาวที่กำลังส่งยิ้มมาให้เขา ทำให้เธอต้องหุบยิ้มลงทันที
ผู้ชายอะไรหน้าตาก็ดีแต่พูดจาไม่เพราะเอาสะเลย
"คุณพ่อส่งคุณมารับฉันหรอค่ะ"
"เดี๋ยวก็รู้เองเชิญครับครับ เสียเวลามากแล้ว"
ภาคินพูดอย่างไม่สบอารมณ์
"นี้คุณถ้ามันลำบากคุณจะมาทำไม"
พิมรดาเริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว ผู้ชายอะไรทำหน้าบูดอยู่ตลอดเวลา
"เฮ้ออ..นี้คุณเวลาผมมีไม่มากนักหรอกนะ จะไปก็ตามมาแล้วกัน"
พูดเสร็จเขาก็เกินออกมาทันที่
"เออ..ไปกันเถอะครับคุณพิมรดา"
โจเอ่ยขึ้น พร้อมกลับรับกระเป๋าลากใบใหญ่มาถือไว้
"เขาเป็นเจ้านายคุณหรอค่ะ"
พิมรดาถามโจในขณะที่กำลังเดินออกมาขึ้นรถ
"ใช่ครับ"
"คุณทนอยู่กับเจ้านายแบบนี้ได้ไงค่ะ"
"ความจริงแล้วนายใจดีนะครับ"
"หน้าบูดพูดมะนาวไม่มีน้ำนั้นเเบบนั้นหรอค่ะใจดี"
โจเงียบไม่พูดอะไรต่อ ทั้งคู่ก็เดินมาถึงรถพอดี รถตู้คันหรูเปิดประตูรอมีภาคินนั้งรออยู่ในรถแล้ว
"เชิญครับคุณพิมรดา"
โจพูดขึ้นก่อนจะเอากระเป๋าไปเก็บหลังรถ พอพิมรดาขึ้นรถประตูรถก็ปิดลงทันที โจเดินขึ้นไปนั้งข้างคนขับ