ตอนที่ 7
17.00 น.
นาฬิกาบอกเวลาเลิกงาน อิงฟ้าเตรียมเก็บของด้วยความกระตือรือร้น หัวใจของเธอเต้นระรัวด้วยความประหม่า เพราะจะได้เจอดลภพในฐานะเจ้านายเป็นครั้งแรกหลังจากที่พยายามอย่างหนัก
คุณอารีหญิงวัยกลางคนหันมายิ้มให้เธอเล็กน้อย ก่อนจะเดินนำออกไปจากออฟฟิศและขับรถพาเลขาฯ คนใหม่มุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง คุณอารีพาเธอมายังห้องพักฟื้นพิเศษ ที่มีคุณปู่ของดลภพนอนพักรักษาตัวอยู่
ร่างสูงสง่าของดลภพยืนอยู่ข้างเตียงพร้อมด้วยคุณพ่อและคุณแม่ของเขาที่นั่งเฝ้าคุณปู่ของดลภพ บอสหนุ่มกำลังยืนคุยกับคุณหมอเจ้าของไข้ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
อิงฟ้ามองเขาด้วยความหลงใหลอยู่ด้านนอก เธอรอโอกาสให้สะดวกกว่านี้แล้วค่อยเข้าไป เขาดูดีกว่าที่เธอจำได้ในงานการกุศลเสียอีก แสงไฟในห้องพักฟื้นสาดส่องโครงหน้าอันหล่อเหลา ผิวขาวสะอาด และริมฝีปากหยักได้รูป ดวงตาคู่คมที่เคยเย็นชาดูอ่อนโยนลงเล็กน้อย
เมื่อดลภพคุยกับคุณหมอเจ้าของไข้เรียบร้อยแล้ว เขาก็หันมาเห็นคุณอารีและอิงฟ้าที่ยืนอยู่ด้านนอกห้อง สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนเป็นเรียบเฉยตามเดิม แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อเหลาของเขาลดลงเลยแม้แต่น้อย
“สวัสดีค่ะคุณดลย์ นี่คือคุณอิงฟ้าค่ะ เลขาฯ คนใหม่ของคุณ” คุณอารีแนะนำอย่างสุภาพ เธออายุมากกว่าดลภพเจ้านายของเธอเกือบหนึ่งรอบ แต่เธอก็ให้ความเคารพเป็นอย่างดี ก่อนที่ดลภพจะมาทำหน้าที่ซีอีโอ แทนคุณแม่ของเขา คุณอารีเคยเป็นเลขาฯ ของคุณภัสสรมารดาเขามาก่อน
“พี่อารีเชิญเข้ามาข้างในก่อนครับ” ดลภพยิ้มรับอย่างสุภาพ ก่อนที่สายตาคมจะกวาดมองอิงฟ้าราวกับว่าเขาจำเหตุการณ์คืนนั้นได้เป็นอย่างดี
“สวัสดีครับคุณอิงฟ้า...เชิญครับ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นสั้นๆ ทำให้อิงฟ้าคาดเดาไม่ถูกว่าเขาจำเธอได้หรือเปล่า
“สวัสดีค่ะบอส” อิงฟ้ายิ้มหวานให้เขาตามที่เจนนิสาสอน เธอพยายามสบตาเขาอย่างมั่นใจ ก่อนจะหลบสายตาอย่างเขินอายเล็กน้อย
การเยี่ยมคุณปู่เป็นไปอย่างเงียบๆ ดลภพยังคงมีท่าทีเย็นชา เขาแนะนำอิงฟ้าให้กับคุณพ่อคุณแม่ของเขา อิงฟ้าจำต้องคอยตอบคำถามของคุณภัสสร มารดาของเขา รวมไปถึงการแสดงความเป็นห่วงเป็นใยและสอบถามเกี่ยวกับอาการของคุณปู่บ้างเป็นครั้งคราว เธอพยายามสังเกตทุกการกระทำ พยายามจดจำรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการพิชิตหัวใจดลภพ เมื่อได้เวลาอันสมควร คุณอารีก็ชวนอิงฟ้ากลับ
“คุณดลย์คะ เดี๋ยวพี่กับอิงฟ้าต้องขอตัวกลับก่อน ขอให้คุณปู่หายเร็ว ๆ นะคะ”
“ครับ ขอบคุณครับพี่อารี” ดลภพตอบกลับ ก่อนจะหันมามองอิงฟ้าแล้วเอ่ยขึ้น
“คุณอิงฟ้า...เดี๋ยวคุณช่วยอยู่คุยงานกับผมก่อน ผมไปส่งคุณที่บ้านเอง”
คำพูดของดลภพทำให้อิงฟ้าถึงกับตกใจ เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะเอ่ยปากเช่นนั้น ใจหนึ่งก็ดีใจจนแทบจะกรีดร้อง แต่อีกใจหนึ่งก็กังวล เพราะถ้าเขาไปส่งที่บ้านจริง ๆ เขาก็จะต้องรู้ความจริงว่าเธอคือลูกสาวของท่านประธานธีระ และความลับที่เธอปลอมตัวมาเป็นเลขาฯ ก็จะต้องถูกเปิดเผยทันที
อิงฟ้ารีบส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปให้คุณอารี แต่คุณอารีกลับยิ้มบางๆ เหมือนจะสื่อว่า 'โอกาสมาแล้วนะ'
“คะบอส แต่...ดิฉันกลับเองได้ค่ะ พอดีว่าที่พักอยู่ไกล เกรงว่าจะไม่สะดวก” อิงฟ้าตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล พยายามทำหน้าใสซื่อที่สุด ดลภพเลิกคิ้วเล็กน้อย เหมือนกำลังพิจารณาคำพูดของเธอ
“คุณพักอยู่ที่ไหนเหรอ”
“พักอยู่ที่คอนโดกับเพื่อน แถวสาธรค่ะ น่าจะไกลจากที่นี่”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมไปส่งที่คอนโดเพื่อนคุณก็ได้” อิงฟ้าถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ
ดลภพพาอิงฟ้ามาขึ้นรถคันหรูของเขา เธอนั่งตัวเกร็งอยู่ข้างๆ พยายามควบคุมหัวใจที่เต้นรัวราวกับจะหลุดออกมาจากอก บรรยากาศภายในรถเงียบสงบ จนกระทั่งดลภพเอ่ยขึ้น
“คุณยังไม่ได้ทานข้าวเย็นใช่ไหม”
“เอ่อ...ยังเลยค่ะ” อิงฟ้าตอบอย่างประหม่า
“งั้นเดี๋ยวเราแวะทานข้าวเย็นกันก่อน แล้วผมค่อยไปส่งคุณ พอดีว่าผมอยากคุยเรื่องงานกับคุณด้วย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่กลับเป็นคำชวนที่ทำให้หัวใจของอิงฟ้าพองโต
บอสหนุ่มพาเลขาฯ คนใหม่ มายังร้านอาหารในโรงแรมระดับห้าดาวแห่งหนึ่ง บรรยากาศภายในค่อนข้างโรแมนติก มีเสียงเปียโนคลอเบาๆ ดลภพจัดการสั่งอาหารให้เธออย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นถึงความเป็นสุภาพบุรุษที่แฝงอยู่ภายใต้ความเย็นชา
ตลอดมื้อค่ำ ดลภพยังคงพูดน้อย แต่ก็เป็นฝ่ายถามคำถามเกี่ยวกับตัวเธอและเรื่องงานบ้าง อิงฟ้าตอบอย่างกระตือรือร้น พยายามเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจและไม่หลุดความลับออกไป เธอรู้สึกว่าการได้นั่งคุยกับเขาแบบใกล้ชิด ทำให้เธอหลงใหลในตัวเขามากขึ้นไปอีกหลายเท่า ความเย็นชาของเขาไม่ได้เป็นปัญหาอย่างที่เธอกังวล แต่กลับทำให้เขามีเสน่ห์ลึกลับน่าค้นหา
“ผมจำได้ว่าเราเคยเจอกันมาแล้วครั้งหนึ่ง...”
“ค่ะ ในงานเลี้ยง” อิงฟ้าตอบอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันคิด เพราะอยากให้เขานึกถึงเหตุการณ์ในคืนนั้น
“คุณไปกับใครเหรอครับ” ดลภพถามต่อ สีหน้ายังคงไม่แสดงอารมณ์ แต่แววตาของเขากลับดูเหมือนกำลังพิจารณาอะไรบางอย่าง
คำถามของดลภพทำให้อิงฟ้าถึงกับชะงัก นี่คือคำถามที่เธอไม่ได้เตรียมตัวมาล่วงหน้า! ถ้าเธอบอกว่าไปกับคุณแม่ และเป็นลูกสาวท่านประธานธีระ ความลับเรื่องที่เธอปลอมตัวมาเป็นเลขาฯ ก็จะถูกเปิดเผยทันที!
“คือฉันไม่ได้ไปที่งานเลี้ยงนั้นหรอกค่ะ แต่ไปสัมมนาใกล้ ๆ แถวนั้น”
“อ๋อ” เขาเอ่ยขึ้นเหมือนไม่ค่อยเชื่อใจเธอเท่าไหร่ แต่ทำไงได้เธอจำเป็นต้องโกหก ขืนบอกว่า...ไปกับมารดาความลับก็แตกนะสิ! ในสถานการณ์คับขันนี้ อิงฟ้าคิดถึงคำพูดของเจนนิสาที่สอนว่าต้องสร้างบทบาทสมมติและความใสซื่อ เธอจึงตัดสินใจแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าไปแบบนั้น
หลังจากคำตอบของอิงฟ้าเรื่องที่เจอกันในงานเลี้ยงคืนนั้น ดลภพก็ไม่ได้ถามอะไรต่อในทันที เขานั่งรับประทานอาหารตรงหน้าและตักอาหารให้เธออย่างสุภาพ อิงฟ้าถอนหายใจอย่างโล่งอก และคิดว่ารอดตัวไปแล้ว แต่เมื่อทานอิ่ม..เขาก็เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง สายตาคมกริบจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของเธอ ราวกับพยายามค้นหาความจริงบางอย่าง
“คุณจบจาก Oxford เหรอ” ดลภพเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง หลังจากที่เธอเล่าประวัติส่วนตัวคร่าวๆ ให้ฟัง ว่าเธอเพิ่งเรียนจบจากประเทศอังกฤษ
“ค่ะ” อิงฟ้ายิ้มหวานให้เขาอย่างจริงใจ เธอไม่ได้โกหกเรื่องการศึกษาเลย ดลภพพยักหน้าช้าๆ ดวงตาคู่คมยังคงจับจ้องเธอไม่วาง
“งานเลี้ยงการกุศลคืนนั้น ผู้ที่เข้าร่วมส่วนใหญ่ก็เป็นนักธุรกิจชั้นนำ” เขาหยุดพูดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงที่ทำให้หัวใจอิงฟ้าเต้นผิดจังหวะ
“เอาไว้วันหลังถ้างานเลี้ยงจัดขึ้นอีก ผมจะพาคุณไปด้วย” คำพูดของดลภพทำให้เส้นประสาททุกส่วนของอิงฟ้าตึงเปรี๊ยะ เขาต้องกำลังสงสัย! อะไรบางอย่างอยู่แน่ ๆ
“ค่ะ...” อิงฟ้าตอบสั้น ๆ และพยายามทำให้เขาเชื่อสนิทใจ