เมื่อมาถึงโรงแรมมนัญชญากับริคาโด้ก็ตกลงกันว่าจะทานอาหารฝรั่งเศส ระหว่างทานอาหารทั้งสองก็พูดคุยและทำความรู้จักกันมากขึ้น
ข้อมูลที่เขาได้รับจากวสันต์ก็ไม่ต่างกับข้อมูลที่ได้ฟังจากปากของมนัญชญาแต่สิ่งที่เขารู้เพิ่มเติมอีกอย่างก็คือตอนนี้คุณยายของเธอกำลังจะย้ายไปอยู่กับลูกสาวคนเล็กที่ต่างจังหวัด
ริคาโด้แอบยิ้มเจ้าเล่ห์เพราะถ้ามนัญชญาอยู่บ้านคนเดียวมันก็เป็นโอกาสดีที่เขาจะชวนเธอออกมาข้างนอกบ่อยๆ และคงมีโอกาสสนิทสนมกับหญิงสาวมากขึ้น
“อาหารที่นี่อร่อยมากเลยค่ะคุณริค” มนัญชญาชมหลังจากรับประทานอาหารไปได้สักพัก
“ถ้าคุณขิมชอบผมจะพามาทานบ่อยๆ นะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะขิมเกรงใจคุณริคค่ะ”
“จะต้องเกรงใจกันทำไมล่ะ ผมสิที่ต้องเกรงใจเพราะการเรียนภาษาไทยของผมไม่เรียนในเวลาปกติก คุณขิมยังสละเวลาพักผ่อนมาสอนผม เรื่องเลี้ยงข้าวแค่นี้ไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย อีกอย่างที่นี่ก็เป็นโรงแรมของผม วันหลังถ้าคุณขิมอยากมาทานอาหารที่นี่แล้วผมไม่ว่างคุณก็สามารถเข้ามาทำได้เลยนะครับ ผมจะสั่งคนที่โรงแรมไว้”
“ไม่ต้องทำขนาดนั้นก็ได้ค่ะคุณริค ขิมคงไม่มีโอกาสมาที่นี่บ่อยๆ หรอกค่ะ ส่วนใหญ่ขิมกับคุณยายจะทำอาหารทานเองที่บ้านค่ะ”
“แต่คุณขิมเพิ่งบอกผมไปนี่ครับว่าคุณยายจะต้องไปอยู่กับน้าสาวที่ต่างจังหวัด แล้วแบบนี้คุณคงต้องทำอาหารทานคนเดียวใช่ไหม”
“ถ้าขิมอยู่คนเดียวก็ไม่ทำอาหารให้เสียเวลาหรอกค่ะ คงต้องฝากท้องกับร้านอาหารตามสั่งหรือไม่ก็ทานที่โรงเรียนค่ะ”
“ถ้าคุณไม่รังเกียจตอนเย็นเรามาทานอาหารด้วยกันก็ได้นะครับ ไม่จำเป็นต้องมาทานที่โรงแรมก็ได้ครับ ร้านอาหารตามสั่งใกล้ๆ บ้านคุณขิมผมก็ได้”
“แน่เหรอคะคุณริคขิมกลัวว่าคนไม่เคยทานอาหารตามร้านข้างทางจะท้องเสียเอานะคะ”
“ผมทานครับ ผมเป็นคนทานง่ายขอแค่รสชาติอาหารอร่อยถูกใจและไม่เผ็ดมากก็พอ ถ้าวันไหนคุณขิมอยากได้เพื่อนทานข้าวก็โทรมาได้เลยนะครับ”
“ค่ะคุณริคถ้าขิมอยากได้เพื่อนทานข้าวแล้วขิมจะนึกถึงคุณเป็นคนแรกเลยค่ะ”
“ผมดีใจที่คุณขิมจะนึกถึงผมคนแรก การไปทานข้าวของเราคงไม่ทำให้ใครเข้าใจผิดใช่ไหมครับ” ริคาโด้ถามแล้วแอบสังเกตว่าก่อนตอบหญิงสาวแสดงท่าทางมีพิรุธอะไรหรือเปล่า
“คุณริคหมายความว่ายังไงคะ” มนัญชญาวางช้อนในมือแล้วมองหน้าเขาด้วยความสงสัย
“ผมหมายความว่าแฟนคุณขิมจะไม่ว่าใช่ไหมถ้าเราจะออกมาทานข้าวด้วยกันบ่อยๆ” ริคาโด้ตัดสินใจถามออกมาตรงๆ แม้จะรู้จากวสันต์แล้วว่าหญิงสาวยังไม่มีแฟนแต่ก็ต้องถามออกไปเหมือนตัวเองไม่รู้
“คุณริคไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ขิมยังไม่มีใคร” หญิงสาวบอกกับริคาโด้ไปตามจริงเพราะตอนนี้เธอโสดสนิทไม่มีแม้กระทั่งคนคุย
“จริงเหรอครับ ไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่าคนสวยๆ อย่างคุณขิมจะยังไม่มีแฟน”
“มันแปลกเหรอคะ”
“นิดหน่อยครับ ผมหาสาเหตุไม่เจอเลยว่าทำไมคุณขิมถึงยังโสด” ริคาโด้ทำหน้าตาพาซื่อ
“คงเพราะขิมไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยวหรือไปเจอใครมั้งคะ ขิมทำงานเสร็จก็ตรงกลับบ้านเลย”
“แล้วในโรงเรียนไม่มีครูมาจีบเลยเหรอครับ”
“พอมีค่ะ แต่บางคนก็มีแฟน มีครอบครัวแล้วขิมไม่อยากทำให้ครอบครัวคนอื่นมีปัญหาค่ะ”
ริคาโด้ฟังคำตอบแล้วรู้สึกขัดใจมากเพราะสิ่งที่เธอพูดกับสิ่งที่เธอทำนั้นมันตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิงเพราะคนที่เธอไปทานอาหารด้วยเมื่อวานนั้นคือน้องเขยของเขาซึ่งมีครอบครัวที่อบอุ่นอยู่แล้ว
“คุณขิมนอกจากสวยแล้วยังจิตใจดีอีกนะครับ”
“ไม่หรอกค่ะขิมแค่ไม่อยากให้ใครรู้สึกแย่” หญิงสาวรู้สึกแบบนั้นจริง เพราะมารดาของเธอเป็นภรรยาน้อยของคนอื่นและเธอรู้ว่าการทำแบบนั้นมันไม่มีความสุขเลย
“คุณขิมครับพรุ่งนี้ผมก็จะเริ่มเรียนกับคุณแล้วผมต้องเตรียมตัวหรือเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง” ริคาโด้เปลี่ยนเรื่องคุยเพราะถ้ายังคุยเรื่องเดิมต่อเขาต้องโมโหและเผลอพูดเรื่องที่มนัญชญาไปทานข้าวกับสิรภพออกมาแน่ๆ
“ขิมเตรียมไว้ให้แล้วว่าแต่คุณแน่ใจนะว่าจะ เรียนจริงๆ”
“แน่ใจสิมาถึงขั้นนี้แล้วยังไงผมก็ต้องอ่านออกเขียนจนคล่องนั่นแหละครับ”
“ตอนแรกขิมก็ลังเลนะคะว่าจะสอนคุณริคดีหรือเปล่าแต่พอเห็นถึงความตั้งใจของคุณแล้วขิมก็ยินดีที่จะสอนค่ะ”
“ผมเองก็จะตั้งใจเรียนจริงๆ เหมือนกันครับ คุณคิดว่าจะใช้เวลานานไหม”
“ขิมคิดว่าคงไม่นานหรอกค่ะ คุณพูดภาษาไทยได้ดีและพอมีพื้นฐานอยู่แล้วคงเรียนกันไม่กี่ครั้งก็น่าจะคล่องขึ้น เราจะเรียนกันวันพุธและวันพฤหัสนะคะและอาจจะมีการบ้านให้คุณริคทำนิดหน่อยไหวไหมคะ”
“การบ้านเหรอครับ”
“จะเรียกว่าการบ้านก็คงไม่ถูกขิมคิดว่าจะมีแบบฝึกให้คุณอ่านและอาจต้องฝึกอ่านและเขียนคำยากๆ บ้างค่ะ”
“อ๋อ ถ้างั้นคงพอได้”
“ขิมรู้ว่าคุณริคต้องทำงานค่ะ”
“ผมกับหนูอันนาเรียนเหมือนกันไหมครับ”
“ไม่หรอกค่ะ”
“ค่อยโล่งใจหน่อยครับผมนึกว่าผมกับหลานสาวจะเรียนพร้อมกัน ถ้าหนูอันนารู้ผมคงอายแย่เลย” เขาพูดพร้อมกับหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารวันนี้มันดูผ่อนคลายกว่าการรับประทานอาหารที่บ้านของคุณเอเลน่าข้างมาก วันนี้ริคาโด้ชวนเธอคุยมากกว่าทุกครั้ง ทำให้มนัญชญารู้สึกผ่อนคลายและคิดว่าการสอนเขาอ่านและเขียนภาษาไทยไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
“คุณขิมครับทานอาหารเสร็จผมว่าจะพาไปฟังเพลงดีไหมครับ ด้านบนของโรงแรมมีผับแบบเอาท์ดอร์เปิดอยู่บรรยากาศดีมากๆ มองเห็นวิวกรุงเทพรอบทิศเลยนะครับ”
“ฟังดูน่าสนใจดีนะคะ แต่ขิมต้องขอโทษคุณริคด้วย วันนี้ขิมไม่สะดวกเลยค่ะ”
“ทำไมล่ะครับคุณยายไม่ให้กลับดึกหรือเปล่า”
“เรื่องนั้นก็ใช่ค่ะ แต่อีกเรื่องหนึ่งก็คือพรุ่งนี้คุณยายจะต้องเดินทางแล้ว ขิมกลัวตัวเองกลับดึกแล้วจะตื่นสายมาส่งคุณยายไม่ทันค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับผมเข้าใจดี เอาไว้โอกาสหน้าผมจะพาคุณขิมมาที่นี่ให้ได้ รับรองว่าคุณจะต้องชอบบรรยากาศที่นี่แน่นอน” ริคาโด้คิดว่ามนัญชญาจะต้องชอบผับที่เขาพูดถึงแน่ๆ
“ค่ะคุณริค”
หลังจากทานอาหารแล้วริคาโด้ก็ขับรถมาส่งมนัญชญาที่บ้านหลังเล็กของหญิงสาว
“ขอบคุณนะคะคุณริคพี่พาขิมไปทานอาหาร”
“ยินดีครับ”
“ขิมขอตัวเข้าบ้านก่อนนะ คุณริคขับรถดีๆ นะคะ ถ้าถึงแล้วผมจะโทรบอกนะครับ”
ริคาโด้ยืนรอจนมนัญชญาเดินเข้าไปในตัวบ้านก่อนจะขับรถกลับออกมา
การได้เจอและพูดคุยกับมนัญชญาโดยไม่มีคนอื่นอยู่ด้วยมันทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเสียดายมากๆ ถ้าหากผู้หญิงนิสัยดีน่ารักคนนี้จะเป็นมือที่สามของครอบครัวน้องสาว
เขาไม่รู้เรื่องตื้นลึกหนาบางระหว่างมนัญชญากับสิรภพแต่ท่าทางของทั้งสองคนที่สนิทสนมกันแม้กระทั่งอยู่ในบ้านและนัดออกกันมาเจอข้างนอกมันก็ทำให้เขาอดเป็นห่วงไม่ได้
ริคาโด้นึกอยากจีบเธออยากจริงจังแต่ก็ไม่ชอบนิสัยข้อนี้ เขาคงต้องบังคับหัวใจตัวเองไม่ให้หลงไปกับเสน่ห์ของมนัญชญาและคิดเอาไว้แล้วว่าถ้าแยกเธอออกมาจากน้องเขยได้เรื่องระหว่างเธอกับเขาก็อาจจะต้องจบลง ชายหนุ่มเขาไม่ชอบผู้หญิงที่ไปยุ่งกับผู้ชายที่มีครอบครัวแล้ว แม้เธอคนนั้นจะน่ารักนิสัยดีและทำให้เขารู้สึกสบายใจเวลาอยู่ด้วยมากแค่ไหนก็ตาม