บทที่ 2 โดนไล่ออก

1269 Words
บทที่ 2 โดนไล่ออก ฉันตื่นขึ้นมาในช่วงตีสาม สิ่งแรกที่ฉันต้องทำคือหุงข้าว ทำกับข้าว ไม่รู้ว่าเหล่าบรรดาพวกหำเคียวทั้งหลายจะตื่นกันกี่โมง อย่างน้อยฉันก็ไม่ต้องถูกบ่นถูกด่าให้ปวดหัว เดินเข้ามาดูของในครัวมีเนื้อไก่ เครื่องต้มยำ ส่วนใหญ่ของในตู้จะเน้นไปทางผักผลไม้ โชคดีที่ฉันพกปลาร้า พริกแห้ง ปลาแห้ง ติดกระเป๋ามาจากต่างจังหวัด ฉันจึงเริ่มทำเมนูต้มยำไก่ คั่วพริกทำน้ำพริกเผาใส่หมูบด เพราะในตู้เย็นมีผักเต็มไปหมด ควันและกลิ่นคั่วพริกเริ่มแรงขึ้น เพื่อนบ้านเริ่มไอและจาม สงสัยเป็นเพราะฝุ่น PM2.5 สักพักเสียงบนบ้านเริ่มโวยวาย พวกเขาสามคนวิ่งลงมาตามด้วยสาวสวยคู่ขา ทุกคนดูโมโหมาก ทำไมเหรอเป็นอะไรกัน? "มอนิ่งค่ะทุกคน" "ไอ้หมอมึงจัดการเดี๋ยวนี้เลย กูนอนยังไม่ถึงชั่วโมงยัยนี่เล่นกูตั้งแต่วันแรกเลยนะ" ฉันมองหน้าทุกคน ดูเหมือนว่าทุกคนจะไม่พอใจที่เห็นฉันคั่วพริกในตอนนี้ ฉันรีบดับแก๊สแล้วยกกระทะมาวางพักเอาไว้ สองมือประสานกันทำหน้าตาละห้อย พี่ภีมถอนหายใจ เขาเดินเข้ามามองเมนูต่าง ๆ ที่ฉันทำส่วน พี่ไนท์กับพี่ริวพาสาว ๆ ขึ้นไปนอนต่อบนห้อง ฉันทำอะไรผิดไปเหรอ "ฉันนอนไม่หลับ ปกติอยู่บ้านนอกก็ตื่นเวลานี้ ฉันเลยลุกมาทำกับข้าวให้พวกพี่ ฉันผิดเหรอ" "ขอบใจที่รู้จักหน้าที่แต่เธอกำลังสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น กลิ่นคั่วพริกมันทำให้คนในบ้านนอนไม่ได้ เสียงข้างบ้านโวยวายโทรมาหาฉัน เธอเข้าใจใช่ไหม" "ค่ะ" "อีกอย่างนะ บางครั้งพวกฉันนอนไม่เป็นเวลา กลางคืนถึงมันจะข้ามวันแล้วแต่มันเป็นเวลาพักผ่อน ฉันเรียนหมอเรียนหนักกว่าพวกเธอเป็น 10 เท่า ฉันต้องการความสงบต้องพักผ่อนให้เพียงพอ กับข้าวพวกนี้เธอเก็บไว้ก่อนตอนเช้าค่อยทำ ตีห้าหกโมงค่อยลุกมาทำก็ได้" "ค่ะ" พี่ภีมเดินกลับขึ้นไปนอนพัก ฉันจึงเก็บข้าวของให้เรียบร้อยแล้วเดินโซซัดโซเซกลับมาที่ห้องเพราะถูกบ่นเรื่องทำกับข้าว ตอนอยู่บ้านนอกเวลาแม่ใหญ่ลุกมาทำกับข้าว ฉันจะต้องตื่นมาตอนตีสามตีสี่ อยู่แล้วมันเคยชินนี่นา ฉันนอนกลิ้งอยู่ในห้องจนเผลอหลับไป เสียงนาฬิกาปลุกที่ฉันตั้งเอาไว้ตอนตีห้ามันดังหนวกหูจนฉันต้องลุกขึ้นมาปิดแล้วเดินออกมาด้านนอกเพื่อทำกับข้าวต่อให้เสร็จ หลังจากทำกับข้าวเสร็จแล้วฉันก็หยิบตะกร้าผ้าของสามหนุ่มออกมาซักด้วยเครื่องซักผ้าอัตโนมือ ทั้งแปรง ทั้งขยี้ เอาตีนขยำบอกเลยว่าโคตรสนุก แฟ๊บเนี่ยมันพัฒนานะ อยู่บ้านนอกไม่มีหรอกแฟ๊บน้ำมีแต่แฟ๊บผง ไอ้น้ำยาปรับผ้านุ่มนี่ก็เหมือนกัน ปกติซื้อร้านยี่สิบบาททุกอย่าง กลิ่นไม่ค่อยหอม แต่รู้สึกว่าบ้านหลังนี้จะมีหลายกลิ่น มันหอมไปหมดทุกกลิ่น เพราะฉะนั้นฉันก็ต้องเอาทุกกลิ่นมารวมกันคล้าย ๆ มิกซ์เบอร์รี ทำงานบ้านเสร็จฉันก็เดินมาดูหน้าบ้าน ไม่ทันที่ฉันจะลากสายยางมาล้างรถเสียงของพี่ไนท์ก็ตะโกนลงมาจากชั้นสอง เขาสั่งให้ฉันหยุดการกระทำเดี๋ยวนี้ "ยัยบ้านนอก! หยุดเดี๋ยวนี้นะ เธอเอาอะไรมาล้างรถฉัน!" "แฟ๊บไง" ฉันตะโกนกลับไป ไม่ใช่แค่พี่ไนท์ที่ตกใจเพราะพี่ริวกับพี่ภีมก็วิ่งลงมาเหมือนกัน เขารีบมาดูสภาพรถของตัวเอง โชคดีที่ฉันยังไม่ได้ลงน้ำยาแต่ว่า... "เดี๋ยวทำไมผ้าฉัน..." "ผ้ากู!" "พี่ริวกับพี่ไนท์ตกใจอะไรคะ ก็ผ้าในตะกร้าสีมันซีด ๆ ฉันก็เลยย้อมให้ค่ะ แต่มีแค่สีเหลืองนะ" "ฮะ!" "ส่วนของพี่ภีมส่วนใหญ่เป็นผ้าขาว ฉันใช้ไฮเตอร์ลงให้แล้วค่ะ ขาวยันกระดุมเลยแฮ่ ๆ" ทั้งสามหันมามองหน้าฉัน เขาคงภูมิใจในตัวฉันสิท่า แต่ละคนมองฉันตาเขียวปั๊ดเลยอะ "ไม่ต้องขอบคุณนะคะมันเป็นหน้าที่ที่ฉันต้องทำ เดี๋ยวที่หลับที่นอนรอสาว ๆ ของพวกที่ลงมา ฉันจะขึ้นไปเก็บทำความสะอาดห้องให้ค่ะ" "เธอรู้ไหมว่าเสื้อฉันกับไอ้ริวราคาเท่าไหร่ ตัวหนึ่งไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท!" "ผ้าแบบนี้ตลาดนัดแถวบ้านฉันตัวละ 199 บาทค่ะ" ปรี๊ดดด ดูเหมือนว่าทั้งสามหนุ่มจะออกอาการไม่พอใจแต่ทำอะไรไม่ได้ พวกเขาเข้ามานั่งในบ้านเพื่อพิจารณาตำแหน่งงานนี้ใหม่แต่เจ้าตัวยังสนุกสนานกับการกวาดหน้าบ้าน พร้อมกับร้องเพลงม่วน ๆ อยู่คนเดียว "ไอ้หมอมึงต้องรับผิดชอบเอายัยบ้านนอกออกไปจากบ้านเดี๋ยวนี้ แค่วันเดียวก็ฉิบหายพอแล้ว!" "ไอ้ไนท์พูดถูก เสื้อผ้ากูซื้อใหม่ได้แต่ถ้ารถกูเป็นอะไรไปมึงจะรับผิดชอบได้ไหม" "เออเดี๋ยวกูจัดการเอง" ในขณะที่ฉันกำลังกวาดเศษใบไม้พี่ภีมเดินออกมาเรียกฉันเพื่อคุยเรื่องธุระสำคัญ ฉันจึงเดินตามเข้ามานั่งในบ้านพร้อมกับยิ้มให้ทุกคน "จะให้เงินเดือนใช่ไหมคะ ขอบคุณค่ะ" "พวกฉันสามคนคุยกันแล้ว เธอมาวันแรกก็สร้างความเดือดร้อนให้พวกฉัน อันนี้เงินฉันให้ 2,000 บาท เธอไปหาที่อยู่ใหม่เถอะ พวกฉันคงรับเธอมาอยู่ในบ้านหลังนี้ไม่ได้" "อ้าว! พวกพี่จะไล่ฉันออกจากบ้านใช่ไหม แล้วฉันจะไปอยู่ที่ไหน เงินฉันก็ไม่มีฉันจะไปอยู่ยังไง ฉันก็หวังมาพึ่งใบบุญพวกพี่ อย่างน้อยก็มีที่อยู่ที่อาศัย ฮึก! ทำไมพวกพี่ใจร้าย ฉันทำอะไรให้ไม่ถูกใจหรือเปล่า บอกฉันตรง ๆ สิพูดมาเลยแต่อย่ามาทำแบบนี้ ฉันต้องประหยัดเงินหางานพิเศษทำเพื่อส่งเงินไปให้ครอบครัว มะขวิดมันก็เป็นมะเร็งฉันต้องหาเงินรักษามันฮือออ" ทั้งสามดูท่าจะเครียดมากแต่ก็พยายามควบคุมสถานการณ์ไม่ให้มันเลวร้ายไปมากกว่านี้ "เอางี้ พวกเสื้อผ้าอะไรพวกนี้เริ่มใหม่ เธอไม่ต้องย้อมสีอะไรทั้งนั้น เวลาซักช่วยแยกผ้าด้วย ถ้าทำไม่ได้เดี๋ยวมีคนรับจ้างซักผ้ามารับทุก ๆ สองวันอยู่แล้ว งานในบ้านก็ทำเหมือนเดิมแต่อย่าสร้างความเดือดร้อนให้ใคร พวกมึงสองคนไม่ไหวก็ไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายเดี๋ยวค่าจ้างของข้าวตังกูรับผิดชอบเอง" "เรื่องของมึงเอาที่มึงสบายใจ ไอ้ริวมึงจะไปส่งเด็กมึงเมื่อไหร่" "ไม่รู้ป่านนี้ตื่นหรือยัง กูมีเรียนตอนสิบโมงถ้าไม่ตื่นเดี๋ยวกูทิ้งตังค์ค่ารถไว้ให้" "พี่ภีมฉันขอบคุณพี่มาก ๆ เลยนะที่เมตตาฉัน อีมะขวิดมันคงดีใจ อย่างน้อยฉันก็มีเงินส่งไปให้มันรักษาโรคมะเร็ง" "ฉันเข้าใจ ว่าแต่มะขวิดนี่เป็นใคร น้องสาวเหรอ" "งูแมวเซาที่บ้านฉันเอง ฉันตั้งชื่อมันว่าอีมะขวิด" "___"!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD