แฟนจำเป็น 2

1951 Words
แคทเธอรีนนั่งกุมมือตัวเองอย่างข่มความตื่นเต้นตลอดเวลาที่นั่งรถมากับทรรศนัย เพราะเขาบอกว่าจะพาเธอมาพบกับผู้เป็นย่าที่ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลและอยากเจอเธอมาก แม้จะหวั่นใจแต่เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เพราะถือว่าตัวเองมีส่วนผิดที่ทำอะไรไม่คิดให้ดีก่อน ถือเสียว่านี่คือสิ่งที่เธอต้องรับผิดชอบด้วยการทำให้ย่าของเขาสบายใจและหายป่วยโดยเร็ว ส่วนผู้จัดการส่วนตัวของเธอนั้นไม่ต้องพูดถึง เมื่อทรรศนัยเอ่ยปากว่าจะพาเธอไปพบกับย่าของเขา เก๋ไก๋ก็แทบจะยกเธอใส่พานให้ เพราะรายนั้นแสดงตัวชัดเจนว่าเชียร์ทรรศนัย “ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นก็ได้ คุณย่าผมท่านไม่ใช่ยักษ์ใช่มาร แถมท่านยังเป็นแฟนคลับตัวยงของคุณ ไม่มีอะไรต้องกลัวเลยสักนิดนะเคท” ทรรศนัยปลอบเมื่อเห็นว่าแคทเธอรีนนั่งนิ่งเงียบด้วยท่าทางเคร่งเครียดมาตลอดทาง ตั้งแต่ออกจากห้างสรรพสินค้าที่จัดงานมา “เป็นใครจะไม่เกร็งล่ะคะ จู่ๆ เคทก็ต้องมารับบทเป็นแฟนกำมะลอของคุณ แถมยังต้องไปโกหกญาติผู้ใหญ่ของคุณอีก เคทรู้สึกไม่ดียังไงก็ไม่รู้” “ใครบอกว่าโกหก ถึงตอนนี้คุณจะยังไม่ได้รับผมเป็นแฟน แต่ผมบอกแล้วไงว่าจะเดินหน้าจีบคุณเต็มที่จนกว่าคุณจะใจอ่อน และถ้าผมทำสำเร็จตำแหน่งแฟนมันก็เป็นของคุณจริงๆ” แคทเธอรีนเม้มปากเพราะไม่รู้ว่าจะเถียงอะไร อีกส่วนหนึ่งก็รู้สึกทำหน้าไม่ถูกเมื่อทรรศนัยประกาศโต้งๆ ต่อหน้าว่าจะจีบ “แล้วถ้าคุณย่าคุณถามล่ะคะว่าเราไปคบกันตอนไหน” “เรื่องนั้นผมจัดการเอง คุณมีหน้าที่แค่เอาหน้าสวยๆ ไปให้คุณย่าผมเห็นให้เจริญตาเจริญใจก็พอ” ทรรศนัยพาแคทเธอรีนมายังโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง และตลอดทางที่เขาเดินจูงมือหญิงสาวเข้ามาก็ตกเป็นเป้าสายตาของคนที่มาใช้บริการและเจ้าหน้าที่ทันที ชายหนุ่มส่งยิ้มตอบคนเหล่านั้นอย่างไม่มีเก้อเขิน เห็นอย่างนั้นแคทเธอรีนเองก็สวมบทบาทคนของประชาชน ส่งยิ้มตอบกลับไปเช่นกัน แต่เมื่อเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยแคทเธอรีนก็ต้องอึ้งอีกรอบ เมื่อพบว่าไม่ได้มีแค่คุณหญิงเบญจมาศผู้เป็นย่าของเขาเท่านั้น แต่ยังมีคุณหญิงหญิงนัยนามารดาของเขาอยู่ด้วย ทรรศนัยบีบมือเธอเบาๆ เป็นการให้กำลังใจเมื่อก้าวเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยวีไอพี “สวัสดีครับ คุณย่า ดูซิว่าผมพาใครมาด้วย” ทรรศนัยยืนบังเธอเอาไว้ คนป่วยที่นอนอยู่บนเตียงจึงยังไม่เห็น “ใครกันล่ะ” เสียงแหบพร่าตอบกลับมา ทรรศนัยจึงดึงเธอออกมายืนข้างๆ “ผมพาขวัญใจของคุณย่ามาหาครับ นี่คุณหญิงเบญจมาศ คุณย่าของผมครับ ส่วนนี่คุณหญิงนัยนา คุณแม่ที่สวยและใจดีที่สุดในโลกของผม” ทรรศนัยแนะนำผู้เป็นย่าและมารดาให้แคทเธอรีนได้รู้จัก “สวัสดีค่ะ” แคทเธอรีนยกมือไหว้คุณหญิงเบญจมาศที่กึงนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงอย่างนอบน้อม และหันไปยกมือไหว้มารดาของเขาที่นั่งอยู่ที่โซฟาด้วยอีกคน “หนูเคท หนูเคทจริงๆ ด้วย” คนป่วยบนเตียงออกอาการดีใจเป็นอย่างมาก “มาใกล้ๆ ย่าหน่อยลูก” แคทเธอรีนเดินเข้าไปยืนชิดเตียงคนป่วย เมื่อมาเห็นท่านใกล้ๆ เธอก็เห็นเค้าลางความงามของท่านได้อย่างชัดเจน แม้จะอายุมากแล้วก็ไม่อาจทำลายความงดงามในอดีตให้หมดไปได้ “สวยมาก สวยจริงๆ นี่ย่าไม่ได้ฝันไปใช่ไหม” “คุณย่าก็ลองจับดูสิครับ ว่านี่ใช่เคทตัวจริงเสียงจริงหรือเปล่า” คุณหญิงเบญจมาศเอื้อมมือมาจับมือนุ่มนิ่มของแคทเธอรีนเอาไว้อย่างตื่นเต้นที่ได้เห็นขวัญใจตัวเองนอกจอแบบตัวเป็นๆ แถมยังดีใจคูณสองเมื่อหญิงสาวมาในฐานะแฟนสาวของหลานชาย “นี่เราไม่ได้ไปล่อลวงอะไรหนูเคทเขามาใช่ไหม” คำถามนั้นทำเอาทรรศนัยสะดุ้ง แต่กลบเกลื่อนได้อย่างแนบเนียน ส่วนแคทเธอรีนแอบยิ้มกับอาการรีบแก้ตัวของเขา “โถ่ คุณย่าครับ ทำไมมองผมในแง่ร้ายแบบนั้น” “จะไปรู้เหรอ ก็เราน่ะมันร้ายจะตาย ย่าก็กลัวว่าหนูเคทจะหลงกลคนกะล่อนอย่างทรรศเข้าน่ะสิ” “คุณย่าเผาผมต่อหน้าแฟนผมแบบนี้ก็แย่สิครับ” “เผาอะไรเรื่องจริงทั้งนั้น เราน่ะมันกะล่อนเป็นที่หนึ่ง นี่ย่าขอบอกไว้เลยนะว่าอย่าได้บังอาจมาทำให้หนูเคทของย่าเสียใจเชียว” “โอ้โห นี่ยังไม่ทันไรผมก็เป็นหมาหัวเน่าแล้วเหรอครับเนี่ย” “ถ้าดูแลหนูเคทดีก็ไม่เน่า” “โถ่ คุณย่า” “ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวเรานะจ๊ะหนูเคท” คุณหญิงนัยนามารดาของทรรศนัยกล่าวต้อนรับเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้มทำให้เธอหายเกร็งไปได้มาก “ขอบคุณค่ะ เคทขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” แคทเธอรีนยกมือไหว้อย่างนอบน้อม แม้จะเกิดและเติบโตที่ต่างประเทศ แต่มารดาก็อบรมสั่งสอนเรื่องกิริยามารยาทเธอเป็นอย่างดี “วันหลังพาหนูเคทไปที่บ้านสิลูก จะได้เจอคุณพ่อกับพี่ๆ ด้วย” “เอาไว้เคทว่างแล้วผมจะพาไปนะครับ คุณแม่น่าจะรู้ว่าเคทน่ะงานเยอะขนาดไหน นี่วันนี้ผมต้องชิงตัวมาจากงานเดินแบบเลยนะครับ” “ได้จ้ะ แม่ดีใจนะที่ลูกชายตัวร้ายของแม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเขาสักที ฝากหนูเคทด้วยนะ ถ้าลูกชายแม่ออกนอกลู่นอกทางบอกแม่ได้เลย เดี๋ยวแม่จัดการให้” “โอ้โห นี่เจอกันวันแรกทั้งคุณแม่และคุณย่าก็พร้อมใจกันอยู่ทีมเคทกันหมดแล้วเหรอครับ” “แน่นอนสิ แม่เลี้ยงลูกมาทำไมจะไม่รู้ว่าลูกแม่น่ะร้ายแค่ไหน” “เอ่อ ผมว่าผมพาเคทกลับก่อนดีกว่าครับ เคทเพิ่งเสร็จจากงานเดินแบบคงอยากพักผ่อนแล้ว” “คุณย่าหายไวๆ นะคะ เดี๋ยวเคทจะมาเยี่ยมใหม่” “โอ๊ย คงไม่ต้องมาเยี่ยมแล้วล่ะจ้ะ ย่าเป็นแค่ไข้หวัดใหญ่ พรุ่งนี้ก็น่าจะกลับบ้านได้แล้ว พูดแล้วจะหาว่าโม้ ร้อยวันพันปีย่าน่ะแข็งแรงจะตาย ไม่เคยจะป่วยอะไรกับเขาหรอก ครั้งนี้กลับมาป่วยเสียได้เล่นเอาตกอกตกใจกันทั้งบ้าน ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว เจอกันครั้งหน้าที่บ้านเลยนะลูก” คำตอบของคุณหญิงเบญจมาศทำให้แคทเธอรีนหันขวับไปมอง ทรรศนัยที่ส่งยิ้มเจื่อนๆ มาให้เพราะรู้ตัวว่างานเข้าตัวเองแล้ว “ถ้างั้นผมกลับก่อนนะครับ” ทรรศนัยรีบบอกลาผู้เป็นย่าทันที เพราะสถานการณ์ตอนนี้เขาได้เพลี่ยงพล้ำเสียแล้ว “เคทกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ” เมื่อขึ้นมาบนรถแคทเธอรีนก็ยิงคำถามใส่คนต้นเรื่องทันที “มีอะไรจะอธิบายไหมคะ” “เรื่องอะไรเหรอครับ” ทรรศนัยตีหน้าตายยิ่งทำให้แคทเธอรีนหมั่นไส้ “ไม่ต้องมาทำไขสือ คุณน่ะมันร้ายอย่างที่คุณย่ากับคุณแม่คุณบอกจริงๆ ด้วย” “ผมทำอะไรครับ” “คุณจงใจพูดให้เคทเข้าใจผิดว่าคุณย่าคุณกำลังป่วยหนัก ทำให้เคทต้องเออออเป็นแฟนกับคุณเพราะกลัวคุณย่าจะอาการทรุด” “ผมก็แค่กลัววว่าท่านจะผิดหวังจนไข้ขึ้นแล้วอาการแย่ต่างหากล่ะครับ” คำตอบหน้าตายนั้นทำเอาแคทเธอรีนอดใจไม่ไหวหยิกเข้าที่ต้นแขนคนกะล่อนหลายๆ ที “โอ๊ยๆๆๆ เคท ผมเจ็บนะครับ” “เจ็บสิดี คนกะล่อนอย่างคุณน่ะ แค่นี้ยังน้อยไป” “ผมขอโทษ” เมื่อรู้ว่าแกล้งทำตีมึนไปก็ไม่ได้ผล ทรรศนัยจึงเปลี่ยนมาเข้าโหมดจริงจัง “คุณทำแบบนี้ทำไมคะ” “เพราะผมชอบคุณ” “เรารู้จักกันมาตั้งนาน ทำไมคุณถึงเพิ่งจะมารู้สึกชอบเคทคะ” “ก็ที่ผ่านมาผมไม่เคยจูบกับคุณนี่ ตั้งแต่โดนจู่โจมคืนนั้น คุณทำผมลืมไม่ลงเลยรู้ไหม” “เคทไม่เชื่อหรอก ผู้ชายอย่างคุณน่ะเหรอจะมาหวั่นไหวอะไรกับแค่จูบ พนันได้เลยว่าอย่างคุณน่ะ คงจูบมาไม่รู้กี่คนแล้ว” “อันนี้ไม่เถียงครับ แต่ไม่เคยมีใครทำให้ผมประทับใจได้เท่าคุณเลย ผมรู้สึกได้ถึงแรงดึดดูดบางอย่างระหว่างเรา คุณไม่รู้สึกเหรอ” ทรรศนัยถามพร้อมสบตาแคทเธอรีนอย่างค้นหาคำตอบ และเป็นหญิงสาวเองที่ไม่อาจต้านทานสายตาทรงเสน่ห์ของเขาได้ “ถ้าคุณอยากจีบเคทก็จีบเหมือนคนอื่นๆ สิคะ ทำไมต้องใช้วิธีนี้มามัดมือชกเคทให้ยอมเป็นแฟนคุณด้วย” “อันนี้ผมยอมรับผิดว่าเป็นความเห็นแก่ตัวของผมเอง ผมไม่อยากให้ใครมายุ่งกับคุณ ผมจะจีบคุณเองโดยไม่มีไอ้หน้าไหนมาวุ่นวาย” “ขี้โกง นอกจากจะขี้โกงแล้วยังตัดโอกาสเคทอีก แบบนี้ใครที่ไหนจะกล้ามาจีบเคทคะ” “ก่อนจะห่วงเรื่องนั้น ผมถามคุณหน่อยเถอะว่า ถ้าผมไม่บอกว่าเรากำลังคบกัน คุณจะแก้ปัญหานี้ยังไง หรือคุณจะบอกนักข่าวว่าอ๋อ เคทแค่จูบกับคุณทรรศนัยเฉยๆ สนุกๆ แต่เราไม่ได้เป็นอะไรกันค่ะ แบบนี้อะเหรอ แล้วไหนจะผู้หญิงคนนั้นที่แย่งแฟนคุณไปนั่นอีก รับรองได้ว่าคุณโดนเจ้าหล่อนเล่นงานยับเยินแน่” ทรรศนัยรู้สึกฉุนนิดๆ กับการที่ แคทเธอรีนกลัวว่าจะไม่มีผู้ชายมาจีบจึงพูดออกไปตามตรง และนั่นคือความจริงที่หญิงสาวเถียงไม่ออกเลยสักนิด “เชอะ” แม้จะรู้ว่าเธอแพ้ในการถกเถียงครั้งนี้ แต่แคทเธอรีนก็นั่งหน้าเชิดกอดอกอย่างวางฟอร์ม หญิงสาวเผลอทำปากยื่นราวกับเด็กน้อยโดนขัดใจ นั่นทำให้อารมณ์ที่กรุ่นๆ ของทรรศนัยดีขึ้นและยอมเป็นฝ่ายง้อเสียเอง “เอาเป็นว่าผมขอโทษที่โกหกหรือจงใจทำให้คุณเข้าใจผิดเรื่องคุณย่า แต่เรื่องจีบคุณผมจริงจังและจริงใจ แต่ถ้าผมไม่สามารถทำให้คุณใจอ่อนยอมรับผมเป็นแฟนได้ หลังจากนั้นคุณจะจัดการเรื่องนี้ยังไง ผมจะยอมคุณทุกอย่างเลย” “แน่นะคะ” “คนอย่างผมทรรศนัย ธนบดี พูดคำไหนคำนั้น” “ก็ได้ค่ะ คุณอยากจีบเคทก็จะให้จีบ แต่จะสำเร็จไหมไม่รู้นะคะ” “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ผมว่าสำเร็จแน่นอน” “หลงตัวเอง” แคทเธอรีนทำปากขมุบขมิบว่าเขาเบาๆ แต่คนหูดีก็ยังได้ยิน “ไม่นะครับ ปกติมีแต่คนอื่นมาหลงตลอดเลย แต่ตอนนี้ดูเหมือนผมกำลังจะเป็นฝ่ายหลงเสียแล้วสิ” แคทเธอรีนย่นจมูกใส่คนข้างๆ อย่างหมั่นไส้ที่เขาเริ่มหยอดเธอทันที ตามประสาพวกผู้ชายเจ้าชู้ที่มีลูกเล่นแพราวพราว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD