ตอนที่ 7 แปลก

1222 Words
เสียงร้องเพลงที่ดังมาจากห้องครัว บ่งบอกว่าผู้ร้องอารมณ์ดี “โบราณว่าร้องเพลงในครัวจะได้สามีแก่นะ” “มิน่า คุณแม่ถึงได้คุณพ่อเป็นสามี เพราะไม่เคยร้องเพลงในครัว” “เข้าตัวเลยเห็นไหมคุณ” พิริยะโอบไหล่ภรรยาที่อายุมากกว่าตน 2 ปี “คุณมาจีบเอ๋เองนะ” ลลิตาแทนตัวเองด้วยชื่อเล่นกับสามี “แต่คุณบอกรักผมก่อนนะ” “คุณพิริยะ” หากภรรยาเริ่มเรียกชื่อจริง บอกให้รู้ว่าจะงอนแล้วนะ แม้จะเป็นครอบครัวที่แทบไม่มีเวลาให้กันเลย แต่ทุกครั้งที่อยู่พร้อมหน้า พริมาก็รับรู้ถึงความรักความอบอุ่น “กระเป๋าเดินทางหลายใบแบบนี้ จะไม่อยู่บ้านกันหลายวันแน่เลย” พริมามองแม่บ้านยกกระเป๋าเดินทางของพ่อแม่ออกไป ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่พ่อแม่จะไปราชการครั้งละหลายวัน พร้อมกันบ้าง ไม่พร้อมกันบ้าง “ไม่ได้อ่านโน้ตที่แม่แปะไว้ล่ะสิ” ทุกครั้งที่ต้องไปต่างประเทศ ลลิตาจะเขียนโน๊ตแปะไว้ที่โต๊ะเครื่องแป้งของลูกสาว “กลับจากมหาลัยก็หลับเลยค่ะ” ความอ่อนเพลียจากอดนอนและตื่นแต่เช้า บวกกับความเหนื่อยล้าจากกิจกรรมรับน้อง ทำให้พริมาหลับไปทั้งชุดนักศึกษา และสะดุ้งตื่นกลางดึง จึงอาบน้ำแล้วกลับมานอนต่อ ไม่ได้สนใจที่จะทาครีมบำรุงผิว “แม่ต้องไปประชุมที่ซานฟรานซิสโก ส่วนคุณพ่อก็ต้องไปจีน” “โอเคค่ะ” “เรื่องคอนโดฯ ถ้าพริกหาที่ถูกใจได้ก็บอกพ่อนะลูก” “คุณพ่อยอมให้พริกไปอยู่คอนโดฯ แล้วเหรอคะ” พริมาเคยขอพ่อกับแม่ไปอยู่คอนโดมิเนียมตั้งแต่รู้ว่าสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบ จนนึกว่าพ่อแม่ไม่อนุญาตไปแล้ว “แม่กับคุณพ่อขอโทษพริกนะลูกที่ไม่เคยมีเวลาให้เลย ไม่เคยแม้แต่ทำหน้าที่แม่กับพ่อยามที่โรงเรียนมีกิจกรรม หากนี่เป็นความต้องการของพริก แม่กับคุณพ่อก็จะให้” ด้วยหน้าที่การงานทำให้ลลิตากับพิริยะรู้สึกผิดต่อลูกสาวเสมอมาที่ไม่มีเวลาให้ “คุณแม่กับคุณพ่อจะขอโทษพริกทำไมคะ พริกไม่เคยโกรธคุณพ่อคุณแม่เลยนะคะ” “มันเป็นความรู้สึกผิดของพ่อกับคุณแม่ที่มีต่อลูกสาวคนเดียวมาตลอด ที่ทำหน้าที่พ่อแม่ได้ไม่ดี” “แต่คุณพ่อกับคุณแม่เป็นความภูมิใจของพริกนะคะ” “พริกก็เป็นความภูมิใจของแม่กับคุณพ่อนะลูก ว่าแต่วันนี้ตื่นแต่เช้ามาทำอาหารให้หนุ่มคนเดิมอีกแล้วใช่ไหม” “ลูกสาวพ่อมีแฟนแล้วเหรอ” พิริยะถือเป็นพ่อสมัยใหม่ที่เข้าใจ และเปิดใจรับได้หากลูกสาวจะคบหากับใครสักคน ส่วนความเป็นห่วงนั้นย่อมมีแน่นอน หากใครคิดจะมารักแกแก้วตาดวงใจ เขาก็พร้อมปกป้อง และจัดการให้ถึงที่สุด “ยังค่ะ” “ยังจีบเขาไม่ติด?” “ต้องบอกว่าเขายังไม่รู้ว่าพริกจีบมากกว่าค่ะ” “ทำอาหารไปให้เขาทาน แต่ไม่ยอมบอกว่าตัวเองเป็นคนทำ แล้ววันนี้ก็ตื่นแต่เช้ามาเคี่ยวโจ๊กให้เขาอีก” ลลิตาเห็นถึงความตั้งใจของลูกสาว แสดงว่าผู้ชายคนนี้ต้องพิเศษมากๆ เพราะการจะทำให้โจ๊กนุ่มเนียนข้น ไม่คืนตัว ต้องเคี่ยวข้าวด้วยไฟแรง เพื่อช่วยให้ข้าวข้นได้เร็ว หลังจากข้าวข้นแล้วจึงค่อยๆ เติมน้ำซุป เคี่ยวด้วยไฟอ่อนอย่างใจเย็น จนได้เนื้อข้าวเนียนนุ่ม ไม่แยกชั้น “คุณแม่พูดอย่างกับตาเห็นแหนะ” “ที่พริกกำลังทำ ก็เหมือนที่คุณพ่อทำตอนหนุ่มๆ” ช่วงจีบกันใหม่ๆ สามีก็ทำอาหารมาให้ โดยฝากมากับเพื่อนร่วมงาน เหมือนที่ลูกสาวกำลังทำอยู่ตอนนี้ “ก็ผมกลัวว่าถ้าคุณรู้ว่าผมทำ คุณจะไม่ทาน” “พริกก็คิดแบบนี้ใช่ไหมลูก” “ค่ะ” พริมาไม่ปฏิเสธที่แม่พูด เพราะเธอกลัวจริงๆ กลัวว่าเขาจะไม่ไยดีอาหารที่เธอทำ “เหมือนกันไม่มีผิดพ่อลูกคู่นี้” ลลิตายิ้มและส่ายหน้าน้อยๆ ให้กับนิสัยที่ถอดแบบกันมาของพ่อลูก มหาวิทยาลัย “เมนูธรรมดา...” เพียงประโยคแรกที่กวินธิดาถ่ายทอดความรู้สึกที่อคิราห์ได้ลิ้มรสโจ๊กหมูเด้งผ่านข้อความที่กวินภพส่งมา พริมาก็ทำหน้าผิดหวัง “ใจร่มๆ นะพริก มดอ่านเร็วๆ สิ” ภาคภูมิโอบไหล่คอยปลอบเพื่อน “ตกลงพริกอยากรู้หรือแคนดี้อยากรู้” “แคนกลัวพริกจะเป็นลม” “แคนดี้ก็เว่อร์ พริกไม่เป็นลมเพราะเรื่องแค่นี้หรอก มดอ่านต่อสิ” “เมนูธรรมดา แต่ทำออกมาได้ดี ข้าวก็เนียนนุ่ม เนื้อหมูทั้งนุ่มทั้งเด้ง อร่อย” กวินธิดาอ่านข้อความจากพี่ชายให้เพื่อนฟัง แล้วพริมาก็เริ่มยิ้มได้ “หน้าบานเป็นดอกทานตะวันมากจ้ะ” จากเห็นใจ ภาคภูมิก็เริ่มหมั่นไส้ความยิ้มหน้าบานของเพื่อนที่วันนี้ได้รับคำชมจากผู้ชายที่แอบชอบ “วันนี้พริกจะตั้งใจเรียน ไปกันเถอะ” หัวใจพริมาพองฟู ราวกับอคิราห์มาวิ่งวนในหัวใจ “เป็นเอามากนะเพื่อนเรา” กวินธิดามองตามเพื่อนที่กำลังล่องลอยอยู่ในห้วงอารมณ์แห่งรัก “แล้วเราก็คงต้องลุ้นไปกับเพื่อนทุกวัน” ภาคภูมิมั่นใจว่าพริมาต้องทำอาหารมาให้รุ่นพี่ที่แอบชอบทุกวันแน่นอน และต้องร่วมลุ้นไปกับเพื่อนว่าเขาจะชอบอาหารที่เพื่อนทำไหม กวินธิดาพยักเห็นด้วย “นี่ จะไม่ขึ้นเรียนกันหรือไง” เสียงตะโกนของพริมา เมื่อเพื่อนทั้งสองไม่ตามมาสักที “เรียนสิ” กวินธิดากับภาคภูมิคว้ากระเป๋าแล้วตามเพื่อนเข้าห้องเรียน พริมาตื่นแต่เช้ามาทำอาหารทุกวัน ทำอย่างตั้งใจ และมีความสุขที่ได้ทำอาหารให้อคิราห์รับประทาน ไม่ว่าจะเป็นคำติชมใดจากเขาเธอก็พร้อมรับด้วยความยินดี Ecio Bar (ร้านแฮงค์เอ้าท์ สไตล์ pub and restaurant ของไตรทศ) “มึงว่าที่มดเอาอาหารมาให้ทุกเช้ามันแปลกๆ ไหมวะ” แม้กวินธิดาจะเป็นน้องสาวเพื่อน แต่การนำอาหารมาให้ทุกเช้า แล้วเผื่อแผ่มาถึงพวกตน ไตรทศเริ่มรู้สึกว่ามันแปลกๆ “มึงนี่ความรู้สึกช้าจริงๆ” อคิราห์รู้สึกว่ามันแปลกตั้งแต่ครั้งแรกที่กวินภพถามเรื่องรสชาติอาหารกับเขา “แสดงว่ามึงก็รู้สึกมานานแล้วว่ามันแปลก หรือว่ามดจะชอบมึงวะ” ไตรทศสันนิษฐาน “อาหารพวกนั้นมดไม่ได้เป็นคนทำ” “ไอ้ต่อก็บอกอยู่ว่ามดซื้อมาฝาก” “มึงนี่ความรู้สึกช้าแล้วยังจะฉลาดน้อยอีกนะ” “เอ้า ว่ากูโง่อีก มึงรู้อะไรก็พูดมา” “มดก็แค่...” อคิราห์ชะงักเมื่อต้องสบสายตากับผู้หญิงที่เคยเป็นลมหมดสติต่อหน้าเขา และในวันเดียวกัน เธอยังเดินมาชนเขา ในโรงแรมของเขา และหากเขาคว้าไว้ไม่ทัน เธอคงได้ล้มหงายหลังกระแทกพื้นไปแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD