“แล้วฉันต้องเรียกคุณว่าอะไรคะ เจ้านาย บอส หรือให้เรียกชื่อ แล้วหน้าที่ฉันคือต้องทำอะไรบ้าง ”
เธอถามขึ้นอย่างสนใจ มีงานให้ทำคือที่สุด
“ก็เป็นผู้ช่วยทั่วไปนั่นแหละ ช่วยงานทุกอย่าง”
พอได้ยินคำตอบนับดาวถึงกับคิ้วขมวด
“มันมีตำแหน่งแบบนี้ด้วยเหรอคะ ”
“มีสิ สงสัยมากรึจะไม่ทำ”
“ทำค่ะทำ ”
ถึงจะยังไม่เข้าใจมาก แต่ก็ไม่อยากเซ้าซี้อะไรต่อ เป็นแค่ลูกจ้างจะอะไรมาก
“แล้วสรุป ฉันต้องเรียกคุณว่าอะไรคะ ”
“เรียกชื่อก็พอ ”
นับดาวพยักหน้ารับก่อนถามต่อ
“แล้วคุณชื่ออะไรคะ จะได้เรียกถูก”
เด็กนี่ทำหน้าซื่อถามเขาตาใสแป๋ว น่าหงุดหงิดที่สุด มีใครไม่รู้จักเจ้าของผับสุดหล่อที่ชื่อฮันเตอร์บ้าง
“ฮันเตอร์ ”
เขาตอบเธอสั้นๆ
“ค่ะ คุณฮันเตอร์ ”
นับดาวยิ้มแห้งๆให้เขาไปหนึ่งที และคิดว่าเขาคงจำตัวเองไม่ได้ ฮันเตอร์ดูไม่มีพิรุจอะไรเลยซักนิด
“พร้อมเริ่มงานเลยรึเปล่า ”
เขาถามเสียงเรียบ
“วันนี้เลยเหรอคะ ดะ ได้ค่ะได้ ฉันพร้อมทำงานอยู่แล้ว ”
หลังจากตกลงกันได้ เขาก็สั่งลูกน้องยกโต๊ะทำงานเข้ามา ฉลามกับกวินทร์ก็งงกับเจ้านาย ว่าร้อยวันพันปีก็ไม่เคยมีตำแหน่งนี้ แค่พวกเขาสองคนก็เกินพอ แต่พอเห็นหน้าสาวน้อยในห้องเจ้านายแค่นั้นแหละถึงกับอ้อกันเลยทีเดียว
“นี่ครับเจ้านาย โต๊ะทำงานผู้ช่วยคนสวย
พี่ชื่อฉลามนะครับ ส่วนคนนี้กวินทร์”
ฉลามเอ่ยแซวพร้อมเอ่ยทักทายและยังไม่ยอมออกไปซักที
“สวัสดีค่ะ เรียกหนูว่านับดาวก็ได้ ”
นับดาวแนะนำตัวอย่างเป็นกันเอง และส่งยิ้มละมุนให้ลูกน้องเขา
“เสร็จธุระแล้วก็ออกไปสิ ”
ฉลามหุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อได้ยินเสียงดุของเจ้านาย
“ครับเจ้านาย ไปเดี๋ยวนี้ครับ”
นับดาวหันไปมองหน้าหล่อแต่ดุของเจ้านายอย่างไม่เข้าใจ ‘แล้วจะพูดดุใส่พี่เขาทำไม ’
“ยืนมองอะไร มานั่งสิจะได้ทำงาน ”
นั่นไง ดุเธอเพิ่มอีกคนแล้ว เธอรีบเดินมานั่งและรอรับคำสั่งจากเจ้านาย
“ไปชงกาแฟมาให้ผมก่อนแล้วค่อยเริ่มงาน ถ้าคุณจะดื่มก็ชงได้เลย เดินออกประตูเล็กไปจะเป็นที่ชงกาแฟและเครื่องดื่ม ผมเอากาแฟดำนะ”
นับดาวมองไปประตูเล็กด้านข้าง ก่อนลุกเดินออกไป และกลับมาพร้อมแก้วกาแฟในมือ
“ได้แล้วค่ะ ”
เธอวางกาแฟไว้ตรงหน้าเขาพร้อมยิ้มบาง การเป็นผู้ช่วยเขามันก็ดีอยู่นะจะว่าไป
นับดาวยืนเกร็งๆมองเขายกแก้วกาแฟขึ้นจิบ
เพียงอึกแรก เสียงไอเกือบสำลักก็ดังขึ้นทันที
“แค่กๆ…คุณชงกาแฟอะไรของคุณ!!”
เสียงทุ้มดุถามขึ้นอย่างหงุดหงิดทำเอาเธอสะดุ้งเฮือก
“อะ…เอ่อ ขอโทษค่ะ ฉันกลัวมันขมเลยใส่น้ำตาลลงไปนิดนึง”
เธอเอามือจิกที่ปลายนิ้วชี้ ว่าเธอใส่น้ำตาลนิดนึงจริงๆ
“นี่เรียกว่านิดเหรอ” เขาวางแก้วลงดัง กึก สายตาคมตวัดมองเธออย่างหงุดหงิด
“ชงไม่เป็นแล้วทำไมไม่ถามก่อน”
นับดาวหน้าเสีย ก้มหน้างุด ไม่กล้าสบตา “ขอโทษค่ะ”
เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที ก่อนก้าวไปที่ประตูเล็กด้านข้างแล้วหันกลับมาเรียกเสียงเข้ม
“ตามมา จะสอนให้ชงแบบที่ผมดื่ม”
นับดาวรีบก้าวตามอย่างว่าง่าย แล้วเดินตามเขาไปติดๆ
ถึงเคาน์เตอร์ชงกาแฟ เขาหยิบแก้วใหม่มากดน้ำร้อน เทผงกาแฟดำลงไปอย่างเรียบง่าย ก่อนคนเบาๆ แล้วเลื่อนแก้วมาตรงหน้าเธอ
“เห็นมั้ย ไม่ต้องใส่อะไรทั้งนั้น กาแฟดำกับน้ำร้อนก็พอ”
น้ำเสียงเรียบเย็น แต่ดวงตาคมยังจับจ้องเธออยู่
นับดาวพยักหน้าแรงๆ
“ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ ”
เขาไม่ตอบ แต่หยิบแก้วกาแฟขึ้นจิบอีกครั้ง
ถ้าไม่ติดว่าสวยนี่โดนไล่กลับบ้านไปแล้ว
“ไปนั่งสิ จะได้ทำงาน ”
นับดาวเดินไปที่โต๊ะทำงานตัวเอง สายตาคมมองตามก้นงอนแล้วยกยิ้มเจ้าเล่ห์ หวนคิดไปถึงคืนเร่าร้อนกับเธอ ไร้ประสบการณ์แต่ทำเขาแทบคลั่ง
“ฟาดก้นซักทีดีไหม”
เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนเดินตามเข้ามาด้านใน
“ช่วยเชคตารางงานให้ผมในแต่ละวัน และคอยแจ้งวันเวลาที่ชัดเจนด้วย เอาไลน์คุณมา ผมคุยงานผ่านไลน์ ”
“เอ่อคุณฮันเตอร์คะ ช่วงนี้ฉันต้องทำโปรเจคจบ
อาจจะสะดวกมาทำงานแค่กลางคืนนะคะ คือคุณจะลดเงินเดือนก็ได้นะคะ ”
นับดาวรีบแจ้งเขาไว้ก่อน ดูจากตารางงานแล้ว เขาไม่ได้ทำงานแค่ที่นี่ แต่ยังมีประชุมผู้ถือหุ้นอีกหลายที่ คนบ้าอะไรจะรวยได้ขนาดนี้
“ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรหนิ ก็รู้ว่าต้องไปเรียน แต่ไปเรียนก็แจ้งผมได้ ไลน์บอกก็ได้หนิ ถูกไหม ”
เขาปรายตามองเธอแค่ครู่ พร้อมกันนั้นนับดาวก็พยักหน้า
“ได้ค่ะ แบบนั้นก็ได้ ”
เขาหน้าดุมากแต่เขากลับเข้าใจทุกอย่างเลย แบบนี้เธอค่อยสบายใจหน่อย นับดาวทำงานจนถึง4ทุ่มก็เริ่มหิว ลืมไปเลยว่าตอนเย็นยังไม่กินอะไร เลยเดินไปหาอะไรในตู้เย็นกิน
“น้ำผลไม้แล้วกัน ”
เธอหยิบน้ำผลไม้เทใส่แก้วแล้วยกขึ้นดื่ม
พรืด! จังหวะจะหันกลับไปไม่ทันระวัง แก้วในมือกระแทกเข้ากับแผงอกกว้างของเจ้านายที่ยืนอยู่ตรงนั้นตอนไหนไม่รู้ น้ำผลไม้สีส้มสดหกเลอะลงบนหน้าอกของเธอ ก่อนจะไหลย้อยลงมาจนเกือบถึงหน้าท้อง
“อ๊ะ…ขอโทษค่ะ!” เธอรีบร้องเสียงหลง
เขาเพียงส่ายหัวเบาๆ แล้วปรายตามองเธอ “ซุ่มซ่าม”
น้ำเสียงนิ่งๆ แต่ทำให้คนฟังแทบอยากมุดดินหนี
จากนั้นเขาก็เปิดตู้เย็น หยิบน้ำดื่มออกมา ก่อนเดินผ่านไปเฉยๆ ทิ้งให้เธอยืนเก้ๆกังๆ กับรอยเปื้อนเลอะเต็มหน้าอก
“เฮ้อ!!!เลอะหมดเลย ”
นับดาวทำหน้าเซ็ง ถอนหายใจยาว มือก็หยิบทิชชู่มาเช็ดอย่างลนลาน แต่เช็ดยังไงก็ไม่หมดสักที คราบน้ำผลไม้ชัดเกินไปจริงๆ
ผ่านไปพักใหญ่ๆ เขากลับเข้ามาพร้อมถุงสีเรียบในมือ ก่อนจะวางลงตรงหน้าเธอแล้วเอ่ยเสียงเรียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ไปเปลี่ยนชุดซะ”
นับดาวชะงัก หัวใจเต้นแรงอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ
“ค่ะ… ขอบคุณค่ะ”
ทันทีที่เขาก้าวออกไป เธอรีบเปิดถุงดู แต่พอเห็นชุดที่อยู่ข้างใน หน้าเธอก็ร้อนผ่าวขึ้นมาทันที ทำเธอแทบอยากจะกรี๊ด
“นี่มัน ชุดที่ฉันนี่ โอ้ย!!นับดาว!!”
มือเรียวกำถุงแน่น ดวงตากะพริบถี่ๆ เหมือนจะปฏิเสธความจริง
“หรือว่า… เขาจำฉันได้แล้ว
แต่เขานิ่งมาก เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยสักนิด”
เธอพึมพำกับตัวเองอายแทบแทรกแผ่นดินหนี
“ไม่จริงหรอก… มันคงเป็นเรื่องบังเอิญ…” เธอพึมพำกับตัวเองอยู่แบบนั้น กัดริมฝีปากแน่น ก่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเดินเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนชุด
เมื่อกลับออกมา เขายังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ก้มหน้ากับเอกสารเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นับดาวแอบเหลือบตามองเขาเป็นระยะๆ แต่เขาก็ยังเงียบกริบ ไม่แม้แต่จะเหลือบมองเธอด้วยซ้ำ
‘หรือว่า… เธอจะคิดมากไปเองจริงๆ’
ผ่านไปพักใหญ่ๆ
“คุณฮันเตอร์คะ เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ เดี๋ยวฉันส่งเข้าไลน์ให้คุณ แล้วเดี๋ยวโทรเตือนเป็นระยะ ”
เขาพยักหน้าก่อนเปิดไลน์ตรวจงานที่เธอทำ
“อืม ใช้ได้ ”
เขาพูดแค่นั้นแล้วก้มหน้าทำงานต่อ แต่นับดาวไม่ เธออึกอักอยากถามอะไรบางอย่าง จนฮันเตอร์สังเกตได้แล้วเงยหน้าขึ้นมอง
“คุณมีอะไรรึเปล่า ”
นับดาวเม้มปากแน่น ควบคุมใจที่เต้นแรงหลังได้ยินคำถาม สูดลมหายใจเข้าลึกแล้วพูดขึ้นในเวลาต่อมา
“คือ เราเคยเจอกันมาก่อนรึเปล่าคะ ”
เธอตัดสินใจถาม แบบนี้แหละถึงไม่น่าเกลียด และไม่น่าสงสัยด้วย
“ทำไมเหรอ ”
ฮันเตอร์ถามกลับพร้อมเลิกคิ้วสงสัย
“พอดีฉันคุ้นหน้าคุณหนะค่ะ เหมือนเคยเจอที่ไหน แต่แค่คุ้นนะคะ คุ้นนิดเดียว ”
ตอนนี้มือเธอชุ่มไปด้วยเหงื่อหมดแล้ว ลุ้นคำตอบจนแทบลืมหายใจ เขาจ้องหน้าเธอนิ่ง
และจ้องเข้าไปในดวงตา และสุดท้ายเขาก็พูดขึ้น
“เหมือนจะ….”
แล้วเขาก็ทำหน้านึก จนเธอเองก็ลุ้นไปกับเขาด้วย แต่เขาก็ไม่พูดมีหรี่ตานึกซักพัก และ
“เหมือนจะ…ไม่เคยเจอนะ ผมไม่คุ้นหน้าคุณ ”
คำตอบเขาทำนับดาวปล่อยลมหายใจที่กลั้นออกมาอย่างโล่งอก พร้อมมือเล็กที่ยกขึ้นทาบอกเบาๆ ชัดแล้วว่าเขาจำเธอไม่ได้
“นั่นนะสิคะ ฉันคงจำคนผิด ”
เธอพูดขึ้นอย่างโล่งใจ แต่ทำคนเจ้าเล่ห์ยิ้มขำในลำคอ