ตอน ตำรวจสาวเล่นชู้กับนักโทษ
เสียงนาฬิกาบนผนังดังติ๊กต็อกแผ่วเบาในความเงียบสงัดของโรงพักยามวิกาล แสงไฟนีออนสีขาวจากโถงทางเดินสาดส่องเข้ามายังบริเวณห้องขังที่มืดสลัว นี ตำรวจสาวสวยวัยสามสิบต้นๆ ผมยาวประบ่า สวมชุดเครื่องแบบตำรวจสีสนิมเข้ม รองเท้าคอมแบ็ตคู่เก่งที่เธอใส่เดินตรวจตรามาทั้งวันยังเงาวับ
นีเดินตรวจห้องขังตามปกติ สายตาของเธอกวาดมองไปตามลูกกรงเหล็กแต่ละห้อง ก่อนจะหยุดชะงักที่ห้องขังหมายเลขสาม ร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มนอนคุดคู้อยู่บนพื้นปูนเปลือย แสงไฟสลัวทำให้มองเห็นใบหน้าไม่ชัดเจน แต่บางสิ่งบางอย่างในตัวเขาทำให้หัวใจของนีเต้นแรงขึ้นอย่างประหลาด
เธอเดินเข้าไปใกล้ห้องขัง แสงไฟจากด้านนอกส่องกระทบใบหน้าของชายหนุ่มที่เงยขึ้นมามอง นีเบิกตากว้างด้วยความตกใจและไม่อยากจะเชื่อ สายตาของทั้งสองประสานกันในความมืดมิด
"วิน..." นีพึมพำเสียงแผ่วเบา ราวกับเรียกชื่อที่คุ้นเคยจากความทรงจำ
วิน แฟนเก่าของเธอ ชายหนุ่มที่เธอเคยฝากหัวใจไว้เมื่อหลายปีก่อน บัดนี้เขากำลังนอนคุดคู้อยู่ในห้องขังในฐานะผู้ต้องหา
"นี..." วินเอ่ยตอบ น้ำเสียงของเขาแหบพร่า ดวงตาของเขายังคงฉายแววเดิม...แววตาที่เคยทำให้เธอหลงรักหมดใจ
นีรู้สึกถึงความร้อนวูบวาบที่ใบหน้า ความทรงจำเก่าๆ หวนกลับมา ภาพวันวานที่เคยมีกันและกัน ความรักที่เคยสดใส แต่บัดนี้กลับเหลือเพียงความทรงจำอันเลือนราง
เธอเลือกเก้าอี้พลาสติกตัวหนึ่งมานั่งลงหน้าห้องขังของวิน ทั้งสองนั่งคุยกันอย่างเงียบๆ เสียงกระซิบกระซาบแผ่วเบาเล่าถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปของแต่ละคน นีเล่าถึงการเป็นตำรวจ ชีวิตแต่งงานกับหมอ ส่วนวินก็เล่าถึงชีวิตที่พลิกผันจนต้องมาอยู่ในห้องขัง นีทราบว่าวินเป็นพ่อค้ารถมือสองแต่พลาดไปซื้อรถเก๋งราคาถูกที่คนขายขโมยมา และซื้อไปหลายคันจนทำให้เขาต้องโดนฝากขังระหว่างรอดำเนินคดี
เวลาล่วงเลยไปอย่างรวดเร็ว ความมืดมิดของยามค่ำคืนปกคลุมโรงพัก มีเพียงแสงจันทร์ที่ส่องลอดหน้าต่างเข้ามาในห้องขัง สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัว
นีมองนาฬิกาบนข้อมือ เกือบตีสองแล้ว ผู้คนในโรงพักหลับใหลกันหมด มีเพียงเธอกับวินที่ยังคงอยู่ภายใต้แสงจันทร์ที่ส่องผ่านลูกกรงเหล็ก
เสียงนาฬิกาบนผนังโรงพักดังติ๊กต็อกอย่างต่อเนื่อง บอกเวลาตีสองเศษ นีมองนาฬิกาบนข้อมืออีกครั้ง ผู้คนในโรงพักหลับใหลกันหมด มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่ดังเบาๆ และความเงียบงันที่เข้าปกคลุมทุกสิ่ง
นีหันกลับมามองวินที่ยังคงนั่งอยู่ตรงหน้าห้องขัง แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาจับใบหน้าของเขา ทำให้เห็นรอยหนวดเคราที่เริ่มขึ้นประปรายและความอ่อนล้าที่ฉายชัดในดวงตา
"ปวดฉี่ไหม?" นีถามด้วยเสียงกระซิบเบาๆ
วินพยักหน้าเล็กน้อย "นิดหน่อย"
นีลุกขึ้นยืนช้าๆ เธอเดินไปที่แผงควบคุมระบบล็อคห้องขัง กดรหัสปลดล็อค เสียงกลไกดัง "คลิก" เบาๆ แล้วบานประตูก็เปิดออก วินลุกขึ้นยืนช้าๆ ก้าวออกมาจากห้องขังด้วยท่าทางที่ยังคงระมัดระวัง
"ตามมานี่" นีสั่งเสียงกระซิบ พยักเพยิดไปทางห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกล
ทั้งสองเดินย่องไปตามโถงทางเดินที่มืดสลัว มีเพียงแสงไฟบางดวงที่เปิดอยู่บริเวณทางออกด้านหน้าโรงพัก พอให้เห็นทาง
เมื่อมาถึงหน้าห้องน้ำ นีเปิดประตูเข้าไปก่อน แสงไฟสลัวจากหลอดไฟเก่าๆ ในห้องน้ำส่องสว่างพอให้มองเห็น
วินเดินตามเข้ามาในห้องน้ำเล็กๆ ที่มีกลิ่นอับชื้นผสมกับกลิ่นน้ำยาทำความสะอาด นีปิดประตูลงกลอนอย่างเงียบเชียบ
"นาย...เข้าห้องน้ำไปเถอะ" นีเอ่ยเสียงกระซิบ พยายามหลบสายตา
วินพยักหน้า เขาเดินไปยังโถปัสสาวะ ผ่อนกางเกงลงเล็กน้อย แสงไฟที่สลัวทำให้เห็นเงาของแท่งเอ็นที่ยังคงสงบนิ่งของเขา
นีหันหลังให้ พยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด แต่ในใจกลับเต้นระรัวอย่างควบคุมไม่ได้ เธอรู้ดีว่าสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่นี้มันผิดต่อหน้าที่...ผิดต่อสามี...แต่ความรู้สึกบางอย่างที่ถูกเก็บกดมานานกำลังถูกปลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ
เสียงสายน้ำไหลลงโถปัสสาวะดังซู่ๆ เบาๆ ในความเงียบ นีรู้สึกถึงความประหม่าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เธอเหลือบมองวินเล็กน้อย เห็นใบหน้าของเขาที่ยังคงดูอ่อนเพลีย แต่สายตาของเขากลับมองมาที่เธออย่างลึกซึ้ง
เมื่อวินทำธุระเสร็จ เขาก็หันกลับมามองนี ดวงตาของเขายังคงจับจ้องมาที่เธออย่างไม่ละ
"ขอบคุณนะนี" วินเอ่ยเสียงเบา
นีไม่ได้ตอบ เธอเพียงแค่สบตากับเขาอย่างเงียบๆ
"ขอกอดหน่อยได้ไหม นี..." วินเอ่ยเสียงแผ่วเบา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโหยหา
นีลังเลเพียงครู่เดียว ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ วินโผเข้ากอดเธออย่างรวดเร็ว แขนแกร่งของเขารัดร่างของนีไว้แน่น ความอบอุ่นที่คุ้นเคยทำให้เธอรู้สึกเหมือนได้กลับไปสู่วันวาน
วินซุกหน้าลงกับลำคอขาวเนียนของนี สูดดมกลิ่นกายที่เขาคุ้นเคยอย่างโหยหา ริมฝีปากของเขาแตะลงบนผิวเนื้ออย่างแผ่วเบา ก่อนจะเริ่มไซร้เล้าโลมอย่างช้าๆ นีหลับตาลง ปล่อยให้ความรู้สึกที่ถูกเก็บกดมานานค่อยๆ ปะทุขึ้นมา
ทั้งสองผละออกจากกันเล็กน้อย มองหน้ากันในความมืดสลัว แสงจันทร์ลอดผ่านหน้าต่างบานเล็กของห้องน้ำส่องกระทบใบหน้าของวิน ทำให้เห็นแววตาที่ยังคงเต็มไปด้วยความรักและความปรารถนา
โดยไม่ต้องมีคำพูดใดๆ ริมฝีปากของทั้งสองก็ประกบเข้าหากันอย่างดูดดื่ม นียืนเขย่งสุดปลายเท้าเพื่อให้ริมฝีปากของเธอแนบชิดกับวินที่ตัวสูงกว่ามาก ลิ้นร้อนของทั้งสองเกี่ยวพันกันอย่างโหยหา แลกเปลี่ยนความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ในใจมานานแสนนาน
เมื่อจูบเสร็จ นีค่อยๆ คุกเข่าลงตรงหน้าวิน มือเรียวของเธอสั่นเล็กน้อยขณะที่จับขอบกางเกงของผู้ต้องหา ค่อยๆ ลดมันลงต่ำ เผยให้เห็นแท่งเอ็นที่ยังคงสงบนิ่ง
นีค่อยๆ กำบีบแท่งเอ็นของวินอย่างเบามือ ความรู้สึกอุ่นร้อนและสากเล็กน้อยทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ วินครางต่ำๆ ในลำคอ เมื่อสัมผัสจากมือนุ่มนิ่มเริ่มหนักหน่วงขึ้น แท่งเอ็นก็ค่อยๆ แข็งขืนขึ้นมาในอุ้งมือของเธอ
นีเงยหน้ามองวิน แววตาของเธอเต็มไปด้วยความปรารถนาที่ผิดบาป เธอก้มลง แลบลิ้นเลียวนๆ รอบส่วนหัวดอกเห็ดสีแดงก่ำของวินอย่างช้าๆ สัมผัสที่แสนเร้าอารมณ์ทำให้แท่งเอ็นในมือของเธอสั่นระริก
จากนั้น นีก็อ้าปากครอบส่วนปลายลำของวินอย่างช้าๆ โยกหน้าดูดอมแท่งร้อนที่คับแน่นเต็มช่องปาก ความรู้สึกอุ่นร้อนและรสชาติที่คุ้นเคยทำให้เธอแทบลืมสามีตัวเอง
วินค่อยๆลูบไล้ไปตามแขนเรียวของนีอย่างแผ่วเบา ก่อนจะออกแรงช้อนตัวเธอขึ้นมาอย่างง่ายดาย
"มานี่สิที่รัก" วินกระซิบเสียงแหบพร่า
นีโผเข้ากอดวินอย่างแนบแน่น ปล่อยให้เขาสอบอุ้มเธอไปนั่งลงบนขอบอ่างล้างหน้าที่เย็นเฉียบ กลิ่นสบู่ผสมกับกลิ่นอับชื้นจางๆ ในห้องน้ำยังคงคละคลุ้ง
วินถอดกระโปรงเครื่องแบบตำรวจสีสนิมเข้มของนีออกอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้มันลื่นหลุดลงไปกองที่ข้อเท้า เผยให้เห็นเรียวขาขาวเนียนและกางเกงชั้นในตัวน้อยสีขาวที่ยังคงปกปิดความลับอยู่
เขาก้มลงจูบเบาๆ ตรงกลางเป้ากางเกงในตัวน้อยของเธอ สัมผัสที่แผ่วเบาแต่เร่าร้อนนั้นทำให้นีสั่นสะท้านเล็กน้อย ก่อนที่วินจะค่อยๆ ดึงรูดกางเกงในตัวน้อยนั้นหลุดออกไปทางปลายรองเท้าคอมแบ็ตคู่เก่งของเธอ เผยให้เห็นร่องสาวรีเรียวสีชมพูอมแดงที่อูมฉ่ำและมีน้ำหล่อลื่นซึมออกมาเล็กน้อย
วินเงยหน้าขึ้นมองร่องสาวตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหิวโหย ดวงตาของเขาเบิกกว้างราวกับกำลังจ้องมองสมบัติล้ำค่า เขามุดหน้าคมคายซบลงบนเนินน้อยอย่างไม่รอช้า ริมฝีปากร้อนผ่าวและลิ้นสากๆ ของเขาแตะลงบนปากรูอย่างหื่นกระหาย
"แผล๊บ! แผล๊บ! แผล๊บ!" เสียงลิ้นตวัดเลียร่องสาวดังแผ่วเบาในความเงียบงัน ลิ้นร้อนๆ ของวินปาดขึ้นปาดลงอย่างไม่ปราณี ตวัดเลียกลีบเนื้ออ่อนนุ่มและเม็ดเสียวที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว
"อร๊า...อื้อ..." นีกัดริมฝีปากตัวเองแน่น ร้องครางหน้าสั่นด้วยความเสียวสยิวที่ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง ความรู้สึกแปลกใหม่และเร่าร้อนเผาผลาญจิตใจของเธอ เธอไม่เคยรู้สึกเสียวสยิวขนาดนี้มาก่อน...ยิ่งกว่าตอนที่สามีเลียให้เสียอีก
วินค่อยๆ ผละออกจากอ่างล้างหน้า ยืนขึ้นกลางหว่างขาของนีที่ยังคงนั่งอยู่บนขอบอ่าง เขาจับแท่งเอ็นสีดำแดงที่แข็งขืน จ่อตรงร่องสาวที่แดงฉ่ำ แล้วกดแทงยัดเข้ามาอย่างช้าๆ แรงกดที่หนักแน่นทำให้ร่องสาวของนีอ้าออกเล็กน้อย ความรู้สึกคับแน่นและตึงเปรี๊ยะแผ่ซ่านไปทั่วรูรัก
วินไม่รอช้า เขาโน้มตัวลงก้มจูบริมฝีปากของนีอย่างดูดดื่ม ปิดกั้นเสียงร้องที่จะเล็ดลอดออกมา มือแข็งแรงของเขากระชับเอวนีไว้มั่น ก่อนจะเริ่มโยกเอวหนากดแท่งเอ็นเข้าออกอย่างเนิบนาบแต่ลึกซึ้ง ความรู้สึกร้อนผ่าวแล่นแปล๊บไปทั่วร่างกายของนี
แรงกระแทกค่อยๆ เพิ่มความเร็วและแรงขึ้นเรื่อยๆ แท่งเอ็นยาวใหญ่แทงเข้าออกสุดลำ นีรู้สึกเหมือนร่างกายของเธอสั่นสะท้านไปทั้งตัว เต้านมอวบอิ่มถูกบีบฟัดผ่านอกเสื้อเครื่องแบบที่ยับยู่ยี่ เธอเม้มปากแน่น พยายามกลั้นเสียงคราง แต่เสียง "อื้อ! อื้อ!" ก็ยังคงลอดออกมาจากลำคอ
นีเอนหลังพิงกระจกอ่างล้างหน้า ดวงตากลมโตของเธอมองลงไปที่ร่องสาวตัวเองที่บานออก ปลิ้นลู่เข้าลู่ออกตามจังหวะการเข้าออกของแท่งเอ็นนักโทษ เสียงเนื้อกระทบกันดังแฉะๆ ท่ามกลางความมืดมิด
เปรี๊ยะ! แรงกระแทกอันรุนแรงของแท่งเอ็นวินทำให้หลังของนีกระแทกอัดเข้ากับกระจกอ่างล้างหน้าอย่างจัง จนกระจกราวกับจะร้าวเป็นรอยยาว วินยังคงยืนโยกกระแทกเข้ามาอย่างเมามันส์
แล้วในที่สุด ร่างกายของวินก็กระตุกเกร็ง ปลดปล่อยน้ำรักอุ่นๆ พุ่งกระฉูดเข้ามาในท้องของนีอย่างรุนแรงจนเธอสะดุ้งโหยง นีชักกระตุกเสร็จตามเขาในทันใด ความรู้สึกอิ่มเอมและเหนื่อยอ่อนเข้าครอบงำเธอในที่สุด
ทั้งสองยังคงยืนจูบกันอย่างดูดดื่มพักหนึ่ง ก่อนจะผละออกจากกันอย่างเชื่องช้า ความเงียบเข้าปกคลุมห้องน้ำอีกครั้ง มีเพียงเสียงหอบหายใจของคนทั้งสอง
นีค่อยๆ ดึงเสื้อผ้าของตนเองกลับมาสวมใส่ วินเองก็จัดการแต่งตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งสองช่วยกันปรับชุดและท่าทางให้ดูเป็นปกติที่สุด
จากนั้น นีค่อยๆ พาวินย่องกลับไปตามโถงทางเดินที่มืดสลัว เปิดประตูห้องขังหมายเลขสามอย่างเงียบเชียบ แล้ววินก็ก้าวกลับเข้าไปนอนคุดคู้อยู่บนพื้นปูนเปลือยราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น นีล็อคประตูห้องขังอย่างเงียบๆ ก่อนจะเดินตรวจห้องขังต่อไปราวกับไม่มีอะไรผิดปกติ... ทิ้งไว้เพียงความลับอันมืดมิดในยามวิกาล