เหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน!
ความใหญ่โตกลางกายแกร่งทำเอาเธอหน้าร้อนฉ่า หญิงสาวจินตนาการไม่ออกเลยว่าสิ่งนั้นจะเข้ามาอยู่ในร่างเธอได้อย่างไร เพียงแค่สองนิ้วของเขาเธอก็แทบขาดใจแล้ว
"หนู..."
"กลัว?" ถามเธอไปแบบนั้นแต่ในขณะเดียวกันซองฟอยล์ที่วางซ่อนไว้ไม่ไกลก็ถูกฉีกออกและสวมใส่
เขาจ่อมันไปที่กลีบนุ่มนวลสีระเรื่อ ถูไถไปมาอย่างไม่รีบร้อนทั้งที่ความเป็นจริงกำลังข่มกลั้นอารมณ์ไม่ให้แสดงออกเกินไป
กลัวเด็กมันตกใจ...
เสียงครางน้อย ๆ แผ่วเบาดังลอดออกมาจากผู้ถูกกระทำ พร้อมแววตาหวานที่สั่นกลัวและตื่นเต้นผสมปนเปกันคละเคล้า
"คุณภัทรคะหนูจะ...เจ็บไหม"
เขายิ้มเพียงนิดคล้ายกำลังคิดคำหลอกเด็กน้อยที่กำลังจะโดนหมอฉีดยาว่าเจ็บแค่มดกัด
"ไม่เจ็บมากหรอก เจ็บแค่สองวิแรก" ที่เหลือ 'จุกและเสียว' อย่างหลังเขาคิดในใจ
"..." พิมพิศากลืนน้ำลายอึกหนึ่ง จะเชื่อดีไหมเนี่ย สายตาเขาดูไม่น่าไว้ใจ
"อย่าเกร็งพิม"
ภัทรค่อย ๆ ดันสะโพกเข้าหาร่างบาง ท่อนลำอวบใหญ่กำลังบุกรุกความสาวที่สดบริสุทธิ์ถ้าไม่นับนิ้วของเขาในช่วงแรก
"อ๊ะ!"
"ผ่อนคลายครับเด็กดี"
เสียงทุ้มนั้นทำให้เธอใจหวิวอ่อนระทวย รู้ทั้งรู้ว่ามันก็แค่คำปลอบโยนเพื่อจะหลอกล่อเหยื่ออย่างเธอ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดี แถมดีมากเสียด้วย
หลงคำหวานของผู้ชายมากประสบการณ์เป็นแบบนี้นี่เอง
ภัทรสังเกตท่าทีของเธอไปพร้อม ๆ กับส่วนล่างที่กำลังสอดแทรกผ่านกลีบเนื้อละมุน เขากัดฟันดันกายด้วยความรู้สึกที่แสนทรมานและสุขสม เธอแม่งโคตรรัดแน่นจนหนึบไปหมด
"ฮื่อคุณภัทร หนูเจ็บ มันอึดอัด" พิมพิศาบิดเร่ากายเจ็บแปลบไปทั้งร่าง
ร่างกำยำด้วยกล้ามเนื้อแกร่งโน้มลงมา ส่วนล่างที่เชื่อมติดเข้าไปได้แค่ครึ่ง เขาลูบใบหน้าหวานที่น้ำตาซึมเล็กน้อย จูบทับลงไปที่ริมฝีปากเรียวนุ่ม
ความอุ่นร้อนในโพรงปากทำให้หญิงสาวผ่อนคลายลง ภัทรลูบไล้เส้นผมของเธอไปด้วยขณะที่อีกมือจับสะโพกสาวไว้มั่น ถือโอกาสที่เธอลดความเกร็งลงสอดใส่เข้ามาจนสุด
"อื๊ม!"
ร่างบางสะดุ้งเฮือกจิกเล็บบนแผ่นหลังเขาจนเลือดซิบ ภัทรยังคงจูบเธอต่อคล้ายขออภัยที่หลอกว่าเจ็บนิดเดียว
"มากเกิน"
"อะไรที่ว่ามาก" เขาจ้องมองความใสซื่อนั้นที่กำลังต่อว่าเขาในแววตา
"มันเจ็บมากเกิน"
ภัทรยิ้มมุมปากโน้มขบเม้มใบหูของเธอจนหญิงสาวเคลิ้มวูบไหว
"ไม่มากเกินหรอก เธอทนได้คนเก่ง"
นั่นคำชมของเทพบุตรหรือปีศาจกันนะ อ่อนโยนแต่แฝงเร้นความชั่วร้าย
เขาค่อย ๆ ขยับสะโพกสอบเข้าออก จากเนิบช้าเป็นเร็วขึ้น พิมพิศาครางตามสัมผัสที่สอดลึกอย่างกลั้นไม่ไหว
มันเจ็บจริงแต่แค่ในตอนแรก ทว่าหลังจากนั้นกลับเปี่ยมไปด้วยความวาบหวามลึกล้ำที่เธอไม่เคยสัมผัส
แววตาสีนิลนั้นกำลังจดจ้องเธอไปด้วยคล้ายมนตราที่สะกดไว้ให้เธอลุ่มหลง และเขาทำได้ เขาทำให้เธอตกสู่ภวังค์ตัณหาเต็มไปด้วยรสราคะที่ทำให้ความบริสุทธิ์นี่แปดเปื้อน
"เธอชอบมัน" เขากระซิบขณะสัมผัสได้ถึงแรงตอดรัดภายในกาย
เธอเองก็ไม่ได้ปกปิดมัน ความอายหายไปหมดสิ้น มีเพียงความรู้สึกหวานระคนร้อนแรงของชายหญิงที่ส่งให้กัน
ภัทรกดข้อมือเธอไว้ด้านข้าง จดจ้องใบหน้าของเธอไม่ละสายตา โถมกระหน่ำความใคร่ที่มากเกินควบคุมใส่ร่างบอบบางน่ารังแกของเธอ ยิ่งหญิงสาวร้องครางหวานแอ่นอกสวยบิดเร่าไปทั้งกาย สัญชาตญาณดิบของเขายิ่งถูกดึงออกมาเยี่ยงสัตว์ป่า
มากไปด้วยความต้องการและกระสันซ่าน
"อ๊า คุณภัทรหนูไม่ไหว..." เสียงขาดห้วงไปแทนที่ด้วยเสียงหวีดเมื่อใจกลางสาวกระตุกตอดรัดความคับแน่นภายในร่างถี่ ๆ ก่อนที่ท่อนแกร่งของเขาจะกระตุกตามมา
เธอและเขาไปถึงจุดหมายปลายทางพร้อมกัน พิมพิศาหอบหายใจรวยริน สายตาหวานพร่าเบลอมองเขาที่หยัดกายขึ้นไปเสยผมลวก ๆ ด้วยใจสั่นไหวไม่หาย
เหมือนเขาจะพอแล้วแต่ไม่...
เสียงฉีกซองฟอยล์ดังขึ้นอีกครั้ง พิมพิศาผวาตัวแต่ถูกคนบนร่างกดไว้ สายตาเจ้าเล่ห์มากความต้องการส่งมาให้เธอ
"คุณภัทร...นี่คุณ..."
"ฉันไม่ได้บอกเธอว่ารอบเดียว"
มันไม่ใช่เหตุผลโต้แย้งเพียงเท่านั้น แต่คำพูดราบเรียบของเขาบ่งบอกว่า เขาจะเอาอีก!
"พิม เธออร่อยเกินไป" เจอประโยคนี้เข้าไปพิมพิศาถึงกับหน้าแดงไปทั้งแก้ม เธอเม้มปากแน่นเมื่อเจอเขาส่งดาเมจรุนแรงต่อหัวใจ
"อร่อยจนอยากกินทั้งคืน" ภัทรโน้มกระซิบเสียงต่ำใกล้หู ก่อนจะดันลำกายเข้ามาอีกอย่างสุดลึก
"อ๊า" หญิงสาวผวาคว้ากอดเขาไว้ ความเสียวซ่านสุขสมเข้าทำงานในกายและใจอีกครั้ง
และไม่นานเธอก็หลงมัวเมาไปกับความสุขทางกายที่เขาปรนเปรอให้ลุ่มหลงอีกครา หยุดไม่ได้และไม่อยากหยุด กว่าจะได้หลับพริ้มก็ยาวนานจนจำไม่ได้ว่าเผลอนิทราไปตอนไหน
ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศกระทบเรือนผิว พิมพิศาปรือตาหวานค่อย ๆ มองภาพรอบกายด้วยความอ่อนเพลีย
เช้าแล้วเหรอ...
บรรยากาศดีจนอยากนอนซุกกายในผ้าห่มต่อ แต่ก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นเจ้าของห้องเดินเข้ามาพลางติดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวไปด้วย
เขาเหลือบสายตาคู่นั้นมองเธอเล็กน้อย ก่อนพับแขนเสื้อขึ้นแล้วเดินไปหยิบนาฬิการาคาแพงมาสวมใส่ ท่าทางดูสบาย ๆ ไม่รีบร้อน
คล้ายกับว่าเป็นเรื่องปกติ...
"คุณภัทร..." พิมพิศาอึกอักทำตัวไม่ถูก ดึงผ้าห่มสีขาวกระชับเข้าอีก
ไม่รู้ว่าเธอหลับไปตอนไหน รู้แค่ว่าเธอหลับทั้ง ๆ ที่เปลือยเปล่า แอบมองผิวกายของตนซึ่งเต็มไปด้วยรอยประทับตราสีแดงทั่วร่าง หน้าของเธอร้อนฉ่าขึ้นอีกครั้ง
ภัทรไม่ได้ตอบอะไรหญิงสาวเพียงแค่เดินไปหยิบชุดคลุมสีขาวให้เธอ
"ลุกไหวใช่ไหม"
พิมพิศากลืนน้ำลายลงคอ
"ไหวค่ะ" ตอบว่าไหวแต่ความเป็นจริงขาเธอสั่นไม่น้อย สาเหตุก็เพราะเมื่อคืนไง
"อาหารเช้าฉันสั่งมาให้และอุ่นแล้วเรียบร้อย เธออาบน้ำแล้วก็ไปกินได้นะ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงปกติก่อนจะเดินหายไปในโซนแต่งตัว
พิมพิศาใจหวิวแปลก ๆ แต่ก็ลุกขึ้นใส่ชุดคลุมให้เรียบร้อย ไม่นานนักภัทรก็เดินกลับเข้ามาพร้อมเสื้อคลุมสูทที่พาดไว้ที่แขน
แววตาของเขาต่างกับช่วงเวลาลึกซึ้งเมื่อคืนนัก เธอไม่เห็นเศษเสี้ยวความหวานอ่อนโยนในนั้น
แต่เธอจะคาดหวังทำไมกัน! เธอไม่ควรคาดหวังสิ
"เรื่องที่ทำงาน..." ภัทรยืนตรงหน้าเธอและกำลังตกลงในสิ่งที่เธอต้องการ
"มาทำงานที่คลับฉันได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป"
พิมพิศาเม้มปากนิ่ง เธอควรจะดีใจแต่ก็อดคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงน่าละอายไม่ได้ ภัทรเองก็คงคิดว่าเธอก็เหมือนผู้หญิงง่าย ๆ ทั่วไปด้วยล่ะมั้ง
"เงินเดือน...ฉันจะให้พิเศษจากที่เธอเคยขอเพิ่มอีก50% ไม่รวมทิปรายวันและรายเดือน ลางานได้ตลอดเพราะเธอเป็นพาททามแต่ขอแค่บอกล่วงหน้าหนึ่งวัน"
"..."
พอมายืนอยู่หน้าเขาตอนนี้ในสภาพนี้ก็อดรู้สึกแย่ไม่ได้ เขาไม่ได้หลอกเธอมานี่นา เธอต่างหากวิ่งมาหาเขาถึงหน้าประตู
น่าอายนัก...
"พิม" ภัทรเรียกเธอเมื่อเห็นหญิงสาวดูเหม่อลอย เขาเห็นความวูบไหวชั่ววินาทีในแววตาคู่นั้น
"คะ?"
"เธอโอเคใช่ไหม"
เธอต้องตอบอย่างไร ก็ต้อง...
"โอเคสิคะ" รอยยิ้มค่อย ๆ คลี่ออกแต่แววตาเธอกลับมีความอดสูในนั้น
ภัทรพยักหน้าเล็กน้อยหลุบตาลงก่อนจะเดินไปหยิบกุญแจรถที่วางไว้บนโต๊ะ พิมพิศามองตามแผ่นหลังกว้างใต้อาภรณ์นั้นพลางกะพริบตาถี่ ๆ
เมื่อคืนเธอและเขาล้วนเปิดเผยทุกสัมผัสและความรู้สึกต่อกัน ความลุ่มหลงลึกซึ้งแสดงออกมาคล้ายคนที่สนิทแนบแน่นมานานมากมาย แต่พอตื่นมากลับกลายเป็นคนห่างไกลยากเข้าถึงในโลกความจริง
“หวังว่าเธอจะเข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นแค่ความสุขชั่วคราว” เสียงทุ้มต่ำของเขาเอ่ยขึ้นขณะที่ยังหันหลังให้เธอ
พิมพิศาหายใจติดขัด คำพูดของเขากำลังดึงสติเธอกลับมา
“หนูทราบดีค่ะ คุณภัทรไม่ต้องห่วงว่าหนูจะคิดเกินเลย” เธอตอบหนักแน่นด้วยรอยยิ้ม ควบคุมเสียงไม่ให้สั่น มือหนึ่งจิกต้นขาตัวเองเล็กน้อยพอให้เจ็บ คล้ายบอกตนเองให้อยู่กับความเป็นจริง
ภัทรหันร่างกลับมา ใบหน้าราบเรียบสงบนิ่งไม่ได้มีความพิเศษใดไปมากกว่านั้นในการรับรู้ของเธอ
“ก็ดี ฉันก็หวังไว้แบบนั้น”
ไม่นานนักร่างกำยำก็ออกจากห้องไป เหลือไว้เพียงผู้หญิงที่เพิ่งมีสัมพันธ์ลับลึกซึ้งที่ยืนมองประตูปิดลงอย่างเงียบ ๆ