“น่าเสียดายจังนะปูเป้ที่หลินไม่ได้มากับเรา” วิรัลพัชรพูดอย่างเสียดายเมื่อวันนี้หลินหรือนลินภัสไม่ได้เดินทางมาเที่ยวกับเธอตามที่ได้ชวนกันไว้ ทำให้หญิงสาวต้องเดินทางมาเที่ยวเกาะพงันกับพิมพ์วดีและอลันแฟนหนุ่ม
“นั่นสิแบบนี้วิวก็น่าจะเหงาแย่เลยคืนนี้ให้เราไปนอนห้องเดียวกับวิวดีไหม”
“อย่าเลยนานๆ อลันเขาถึงจะกลับมาหาปูเป้สักทีไปนอนกับแฟนเถอะวิวอยู่คนเดียวได้เผลอๆ คืนนี้อาจจะได้หนุ่มกลับมานอนด้วยสักคน”
“พูดเป็นเล่นน่า อย่างวิวน่ะเหรอจะพาใครไปนอนด้วยขนาดแฟนที่คบกันมาเกือบปีวิวยังไม่เคยพาไปค้างที่ห้องเลย” พิมพ์วดีพูดอย่างรู้ทันเพราะเพื่อนของเธอคนนี้ค่อนข้างจะหัวโบราณมากต่างจากเธออย่างลิบลับ
“แหมก็ตอนนั้นวิวยังเรียนไม่จบนี่ปูเป้ แต่ตอนนี้วิวเรียนจบแล้วมีงานทำอายุก็ยี่สิบสี่แล้วนะมีซัมติงกับใครสักคนก็ไม่น่าจะแปลก”
“ขอให้มันจริงเถอะ เดี๋ยวพวกเราเอาของเข้าไปเก็บนะ บ้านพักของวิวอยู่หลังริมสุดนะ ส่วนหลังตรงกลางไม่แน่ใจว่าเป็นของใครของเราอยู่ถัดไปอีกสองหลังถ้ามีอะไรก็ไปเคาะเรียกได้นะ สักทุ่มหนึ่งเราค่อยออกไปกินข้าวกันนะ แล้วปูเป้จะโทรหา”
“ได้จ้ะ” วิรัลพัชรเดินแยกจากเพื่อนเข้ามายังบ้านพักของตนเองหลังริมสุด
การมาเที่ยวครั้งนี้ผิดแผนไปนิดหน่อยเพราะเพื่อนอีกคนที่บอกว่าจะเดินทางมาด้วยเกิดป่วยกะทันหันทำให้คืนนี้วิรัลพัชรต้องค้างอยู่ที่บ้านพักคนเดียว เพราะถ้าจะให้พิมพ์วดีมานอนด้วยก็รู้สึกเกรงใจเนื่องจากเธอพาแฟนชาวต่างชาติมาเที่ยวด้วย วิรัลพัชรคิดว่าการอยู่คนเดียวแบบนี้ก็ค่อนข้างอิสระและมีความเป็นส่วนตัวมาก เธอคิดว่าการมาเที่ยวครั้งนี้ตนเองจะสนุกอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลอะไร
หลังจากรับประทานอาหารเย็นแล้ววิรัลพัชรก็ขอตัวกลับมาที่พักส่วนปูเป้และแฟนหนุ่มก็พากันไปเดินเที่ยวบริเวณชายหาดก่อนจะนัดเจอกันอีกทีในเวลาสี่ทุ่มซึ่งเป็นเวลาที่ปาร์ตี้น่าจะกำลังสนุกเลยทีเดียว
“ปูเป้อยากออกมาเที่ยวตอนไหนก็มาเลยไม่ต้องห่วงวิวหรอกวิวมาคนเดียวได้ ดูท่าทางอลันเขาอยากจะสนุกกับงานนี้มากๆ”
“แต่วิวจะเที่ยวคนเดียวได้เหรอ เท่าที่พวกเราเดินผ่านเมื่อกี้บริเวณที่จัดงานมีผู้ชายค่อนข้างเยอะกว่าผู้หญิงนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกวิวดูแลตัวเองได้ ปูเป้กับอลันไม่ค่อยได้เที่ยวด้วยกันใช้ชีวิตใช้เวลาอยู่ด้วยกันเต็มที่เลยนะ”
“แน่ใจนะว่าคืนนี้จะเที่ยวคนเดียว”
“แน่ใจสิวิวไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะปูเป้สบายใจได้เลย”
“ถ้าเปลี่ยนใจก็ไลน์มาบอกได้ ปูเป้รู้สึกเป็นห่วงวิวยังไงก็ไม่รู้” พิมพ์วดีรู้สึกผิดที่จะปล่อยให้เพื่อนเที่ยวคนเดียวตามลำพังเพราะเป็นคนชวนวิรัลพัชรมาเที่ยว
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกวิวสบายมาก”
วิรัลพัชรบอกพิมพ์วดีเพื่อให้เพื่อนสบายใจอีกอย่างคืนนี้เธอก็คิดเอาไว้แล้วว่าจะเที่ยวให้สนุกอย่างเต็มที่เพราะคงไม่มีโอกาสมาเที่ยวแบบนี้บ่อยๆ อย่างแน่นอน
หญิงสาวกลับเข้ามาที่บ้านพักจากนั้นก็เปลี่ยนชุดจากกางเกงขายาวเสื้อเชิ้ตเป็นกางเกงยีนขาสั้นกับเสื้อกล้ามสีขาวตามแบบวัยรุ่นชอบใส่ ก่อนจะเดินมาบริเวณริมหาดที่มีการจัดงานฟูลมูลปาร์ตี้
ตอนนี้ทุกคนในงานกำลังสนุกสนานเป็นอย่างมาก หญิงสาวเดินไปซื้อเครื่องดื่มสำหรับตัวเองหนึ่งขวดจากนั้นก็เดินเข้าไปในบริเวณนักท่องเที่ยวกำลังเต้นกันอยู่ เสียงเพลงดังกระตุ้นให้รู้สึกตื่นตัวเธอดื่มไปด้วยเต้นไปด้วย ไม่นานก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งมาชวนเราคุยหญิงสาวคุยพักใหญ่แต่รู้สึกว่าไม่ค่อยโอเคเพราะเขาพูดเหมือนจะชวนเธอไปนอนด้วย วิรัลพัชรจึงขอตัวมาซื้อเครื่องดื่มเพิ่ม ก่อนจะกลับเข้าไปสนุกสนานท่ามกลางเสียงเพลงอีกครั้งเธอดื่มไปหลายขวดจากนั้นก็มีผู้ชายอีกคนหนึ่งเขามาชวนคุย
หญิงสาวรู้สึกสนุกที่ได้คุยกับเขาแต่ไม่ได้ถามชื่อเพราะไม่คิดว่าไม่มีความจำเป็นเนื่องจากคืนนี้ทุกคนก็น่าจะออกมาหาความสุขโดยไม่สนใจว่าใครเป็นใคร เมื่อเต้นจนเหนื่อยก็ขอตัวกลับ แต่เขาก็อาสาเดินมาส่ง
“ดูท่าทางคุณน่าจะเมามากเลยนะ แบบนี้จะกลับที่พักถูกไหม”
“ถูกสิที่พักของฉันอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่หรอก”
“ดึกแบบนี้มันอันตรายให้ผมเดินไปส่งดีกว่าไหม” หญิงสาวส่ายศีรษะเพราะคิดว่าตัวเองจะเดินกลับได้
“ไม่เป็นไรค่ะฉันเดินกลับเองได้คุณไปสนุกให้เต็มที่เถอะ ยินดีที่ได้เจอกันนะคะ” หญิงสาวยิ้มให้เขาจากนั้นก็เดินกลับ
ระยะทางจากบริเวณจัดงานมายังที่พักของเธอนั้นอยู่ห่างประมาณเกือบหนึ่งกิโลเมตรทำให้ใช้เวลาเดินค่อนข้างนานเธอไม่รู้เลยว่าตลอดเวลานั้นผู้ชายที่เธอคุยด้วยเมื่อครู่เขาเดินตามเธอมาอยู่ข้างหลัง
คุณานนท์สังเกตว่าคืนนี้หญิงสาวมาเที่ยวคนเดียวเขาจึงอยากจะเข้าไปทำความรู้จักเพราะถูกชะตากับใบหน้าเรียวรูปไข่กับและดวงตากลมโต ดูแล้วเธอเหมือนกับเด็กนักศึกษาที่หนีผู้ปกครองมาเที่ยวชายหนุ่มอยากจะรู้จักเธอให้มากขึ้นอยากจะถามว่าเธอชื่ออะไรและที่เดินตามเธอมาก็เพราะอยากจะทำความรู้จักเธอให้มากขึ้น
ชายหนุ่มคิดว่าเธอน่าจะเป็นผู้หญิงที่กล้ามากคนหนึ่งเนื่องจากการมาเที่ยวสถานที่แบบนี้คนเดียวมันค่อนข้างอันตรายแต่ดูเหมือนเธอจะไม่กลัวอะไรเลยและเขาก็ชอบผู้หญิงที่กล้าแบบคุณานนท์คิดว่าเธอก็คงเหมือนคนอื่นๆ ที่มาเที่ยวมาสนุกสนานเหมือนกันผู้หญิงที่เขาเคยเจอเมื่อครั้งมาเที่ยวที่นี่เมื่อหลายเดือนก่อน ครั้งนั้นเขากับเธอเจอกันในงานจากนั้นก็ไปต่อกันที่ห้องพอรุ่งเช้าต่างก็แยกย้ายเขายังไม่ได้ถามชื่อเธอด้วยซ้ำ
คุณานนท์เดินตามเธอมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงบ้านพักของเธอซึ่งมันบังเอิญมากว่าอยู่ติดกับบ้านพักของเขา
“บังเอิญจังเลยนะครับที่บ้านพักของเราอยู่ติดกัน”
เสียงที่ดังมาข้างหลังทำให้วิรัลพัชรตกใจก่อนจะรีบหันมามอง
“นี่คุณตามฉันมาเหรอ”
“ผมไม่ได้ตามคุณผมก็บอกอยู่นี่ไงว่ามันบังเอิญมากๆ ว่าผมพักอยู่บ้านหลังนี้”
“ฉันไม่เชื่อหรอก”
“ไม่เชื่อเดี๋ยวผมจะเปิดประตูเข้าไปให้ดูนะ” ชายหนุ่มหยิบกุญแจในกระเป๋ากางเกงเปิดประตูเข้าไปเพื่อให้เธอเห็นว่าเขาเป็นเจ้าของห้องพักห้องนี้จริงๆ
“บังเอิญจริงด้วย”
“ไหนๆ เราก็บังเอิญพักห้องใกล้กันแล้วนั่งคุยกันหน่อยดีไหมคุณง่วงหรือยัง”
“ไม่ง่วงหรอกแค่เมานิดหน่อย” หญิงสาวตอบไปตามความจริงเพราะปกติเป็นคนไม่ค่อยดื่มแต่คืนนี้เธอดื่มมากว่าทุกครั้งเนื่องจากบรรยากาศและเสียงเพลงที่สนุกจนดื่มเพลิน
“เมานิดหน่อยแสดงว่ายังดื่มต่อได้อยากดื่มอะไรไหมล่ะ ในห้องผมมีเครื่องดื่มอยู่หลายอย่างเลย”
“ไม่เป็นไรในห้องฉันก็มีเดี๋ยวฉันขอเข้าห้องน้ำก่อนแล้วจะออกมาดื่มด้วย”
“ผมก็จะเข้าไปเอาเครื่องดื่มของผมเหมือนกันเดี๋ยวเราออกมานั่งคุยกันตรงมานั่งข้างหน้านะ”
“ค่ะ”
วิรัลพัชรเดินเปิดประตูเข้ามาในห้องตัวเองหยิบเครื่องดื่มให้ในตู้เย็นออกมาหนึ่งขวด พอออกมาด้านนอกห้องก็เห็นเขานั่งรออยู่ก่อนแล้ว