10 หนี

2073 Words
วันต่อมา “เป็นไง?” ครามเดินเข้ามาถามหลังจากที่พิงค์วางสายจากผู้เป็นแม่ไป “….” ร่างบางหันไปมองพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่เป็นคำตอบให้กับเขา “นายก็น่าจะรู้คำตอบดีอยู่แล้วนะ” “อย่าคิดมากสิ ไม่แน่พ่อกับแม่ของเธออาจจะชอบฉันก็ได้ใครจะไปรู้” มาเฟียหนุ่มยืนล้วงกระเป๋ากางเกงพร้อมกับวางมาดเข้มใส่เธอ “นายอย่าสำคัญตัวเองมากเกินไปเลย ฉันรู้ว่าพ่อแม่ของฉันเป็นคนยังไง ท่านไม่ได้เข้ากับใครง่าย ๆ หรอก” “ฉันไม่ได้สำคัญตัวเอง ฉันแค่บอกว่าบางทีพ่อกับแม่ของเธออาจจะชอบฉันก็ได้” “….” เธอถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้อง “คืนนี้จะไปคลับ เธออยากไปด้วยมั้ย” มาเฟียหนุ่มเอ่ย “ได้เหรอ?” เธอหันไปเลิกคิ้วถาม “อืม…” “งั้นก็ดะ…” “แต่มีข้อห้าม! หนึ่งคือเธอต้องอยู่กับฉันตลอดเวลา เธอต้องอยู่ในสายตาของฉันตลอด สองห้ามดื่มจนเมาไม่ได้สติ สามห้ามลงไปด้านล่างเด็ดขาด สี่ห้ามดื้อห้ามขัดคำสั่งฉันด้วย” “โห…ถ้าจะห้ามขนาดนี้ไม่ต้องให้ฉันไปจะดีกว่า ให้ฉันนอนอยู่บ้านก็ได้หรอก” พิงค์เบี่ยงหน้าหนีเขาอย่างเบื่อหน่าย แค่อยู่บ้านด้วยกันเขาก็ออกคำสั่งกับเธอจนขยับตัวแทบจะไม่ได้ละ “ตกลงไม่ไป?” “เออ! ห้ามกันซะขนาดนี้คงจะอยากไปอยู่หรอก ไปคนเดียวเลย” เธอพูดกระแทกเสียงใส่เขา กินเหล้าจะไม่ให้เมาก็คงจะไม่ได้แล้วแบบนี้มันจะไปสนุกอะไร “ก็แล้วแต่ ฉันอาจจะกลับดึก ๆ นะ เธอง่วงก็นอนไปก่อนเลยก็ได้ไม่ต้องรอ” “แล้วทำไมฉันต้องรอด้วยล่ะ นายไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับฉันมากขนาดนั้น” เธอเบะปากใส่มาเฟียหนุ่มก่อนจะเดินออกจากห้องไป ด้านล่าง หญิงสาวเดินมาเตะยอดหญ้าเล่นอยู่ที่สวนหลังบ้านเพราะรู้สึกเบื่อหน่ายและหงุดหงิดที่ถูกมาเฟียหนุ่มขัดใจเธอ “ไอ้บ้าคราม ไอ้คนบ้าอำนาจ ไอ้คนชอบเอาแต่ใจ ฉันไม่น่าหลวมตัวมาอยู่กับนายเลย” พิงค์ก้มหน้าก้มตาเตะยอดหญ้าจนกระจุยกระจายเต็มไปหมด “เฝ้าเอาไว้ให้ดี อย่าให้เธอออกไปข้างนอกเด็ดขาด” มาเฟียหนุ่มหันไปพูดกับลูกน้องของตน “ครับนาย” “กูกลับมาไม่เจอเธอ พวกมึงเจอดีแน่” “…” ร่างสูงใหญ่พูดทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนจะเดินไปที่รถสปอร์ตของตัวเองจากนั้นก็ขับออกไปคนเดียวโดยที่ไม่มีลูกน้องติดตามไปด้วย เขาต้องการให้ลูกน้องอยู่ที่นี่คอยจับตามองพิงค์ เพราะเธอนั้นฉลาดและหัวไวมาก เกรงว่าลูกน้องของตัวเองจะถูกหลอก เพราะเขาคือคนเดียวที่ทันเล่ห์เหลี่ยมทุกอย่างของพิงค์ “เจ้านายของพวกนายออกไปแล้วเหรอ” พิงค์เดินกลับเข้าไปในบ้าน ถามลูกน้องที่ยืนเฝ้ามองเธออยู่ไม่ห่าง “ครับ” “ไม่มีอะไรแล้วพวกนายก็ไปพักเถอะไม่ต้องมาคอยเฝ้าฉันหรอก ฉันโตแล้วนะไม่ใช่เด็กสามขวบที่จะต้องมีผู้ใหญ่มาคอยดูแลทุกฝีก้าว” “ไม่ได้ครับ นายสั่งมา” ลูกน้องพูดอย่างเด็ดขาด “เจ้านายของพวกนายเอาแต่ใจ ดีแต่สั่งแต่ไม่เคยทำ เขาไม่อยู่แบบนี้พวกนายพักผ่อนได้ตามสบายเลย ฉันสัญญาว่าจะไม่ปริปากบอกใครเลย” “เอ่อ…” ลูกน้องสองคนเริ่มหันมองหน้ากัน “รู้น๊าว่าอยากพัก ฉันไม่ได้เจ้ากี้เจ้าการเหมือนกับเจ้านายของพวกนายหรอกนะ เพราะฉะนั้นเวลาอยู่กับฉันทำตัวตามสบายอยากทำอะไรทำเลย ส่วนฉันจะขึ้นไปนอนละ” “ครับคุณพิงค์” พิงค์กลับขึ้นมานอนเล่นอยู่บนห้องของตัวเอง อยากเที่ยวก็อยากเที่ยว แต่ลูกน้องของเขาก็อยู่เต็มบ้านไปหมด ไม่มีทางที่เธอจะเดินออกไปได้อย่างง่ายดายเลย นอกเสียจากเธอจะแอบออกไปโดยที่ไม่ให้ลูกน้องของเขารู้ “เอาไงดีนะ” พิงค์ผุดลุกผุดนั่งครุ่นคิดว่าจะเอายังไงต่อดี เธออยากเที่ยวแต่ไม่อยากอยู่ในโอวาทของใคร เพราะเธอเคยใช้ชีวิตแบบที่ไม่มีใครบงการและตอนนี้เธอก็ยังอยากใช้ชีวิตแบบนั้น “เดียร์!” แต่แล้วเธอก็นึกถึงเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่เคยติดต่อกันสมัยที่เธอยังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยในไทย พิงค์พยายามนึกเบอร์มือถือของเพื่อนสนิทตน พร้อมกับกดโทรออกไปทุกเบอร์เท่าที่จำได้ จนกระทั่ง… ( ฮัลโหลสวัสดีค่ะ ) “ขอโทษนะคะนี่ใช่เบอร์เดียร์หรือเปล่า” ( ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่าปลายสายเป็นใครคะ? ) “อร้ายอีเดียร์ กูเองพิงค์” หญิงสาวกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ เมื่อความพยายามของเธอนั้นเป็นผล เธอสามารถติดต่อเบอร์เพื่อนสนิทจนได้ ( ห๊ะอีพิงค์ มึงหายไปอยู่ไหนมา แล้วตอนนี้มึงอยู่ที่ไหน ) “อีเดียร์มึงฟังกูนะ มึงช่วยมารับกูที่บ้านหลังใหญ่ ๆ แถวซอยxxxหน่อยนะ แต่มึงอย่าไปจอดรถอยู่หน้าบ้าน กูจะออกไปรอมึงอยู่แถว ๆ ข้างบ้านตกลงไหม” ( เออ ๆ ถ้าถึงแล้วกูจะรีบโทรบอกนะ ) “ขอบใจ” พิงค์กดวางสายจากเพื่อนสนิทก่อนจะรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินย่องลงไปที่ด้านล่างอย่างเงียบเชียบ ลูกน้องของมาเฟียหนุ่มตอนนี้พากันหลับอยู่บนโซฟาด้านล่างหมดแล้ว ซึ่งมันเป็นโอกาสดีของเธอที่จะหนีออกไปเที่ยวก่อนที่ชายหนุ่มจะกลับมา “ขอโทษนะพวกพี่ ๆ แล้วฉันจะรีบกลับมาเลย” พิงค์เดินย่องออกมาทางด้านหลังของตัวบ้าน รอจังหวะที่ลูกน้องของมาเฟียหนุ่มเดินไปตรวจที่มุมอื่น เธอจึงรีบวิ่งไปปีนกำแพงแล้วกระโดดข้ามไป ตุบ~ “เฮ้อ ในที่สุด” ร่างบางถอนหายใจให้กับความสำเร็จของตัวเองก่อนจะรีบเดินไปที่รถเก๋งของเพื่อนสนิท “หวัดดีเพื่อนรัก” “อีพิงค์! มากอดให้หายคิดถึงหน่อย อื้อออ” สองเพื่อนรักโอบกอดกันด้วยความคิดถึง “กูได้ข่าวมาว่ามึงไปเรียนต่อเมืองนอก ทำไมไม่ติดต่อกลับมาเลยว่ะคิดถึงมึงจะตายแล้ว” “กูขอโทษทีว่ะ อยู่เมืองนอกก็มีแต่ความวุ่นวายกูไม่ได้ติดต่อหาใครเลยที่นี่” “ป่ะ มึงกลับมาทั้งทีอย่างนี้ต้องฉลอง” “นี่แหละคำที่กูอยากได้ยิน” จากนั้นสองสาวก็พากันขับรถไปยังคลับที่เคยเที่ยวอยู่เป็นประจำสมัยที่ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยด้วยกัน และก็ได้นั่งที่โต๊ะประจำที่เคยนั่ง “เคร้งง สุดยอดไปเลยอีเดียร์ สมกับที่เป็นเพื่อนซี้กู” “อีพิงค์มึงไปทำอะไรที่บ้านหลังนั้นวะ นั่นไม่ใช่บ้านของมึงไม่ใช่เหรอ กูเคยขับรถผ่านเมื่อนานมาแล้วเห็นคนเต็มบ้านเลย อย่างกะบ้านมาเฟียในหนัง” “อืม บ้านมาเฟีย” พิงค์ตอบไปตามความจริง “ห๊ะมาเฟีย แล้วมึงไปทำอะไรอยู่ที่บ้านหลังนั้น มันจับตัวมึงไปหรอ ให้กูไปแจ้งตำรวจมั้ย” “พอ ๆ กูไม่ได้เป็นอะไรหรอก เรื่องมันยาวว่ะ” “แต่กูมีเวลาฟังเล่ามา” “….” พิงค์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ใส่เพื่อนสาวก่อนจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง “อย่างจ๊าบ อีเชี่ย ได้ผัวเป็นมาเฟียโคตรเท่ห์เลย” “เท่ห์บ้านป๊ามึงดิ ทำอะไรก็ไม่ได้สั่งห้ามหมดทุกอย่าง เจ้ากี้เจ้าการเอาแต่ใจชะมัด สั่งนั่นสั่งนี่ให้ทำตาม” พิงค์บ่นยาวเหมือนเก็บกด แต่ด้วยฤทธิ์น้ำเมาที่เธอดื่มเข้าไปมันเริ่มกล่อมให้เธอระบาย “เค้ารับปากจะช่วยกู จะได้ไม่ต้องไปแต่งงานกับคนที่พ่อแม่เลิกให้” “จะว่าไปพ่อแม่ของมึงก็เกินไปนะ นี่มันยุคไหนสมัยไหนแล้วไม่มีการคลุมถุงชนแล้ว จะรักใครจะแต่งงานกับใครสักคนมันก็ต้องขึ้นอยู่กับคนสองคนสิ กูล่ะเหนื่อยใจแทนมึงจริง ๆ” “ช่างเหอะ ถ้าพ่อกับแม่กูรู้ว่ากูมีผัวแล้ว เค้าก็คงไม่จับกูแต่งงานหรอก” “อืมดีละ ว่าแต่มึงจะอยู่กับผู้ชายคนนั้นไปตลอดชีวิตเลยเหรอวะ” “ทำไมอะ?” “เปล่ากูแค่อยากรู้” “ไม่รู้ดิ มึงก็รู้ว่ามาเฟียแม่งมีอิทธิพลเยอะ ถึงกูหนีไปก็ไม่รอดอยู่ดี เผลอ ๆ โดนตามฆ่าอีก” พิงค์พูดอย่างหนักใจ “ก็จริง…เอา ๆ ไปเหอะ รวยก็รวย ว่าแต่หล่อมั้ยวะ” “ไม่อะ ไม่หล่อ แถมปากหมาด้วย” พิงค์รีบส่ายหน้าปฏิเสธ “พูดแบบนี้แสดงว่าต้องหล่อ เอาไปเหอะให้ไอ้เชี่ยต้นมันอิจฉาไปเลย คนห่าอะไรบอกเลิกผู้หญิงเพราะไม่ได้เอาแล้วไปเอากับผู้หญิงคนอื่นทั้ง ๆ ที่มีแฟนอยู่แล้ว” “ไม่ต้องพูดถึงผู้ชายคนนั้นหรอก กูเกลียด” “กูก็เกลียด ถ้าวันนั้นมึงบอกกูสักนิดนะกูจะจ้างคนไปรุมกระทืบมันรวมทั้งผู้หญิงคนนั้นด้วยเลย เอาให้แม่งนอนหยอดน้ำข้าวต้ม” “ช่างเหอะ เรื่องมันผ่านมาแล้วกูไม่อยากนึกถึงมันอีก ยิ่งพูดก็ยิ่งเจ็บใจ” “ใช่แล้วค่ะเพื่อนรัก ไม่ต้องไปคิดถึงอะไรมันอีกแล้ว ตอนนี้มึงมีผัวรวยมีผัวเป็นมาเฟียเพราะฉะนั้นมึงไม่ต้องกลัวใคร ถ้ามีใครมารังแกมึงมึงก็สั่งให้ผัวมึงไปจัดการเลยไม่เห็นยาก” “เหอะ! ตื่นเถอะอีเดียร์ มันไม่ได้ง่ายอย่างนั้นหรอกนะ” “เดี๋ยวกูหาผัวเป็นมาเฟียเหมือนกับมึงบ้างดีกว่า บนเตียงคงจะเร่าร้อนน่าดูเลย” “….” พิงค์อยากจะเถียงกลับไปแทบแย่ บนเตียงจะเร่าร้อนอะไรขนาดนั้นไม่จริงเลย รุนแรงต่างหากล่ะ ตัดมาทางด้านของคราม “นายครับ ลูกน้องที่ด้านล่างบอกว่าเจอคุณพิงค์มาเที่ยวที่นี่ครับ” “อืม…คอยดูเธอเอาไว้เดี๋ยวกูลงไปจัดการเอง” มาเฟียหนุ่มพูดเสียงเรียบ “ครับนาย” เขาคิดเอาไว้ไม่มีผิดว่าพิงค์จะต้องหาทางหนีออกมาเที่ยวจนได้ หลังจากที่เสร็จงานเขาก็เดินลงไปด้านล่าง “เธออยู่ไหน?” “อยู่นั่นครับนาย” มาเฟียหนุ่มปรายตามองตามที่ลูกน้องบอก เขาเห็นพิงค์กำลังดื่มอยู่กับผู้หญิงอีกคน แถมเธอก็ยังเต้นร่อนเอวไปมาท่ามกลางสายตาของหนุ่ม ๆ ที่กำลังจ้องมองอยู่จนตาเป็นมัน “เธอมาที่นี่นานหรือยัง” “มาได้สักพักแล้วครับนาย” “อืม จะไปไหนก็ไป” เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะก้าวขาเดินไปที่โต๊ะของพิงค์ “อีพิงค์ มีหนุ่มหล่อกำลังเดินมาหามึงว่ะ หล่อชิบหายเลย” เพื่อนสนิทกระซิบบอก “อือช่างดิ กูไม่ได้มาหาผู้ชายสักหน่อย” ความหล่อเหลาของมาเฟียหนุ่มทำเอาเพื่อนสนิทของพิงค์ถึงกับยืนจ้องจนไม่กระพริบตา “ไหนบอกว่าไม่มาเที่ยวไงครับเมีย…” น้ำเสียงเย็นยะเยือกเปล่งผ่านริมฝีปากหยักกระซิบลงข้างหูของพิงค์ “…” เธอหันกลับไปมองด้วยสีหน้าที่ตกใจ “นะ นาย” “หนีผัวมาเต้นยั่วผู้ชายแบบนี้เหรอ หืมม รู้มั้ยว่าฉันขี้หึงมาก” “เอ่อ..” “ผัวมึงเหรออีพิงค์” “เอ่อ…” “ครับผมเป็นผัวของพิงค์ คุณกลับบ้านไปก่อนได้เลยนะครับ ส่วนพิงค์เดี๋ยวผมจัดการเอง” “ค่ะ ถ้าอย่างนั้นฝากเพื่อนของดิฉันด้วยนะคะ พ่อสุดหล่อ” “ครับผม จะดูแลให้เป็นอย่างดีเลย” เพื่อนสนิทของพิงค์รีบคว้ากระเป๋าสะพายแล้วเดินออกมา ปล่อยให้พิงค์ยืนตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับไปไหน “หนีผัวมาเที่ยวแบบนี้ไม่ดีเลยนะ สงสัยจะต้องลงโทษซะแล้ว” “….”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD