ตอนที่ 2 :พ่อขาแม่ขาหนูไปก่อนนะ

1589 Words
“คุณพูดจริง ๆ หรอคะแล้วที่บอกว่ารับเลี้ยงคือเลี้ยง ยังไงคะ” ป้าแพงที่รู้สึกใจชื่นกับการได้ยิน ชายสูงวัยบอก ว่าจะรับเลี้ยงไอลิน แต่ในขณะเดียวกันเธอก็อดที่ จะสงใสไม่ได้ กับคำว่ารับเลี้ยงแบบไหน หมายถึง ต้องถูกเลี้ยงดูยังไงไม่ใช่ในถานะเมียน้อยของเสี่ย หรอกนะ ป้าแพงอดคิดไปถึงเรื่องนั้นไม่ได้ เพราะถ้า เป็นแบบนั้นป้าแพงจะไม่ยอมให้ไอลินยอมเด็ดขาด “ผมแค่อยากรับเลี้ยงเธอไว้ แค่ให้เธอเรียนจบส่งเธอ เรียนต่อจากที่พ่อแม่เธอส่งมาก็เหลือระยะเวลาเพียง แค่ 4 ปีกว่าเท่านั้น ค่าใช้จ่ายในระหว่างเรียนผมจะ เป็นคนดูแลให้ทั้งหมด รวมทั้งค่าหอพักและค่าอยู่ ค่ากินต่าง ๆแต่เธอต้องย้ายไปอยู่ที่คอนโดที่ผมเอง เป็นเจ้าของเท่านั้นเพราะถ้าอยู่ที่นี่ต่อ เธออาจจะไม่ สะดวกกับการเดินทางซักเท่าไหร่ อีกอย่างเธออยู่ที่นี่ คนเดียวมันก็จะไม่ปลอดภัยสำหรับเด็กสาวที่กำลังเข้า สู่วัยรุ่นถ้าตกลงตามนี้ ผมจะส่งเสียเธอจนจบแล้วชีวิต ที่เหลือหลังจากนั้นก็แล้วแต่เธอจะเลือกเอง” ธนาน้ำเสียงทุ่มเรียบสายตาจริงจัง ดูหน้าเชื่อถือได้ พอสมควร ป้าแพงมองหน้าชายสูงวัยอย่างอ่านใจในคำพูด ก่อนจะเหลือบตามองไปที่ชายชุดดำที่นั่งถัดไป จากเขาอีก 1 คนที่เดินตามหลังชายสูงวัยนี้ห่างไม่ เกิน 2 ช่วงแขนแทบจะทุกการก้าวเดินของชาย สูงวัย ถ้าจะให้เธอเดาก็คงจะเดาว่าเป็นเจ้านาย กับลูกน้อง แต่ก็ไม่อาจรู้ได้ว่าใช่หรือไม่ใช่ เพราะ คำพูดที่เธออยากจะถามเขา เขาได้พูดออกมาเอง โดยที่เธอยังไม่ได้เอ่ยปากถามเลยด้วยซ้ำ “แล้วฉันจะเชื่อใจคุณได้ใช่ไหมคะ” ป้าแพงถามเสียงเข้มขึ้น “นี่คือนามบัตรของผม ถ้าคุณพร้อมที่จะให้เธอไปอยู่ใน การปกครองของผม ก็ติดต่อผมไปได้เลยครับ“ ชายสูงวัยพูดพร้อมหยิบนามบัตรที่ชายชุดดำยื่นให้ ก่อนที่จะส่งมาให้เธอ ป้าแพงยื่นมือหยิบนามบัตร ก้มหน้าลงอ่านใน นามบัตรมีเบอร์โทรของเจ้าของนามบัตร และชื่อ บริษัทที่เป็นภาษาอังกฤษป้าแพงเอง ก็อ่านไม่ออก ก่อนจะหันหน้าไปมองไอลินที่นั่ง อยู่ที่หน้าโลงศพของพ่อกับแม่ ที่มีเปียโนที่เป็น เพื่อนที่กำลังจะไปเรียนมหาลัยเดียวกันและกิ่ง แก้วลูกสาวของเธอในวัย 16 ปีนั่งอยู่เป็นเพื่อน “ถ้าคุณตกลงค่อยติดต่อผมไปแล้วกันนะครับผมขอ ตัวกลับก่อนครับ” ชายสูงวัยลุกขึ้นยืนก่อนที่จะขอตัวกลับ แล้วเดินเบียง ออกไปทางด้านข้างของป้าแพง พร้อมทั้งชายชุดดำ ที่เดินตามหลัง แล้ววิ่งนำหน้าไปเปิดประตูรถคันหรู สีดำที่เป็นเงาแวววับเมื่อกระทบกับแสงไฟที่ถูกตั้งขึ้น อยู่ริมถนน เมื่อจบจากงานศพ ป้าแพงได้เล่าเรื่องของชายสูงวัยที่ขอรับเลี้ยงดูไอลิน ให้ไอลินฟังทั้งหมด ก่อนจะยื่นนามบัตรให้กับไอลิน “นี่เป็นนามบัตรที่เขาได้ฝากไว้ก่อนที่เขาจะกลับป้าเอง ก็คงจะตัดสินใจแทนหนูไอลินไม่ได้ หนูไอลินลองไป คิดดูก่อนนะ แต่เท่าที่ป้าดูป้าว่าเขาหน้าจะเป็นคนดี อยู่นะ” ป้าแพงเองก็ไปนอนคิดอยู่หลายคืน ว่าจะบอกเรื่องนี้ กับไอลินดีไหม แต่คิดไปคิดมามันอาจจะเป็นโอกาส ที่ดีของไอลินก็ได้ที่จะมีคนเข้ามาอุปการะเธอ แต่ถ้า หากไม่เป็นอย่างที่คิดป้าแพงเองก็พร้อมที่จะให้ความ ช่วยเหลือเท่าที่เธอจะทำได้ “ขอบคุณค่ะป้าแพง” ไอลินก้มหน้ามองนามบัตรที่อยู่ในมือป้าแพง ก่อนที่ จะค่อย ๆ ยื่นมือไปหยิบนามบัตรขึ้นมาอ่านพรางคิด ในใจคุ้น ๆ จังแต่ก็นึกไม่ออก “อืมลองไปคิด ๆ ดูนะ อืม..เอ้ากิ่งแก้วปิดไฟแล้วมานอน ได้แล้วลูก” ป้าแพงพูดจบก็เอนตัวลงนอน คืนนี้เป็นอ่กคืนที่ป้าแพงกับกิ่งแล้วมานอนเป็นเพื่อน ไอลินที่บ้าน ไม่ใช่ว่าเธอกลัวผีแต่ป้าแพงเป็นห่วงกลัว พวกวัยรุ่นผู้ชายแถวนี้จะเข้ามาทำมิดีมิร้ายไอลินเพราะ คนแถวนี้ต่างก็รู้ว่าพ่อแม่ของไอลินเสียชีวิตลงพร้อมกัน “แม่..!!!!!!!“ ตับ ตับ ตับ “หนูกลัวผี“ เสียงฝีเท้าของกิ้งแก้ววิ่งพร้อมร้องเรียกแม่หลังจากที่ ปิดไฟในห้องจนมืดสนิท ”ผีเผออะไรกันไม่มีหรอกพูดอะไรไม่เข้าเรื่อง” เสียงป้าแพงดุกิ่งแก้วภายในความมืด จะมีเพียงก็แต่ แสงไฟจากโทรศัพท์ที่กิ่งแก้วถือวิ่งเข้ามาในที่นอน เท่านั้น “ป้าแพงคะถ้าหนูไปอยู่กับเขาแล้วหนูจะได้เรียนจนจบ ให้ไหมคะ” ไอลินถามขึ้นเพราะเธอได้ยินเสียงป้าแพงถอนหายใจ เบา ๆ ที่นอนถัดจากกิ่งแก้วไป “ได้สิลูกเขารับปากว่าหนูจะได้เรียนต่อจนจบ” ป้าแพงลืมตาภายในความมืดตอบไอลินเสียงเรียบ “งั้นหนูจะไปอยู่กับเขาค่ะ หนูอยากเรียนต่อให้จบค่ะ” ไอลินเองก็ลืมตามองไปทิศทางที่ป้าแพงนอน ถึงจะ มองไม่เห็นเพราะความมืดบดบังจนหมดแต่สัญชาต ญาณ ทำให้ต้องลืมตามองราวกับว่าสบตาคุยกัน เช้าวันรุ่งขึ้น ไอลินเริ่มทยอยเก็บของของพ่อกับแม่ใส่กล่องไว้ เพราะไม่ได้จำเป็นที่จะต้องใช้แล้ว เธอเก็บรูปถ่ายของ พ่อกับแม่ และรูปถ่ายของคนทั้ง 3 ลงในกระเป๋า ใบใหญ่ที่เตรียมไว้สำหรับใส่ของย้ายที่อยู่พราง คิดไปถึงถ้าเธอไปอยู่กับเขาแล้ว ไม่เป็นอย่างที่ เธอคิดเธอจะทำยัง ไงดี จะใช้ชีวิตแบบไหนแล้วจะเริ่มต้นยังไงดี แต่ก็เอา เถอะอย่างน้อย ๆ ก็ได้ลองเผื่ออะไร ๆ มันจะไม่ได้แย่ อย่างที่คิดก็ได้ คิดแล้วเธอก็หยิบนามบัตรขึ้นมากด หมายเลขโทรหาชายสูงวัยทันที ตูด ตูด ตูด ”ฮัลโหล“ เสียงต่ำ นิ่ง “ฮัล..ฮัลโหลสวัสดีค่ะคุณลุง เอ่อ..หนูชื่อไอลินนะคะ เป็นลูกสาวของพ่อกับแม่ที่เพิ่งจะเสียไปเมื่ออาทิตย์ ก่อนน่ะค่ะ” เสียงหวานเล็กที่พูดติด ๆ ขัด ๆ เพราะความกังวน “อ้อ..เอ้อ ๆ ลุงจำได้ตกลงว่ายังไงจะมาอยู่ไหม” เสียงที่ดูสุขุมนุ่มลึก ฟังแล้วดูหน้าเกรงขามผสมกับ อบอุ่นในเวลาเดียวกัน “เอ่อ..อืมค่ะ” “งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เย็นลุงไปรับแล้วกันนะ” “พรุ่งนี้เลยหรอคะ” เสียงหวานถามย้ำก่อนจะมองไปรอบ ๆ บ้านด้วยสาย ตาที่เศร้าลงเพราะเธอยังไม่อยากไปจากที่นี่เธอคิดถึง พ่อกับแม่ที่เพิ่งจะจากไป ทั้งที่นอนด้วยกันอยู่ทุกคืน ก่อนพ่อกับแม่จะเสียไปเมื่อไม่กี่วันนี่เอง “เอ้อใช่ ๆ งั้นเดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะลุงรีบไปประชุมก่อน” ตูด ตูด ตูด เสียงถูกตัดสายไปขณะที่ไอลินกำลังจะอ้าปากพูดต่อ “ฮือ..อะไรกันพรุ่งนี้หรอ” หน้าสวยหวานตอนนี้เปลี่ยนเป็นหน้าเศร้าก้มมอง โทรศัพท์ที่เพิ่งจะคุยเสร็จเมื่อสักครู่รู้สึกปวดร้าวใน ใจกับการได้ยินชายผู้สูงวัยบอกว่าจะมารับเธอในวัน พรุ่งนี้แล้วคั้นจะตัดสินใจว่าไม่ไปเงินในกระเป๋าก็มีอยู่ เพียงแค่ 5000 บาทจากที่ไปทำงานในช่วงปิดเทอม ได้มาเมื่อวันก่อนที่พ่อกับแม่จะเกิดอุบัติเหตุ คิด แล้วน้ำตาก็ไหลเงยหน้ามองไปรอบ ๆ บ้านเสียง ของพ่อ กับแม่ยังดังก้องอยู่ในหู ภาพพ่อกับแม่ยังชัดเจนราว กับว่าท่านยังอยู่ กลิ่นหอมของแม่ที่ติดอยู่บนเสื้อผ้าที่ เธอเอามานอนกอดทุก ๆ คืน ทำไมต้องเกิดขึ้นกัเธอ กันนะร่างบางนั่งพับเพียบลงกับพื้นก้มหน้าร้องไห้มือ เล็กหนึ่งข้างกำเสื้อตรงหน้าอกตัวเองไว้แน่นน้อยใจ ในโชคชตาของครอบครัวตัวเองทั้งที่เธอตั้งใจจะ เรียนให้จบแล้วหาเงินช่วยพ่อกับแม่ แต่ทำไมเรื่องแบบ นี้ถึงเกิดขึ้นกับครอบครัวของเธอกันนะ เย็นวันต่อมา “ป้าแพงหนูไปนะคะ กิ่งแก้วพี่ไปนะ” ไอลินกอดผู้เป็นเหมือนดั่งป้าแท้ ๆ ด้วยความรัก ก่อนจะอ้าแขนไปกอดกิ้งแก้วผู้เป็นดั่งน้องสาวแท้ ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองบ้านหลังที่เธอเคยอยู่อาศัก มาตั้งอต่อายุได้ 10 ขวบ ด้วยน้ำตาที่ค่อย ๆ รินไหล “พ่อขาแม่ขาหนูไปก่อนนะคะ” ไอลินเอ่ยพึมพำในลำคอก่อนที่จะตัดใจก้าวขา ขึ้นรถทั้งน้ำตา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD