บทที่3 ผู้หญิงไร้หัวใจ

1588 Words
การที่เขาอายัดบัตรของเธอ เพียงเพราะต้องการบังคับให้เธอกลับมาที่คฤหาสน์ แต่ใครจะคิดว่า ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ดูอ่อนโยน ไม่เคยพูดเสียงดังกับเขา กลับกล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ เปลี่ยนไปในวันเดียว ทำให้เขาต้องมองเธอใหม่ด้วยความประหลาดใจ หนึ่งพันล้าน เธอกล้าขอจริง ๆ! เทวินทร์ลุกขึ้นยืน ติดกระดุมสูทด้านล่างและออกจากห้อง ผู้ช่วยดนัยก็รีบวิ่งไปกดลิฟต์ให้ในทันที รถมาจอดหน้าธนาคารพอดี ธาราและกรเดินออกจากธนาคาร ทั้งสองคนบ่นพึมพำด้วยความไม่พอใจเพราะถอนเงินไม่ได้ พอเห็นทั้งคู่กำลังจะขึ้นรถเทวินทร์ก็เปิดประตูรถและก้าวยาว ๆ ไปหาเธอ "คุณคิดจะเอาเงินไปแล้วจากผมไปเลยใช่ไหม? ไม่คิดจะติดต่อแล้วเหรอ?" ความน่ากลัวของเขาทำให้ธาราต้องถอยหลังไปทีละก้าว จนแผ่นหลังเธอชนเข้ากับประตูรถ เทวินทร์โมโหจนแทบจะระเบิดออกมา ผู้หญิงคนนี้ไร้หัวใจจริง ๆ คิดจะเอาเงินแล้วจากไป โดยไม่เหลือความผูกพันใด ๆ กับตระกูลนี้เลย ผู้หญิงไร้หัวใจ คงอยากจะไปจากที่นี่นานแล้วใช่ไหม? ธาราอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตั้งคำถามกลับไปว่า  “ไม่ใช่เพราะคุณที่อายัดบัตรของฉันเหรอ?” “ถ้าคุณไม่หนีออกจากบ้าน ผมจะอายัดบัตรของคุณเหรอ? บ้านมีอยู่มีกินมีใช้ทุกอย่าง ดูแลเธออย่างดี? แล้วอยากออกไปลำบากข้างนอกทำไม?” "แต่คุณไม่มีสิทธิ์อายัดบัตรของฉันนะ เงินในนั้นฉันหามาเองทุกบาททุกสตางค์ คุณมีสิทธิ์อะไร?" เทวินทร์อึ้งไปชั่วขณะ แต่งงานกันมา 3 ปี นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเธอพูดกับเขาอวดเก่งขนาดนี้ ปกติเธอเชื่องเหมือนกับหมา “คุณหาเงินได้จากอะไรได้ ทั้งปีมี 365 วัน 300 วันเธอก็เอาแต่ไปดูงานแสดงเครื่องประดับแล้ว” ความหมายของเขาคือ ถ้าไม่มีผม คุณคงอดตายไปแล้ว กรที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ทนฟังไม่ไหว พูดแทรกขึ้นว่า “นายพูดเรื่องไร้สาระอะไร ที่บ้านเรา ธารา……” “ปลิง ใช่ ฉันเป็นแค่ปลิงตัวหนึ่ง” ธาราอยากพูดแทรกด้วยความโกรธ เธอเป็นดีไซเนอร์เครื่องประดับชื่อดังระดับนานาชาติ แต่ใช้ชื่อในวงการในการเผยแพร่ผลงาน เพียงแต่เขาไม่เคยรู้ เธอไม่เคยปกปิดอะไร บางครั้งก็ออกแบบงานอยู่ที่บ้าน แต่เขาไม่เคยสนใจเรื่องของเธอเลย และไม่เคยแม้แต่จะดูภาพร่างผลงานของเธอ ในสายตาของเขา สิ่งเหล่านั้นก็เป็นแค่การขีดเขียนเล่นตามอารมณ์ แต่งงานมา 3 ปี เธอทุ่มเทให้กับตระกูลอย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงความรังเกียจ ในสายตาของเขา เธอไม่มีค่าอะไรเลย นอกจากใช้เงินของเขาไปวัน ๆ จนถึงตอนนี้ ธาราเพิ่งคิดได้ว่าก่อนหน้านี้เธอนั้นคิดเข้าข้างตัวเองมากแค่ไหน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทำลายบรรยากาศที่เงียบสงัด เป็นสายจากคุณปู่ “ธารา วันนี้กลับมากินข้าวกับเทวินทร์นะ กุ้งมังกรส่งตรงมาจากนิวซีแลนด์เพิ่งมาถึง ปู่จำได้ว่าเธอชอบ ปู่ไม่ให้ใครแตะเลย เก็บไว้ให้เธอหมด” “คุณปู่คะ หนู…...” ธารารู้สึกว่าการหนีออกจากสถานการณ์นี้ไปอยู่เงียบ ๆ คนเดียวมันช่างยากเหลือเกิน แต่เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธคุณปู่ได้ เพราะท่านเป็นคนที่รักเธอเหมือนหลานแท้ ๆ เทวินทร์คว้าโทรศัพท์รับแทน "คุณปู่ครับ พวกเราจะกลับไปตอนเย็น" “ยืนอึ้งอยู่ทำไม ไปกันเถอะ?” เขาวางสายแล้วถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ธารายืนนิ่งอยู่ไม่กี่วินาทีก่อนจะถูกเทวินทร์ดึงแขนแล้วพาเธอขึ้นรถ เมื่อเธอนั่งรถลงเรียบร้อย เทวินทร์ก็ให้กล่องเล็ก ๆ ที่ดูละเอียดอ่อนมาให้เธอ ธาราถือกล่องที่เขายัดเยียดมาให้อย่างงง ๆ ก่อนจะมองเขาด้วยความสงสัย "เป็นคอลเล็กชั่นใหม่ของบริษัทในไตรมาสหน้า หลังจากงานแถลงข่าวจะวางขายแบบลิมิเต็ด เธอเอาไปเล่นก่อนก็แล้วกัน" ธาราเปิดกล่องดู สิ่งที่อยู่ข้างในทำให้เธอตกตะลึง นี่ไม่ใช่จี้อัญมณีที่เธอออกแบบเมื่อเดือนที่แล้วหรอกเหรอ? ต้นฉบับที่เธอทำค้างไว้ 80% แล้วจู่ ๆ ก็หายไป เธอค้นหาทั่วทั้งห้องทำงานแต่ก็หาไม่เจอ ทำไมมันถึงกลายมาเป็นคอลเล็กชั่นหลักของบริษัทพันธกิจกรุ๊ปในไตรมาสหน้าไปได้ล่ะ? “ฉันขอถามได้ไหมว่าใครเป็นคนออกแบบจี้อัญมณีนี้?” เทวินทร์พอใจกับปฏิกิริยาของเธอมาก “ลดาเป็นคนออกแบบเอง เธอเพิ่งเซ็นสัญญาเป็นดีไซเนอร์หลักของบริษัทพันธกิจกรุ๊ปเมื่อวานนี้ จี้อัญมณีนี้เป็นผลงานชิ้นโบแดงของเธอหลังกลับมาประเทศ รับรองว่าต้องมาแรงแน่นอน" หลังจากยกย่องลดา เขาก็ไม่ลืมที่จะเหยียดเธอเล็กน้อย “ดูสิ เปรียบเทียบกับภาพที่เธอขีดเขียนเล่น มันต่างกันเยอะเลยนะ” ขณะที่เทวินทร์พูดถึงลดา ใบหน้าของเขาก็แสดงความภาคภูมิใจโดยไม่รู้ตัว เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า คำพูดของเขานั้นแฝงความไปด้วยคำอวดเก่งอย่างเต็มที่ ราวกับกำลังแนะนำสมบัติล้ำค่าให้คนอื่นฟัง ธารารู้สึกขนลุกซู่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีเพียงเสียงเดียวที่ดังก้อง—ผลงานของตัวเองถูกขโมยไปแล้ว ใบร่างต้นฉบับที่ยังไม่เสร็จของเธอตกไปอยู่ในมือลดาได้อย่างไร เธอคิดเท่าไหร่ก็ไม่เข้าใจ เทวินทร์เป็นคนหยิ่งทะนง เขาไม่มีทางที่จะขโมย และยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่สนใจสิ่งที่เธอออกแบบ แต่ต้นฉบับของเธอที่ถูกเก็บไว้ในห้องทำงานที่บ้านกลับหายไปดื้อ ๆ มันจะบินไปถึงมือลดาได้ยังไงกัน? ธาราคิดมากจนเกิดอาการเมารถและคลื่นไส้ เธอเอามือปิดปากและอาเจียนออกมาเล็กน้อย เนื่องจากตอนกลางวันเธอไม่มีเงินกินข้าว ทำให้เป็นโรคกระเพาะ แต่สิ่งที่อาเจียนออกมากลับไม่มีอะไรออกมาเลย เทวินทร์ยื่นกระดาษทิชชูมาให้แล้วถามด้วยความสงสัย "คุณ…... เดือนนี้?" คำถามนี้ทำให้ ธาราชะงักไป เธอเริ่มคิดทบทวนว่า—เดือนนี้เธอมีประจำเดือนหรือยัง? สมองเธอคิดช้าลง เธอจำไม่ได้เลยว่าครั้งล่าสุดที่ประจำเดือนมาคือเมื่อไหร่ รู้แค่ว่านานมากแล้ว เธอยังคงรู้สึกเวียนหัว และพยายามอธิบายว่า "เมา เมารถ" "แหวะ—" พูดจบเธอก็อาเจียนออกมาอีกครั้ง เธอใช้ข้ออ้างเรื่องเมารถเพื่อเบี่ยงเบนความสงสัยของเขา เทวินทร์ล้มเลิกความคิดที่สงสัยไป ก่อนจะสั่งให้ผู้ชายดนัยที่ขับรถว่า "จอดข้างทางก่อน" ผู้ชายดนัยหาที่จอดรถชั่วคราวในขณะที่เพิ่งดับรถธารายังไม่ทันได้พัก โทรศัพท์ของ เทวินทร์ก็ดังขึ้น “เทวินทร์ ฉันรู้สึกแย่มากตอนนี้ คุณมาหาฉันหน่อยได้ไหม?" ภายในรถเงียบสงัด เสียงหวานออดอ้อนของหญิงสาวดังอยู่ในหูของทุกคน ยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวดในใจที่บอบช้ำของธาราเหมือนมีมีดทิ่มลงไปในใจเธออีกครั้ง เทวินทร์เหลือบมองเธอที่เพิ่งอาเจียน ก่อนจะหันหน้าไปสั่งผู้ช่วยดนัยว่า "ขับรถไปที่อพาร์ตเมนต์ไดมอนด์ เรสซิเดนซ์" รถที่เพิ่งจอดอยู่ก็หักเลี้ยวขึ้นถนนใหญ่และมุ่งหน้าไปยังไดมอนด์ เรสซิเดนซ์ ทันทีที่รถเคลื่อนตัวออกไป ธาราก็อาเจียนอีกรอบ หากเธอจำไม่ผิด ไดมอนด์ เรสซิเดนซ์ เป็นของขวัญจากคุณปู่ของเทวินทร์ที่มอบให้พวกเขาตอนแต่งงาน บ้านนั้นถูกจดทะเบียนในชื่อของทั้งสองคน และปล่อยว่างไว้มา 3 ปีแล้ว แต่ตอนนี้เขากลับเอาไปใช้ซ่อนใครบางคนเอาไว้ มันช่างขำเสียจริง เมื่อรถเคลื่อนตัวไป ธาราก็ยิ่งอาเจียนหนักขึ้น ดวงตาเริ่มแดงก่ำ คิ้วขมวดเข้าหากัน เหงื่อผุดขึ้นเต็มจมูก เธอดูอ่อนแอและน่าสงสาร เทวินทร์รู้สึกผิดต่อเธอ เขายื่นมือมาลูบหลังเธอเบา ๆ “อดทนหน่อยนะ ลดาเป็นโรคหัวใจ จะรอนานไม่ได้ หรือไม่คุณก็มาพิงผมก็ได้?” ธารา ขยับตัวหลบไปด้านข้าง จนแทบชิดกับประตูรถ ท่าทีของเธอดูเหินห่างและเย็นชา “ฉันขอร้องล่ะ ปล่อยฉันลงที ฉันเมารถ ตอนนี้รู้สึกแย่มาก” เทวินทร์ขมวดคิ้วเข้าหากัน แล้วเข้ามาใกล้ พร้อมกับดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนอย่างแรง “คุณจะโกรธอะไรนักหนา? คุณจะไปเปรียบกับคนป่วยโรคหัวใจทำไม มันเป็นโรคที่อันตรายมาก ถ้าเกิดอาการขึ้นมา มันไม่ใช่แค่เมารถแล้วอาเจียนสองสามครั้งแบบนี้นะ” ธาราดิ้นจนสุดแรงเพื่อผลักเขาออก แต่แรงของผู้หญิงกับผู้ชายนั้นต่างกันลิบลับ การพยายามของเธอจึงแทบไม่มีผลอะไรเลย เทวินทร์มองเธอที่ดิ้นในอ้อมแขน ก่อนจะก้มหน้าลงไปกระซิบที่ข้างหูเธอ “พิงแบบนี้มันไม่สบายเหรอ? หรือว่าคุณอยากนั่งบนตักผมมากกว่า?”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD