หลังจากที่หญิงสาวตกปากรับคำชายหนุ่ม งานวิวาห์ของเพื่อนสาวคนสนิทจึงผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ชายหนุ่มไม่ได้สร้างเรื่องราวใดๆ ให้ปานตะวันปวดหัวเลย โดยที่เธอไม่รู้เลยว่านี่คือแผนการของชายหนุ่ม
วันนี้เธอก็มีนัดกับทัพไท เพราะว่าเขาต้องการให้เธอเริ่มภารกิจแรกของการเป็นแฟน ชายหนุ่มมารับหญิงสาวที่หน้าบริษัทตามที่ได้นัดหมายกันเอาไว้
เมื่อเวลามาถึงรถยนต์หรูราคาแปดหลักก็เคลื่อนมาจอดที่ตรงหน้าปานตะวัน ก่อนที่ชายหนุ่มจะลดกระจกลงมา ทำให้หญิงสาวมองเห็นว่าเจ้าของรถยนต์หรูนั่นคือทัพไทนั่นเอง ปานตะวันจึงเปิดประตูเข้าไปนั่งพลางถอนหายใจ ไม่รู้ว่าชายหนุ่มจะให้เธอทำอะไรกับภารกิจแรก ตอนนี้เธอเริ่มเครียดกับเรื่องราวที่กำลังจะได้พบเจอ
“แต่งตัวมีรสนิยมดีนี่น่า แบบนี้ค่อยสมกับภารกิจแรกหน่อยครับคนสวย” เขาชมหญิงสาวด้วยแววตาที่บ่งบอกถึงความจริงใจ
“ตกลงคุณจะพาฉันไปไหนเนี่ย” เธอเริ่มระแวงกับคำพูดของเขา
“พาไปพบเตี่ยกับม๊า” ทัพไทเอ่ยออมาน้ำเสียงจริงจัง
“ล้อเล่นน่า คุณจะบ้าหรือเปล่าพาฉันไปพบกับเตี่ยกับม๊าคุณได้ยังไง” ปานตะวันร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ เธอไม่คิดว่าภารกิจแรกของการเป็นแฟนกำมะลอของเขานั่นคือการไปพบบิดามารดาของชายหนุ่มนั่นเอง
“ไม่ได้ล้อเล่น คุณต้องทำให้ม๊าเชื่อว่าคุณเป็นแฟนผมจริงๆ” น้ำเสียงของชายหนุ่มไปได้บ่งบอกเลยสักนิดว่ากำลังล้อเธอเล่นอยู่
“ฉันจะไปทำได้ยังไง ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวคุณซักอย่าง เกิดม๊าคุณถามขึ้นมาแล้วฉันจะตอบได้ยังไง” ปานตะวันเริ่มร้อนรนจนนั่งไม่ติด เธอไม่รู้เลยว่าเธอต้องมาร่วมแผนการโกหกบิดามารดาของชายหนุ่ม ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มเป็นแฟนกำมะลอของเขา
“ได้สิ คุณก็แค่เล่นตามน้ำที่ผมส่งให้ เดี๋ยวถ้าม๊าซักคุณ ผมจัดการเอง” ทัพไทเอ่ยออกมาด้วยความน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสบายใจ ชายหนุ่มไม่ได้รู้สึกเครียดเลยสักนิด เพราะยังไงเตี่ยกับม๊าก็ต้องเชื่อเขาอยู่แล้ว หากเขาบอกว่าปานตะวันนั้นคือแฟนสาวของเขา
“แล้วหลังจากหนึ่งเดือนที่สัญญาของเราหมดลงคุณจะทำยังไง”
“ก็ไม่ทำยังไง ก็คงต้องเลี่ยงม๊าไปก่อน แล้วก็บอกว่าเราเลิกกันแล้ว” ทัพไทยักไหล่ราวกับว่าสิ่งที่เขาทำอยู่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร แต่หญิงสาวอยากจะเตือนชายหนุ่มเหลือเกินว่าสิ่งที่เขาทำอยู่นี้ มันไม่ถูกต้องเลย แต่ดูท่าทางแล้วคนอย่างชายหนุ่มคงไม่สนใจฟังคำเตือนจากเธออย่างแน่นอน