ถ้ายังใส่สั้นฉันจะถือว่าเธออ่อย

1384 Words
ตึก ๆ ๆ รองเท้าส้นสูงเหยียบกระทบพื้นบันไดเสียงดังระรัว ก่อนปรากฏร่างสาวสวยหุ่นเล็ก ผิวขาวผ่องในชุดนักศึกษาสวมเสื้อช็อปสีแดงทับวิ่งหน้าตั้งลงมาจนเส้นผมปลิวไสว “สายอีกแล้วงั้นดิ” ผู้เป็นพี่ชายที่กำลังนั่งกินข้าวเช้าร่วมกับเพื่อนรักเงยหน้าขึ้นมองคนที่วิ่งเหนื่อยหอบมาหยุดอยู่ข้างโต๊ะ ก่อนจะคว้าแซนด์วิชขึ้นกัดใส่ปาก “ค่ะ วันนี้วิชาสำคัญด้วย แคลไปก่อนนะคะ” เธอยกมือขึ้นสวัสดีทั้งพี่ชาย และหันไปสวัสดีสามีของตัวเองอย่างอึกอัก เพราะไม่รู้ว่าควรทำแบบนี้ไหม เกิดมาก็เพิ่งมีสามีเป็นตัวเป็นตนกับเขา “เดี๋ยวฉันไปส่ง” “มะ ไม่เป็นไรค่ะ” แคลรีบโบกมือปฏิเสธ แต่มีหรือที่จะห้ามคนอย่างไทเกอร์ได้ “ไปรอที่รถซะ ฉันขึ้นไปเอาของแป๊บเดียว จะเข้าบริษัทด้วย” ว่าแล้วก็หันหลังเดินกลับขึ้นไปบนห้อง ปล่อยให้แคลยืนหน้าเซ็งอยู่แบบนั้นเพราะตกอยู่ในสภาวะจำยอม “ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ” ฟีนิกซ์ยิ้มขำ ก่อนจะยื่นกาแฟส่งให้กับน้องสาวพลางใช้มือเลื่อนเก้าอี้ออกให้น้องนั่งรอก่อน “แคลแค่กลัวไปสายน่ะค่ะ” “นั่นมหาลัยในเครือเรา ไม่มีใครกล้าไล่แคลออกหรอกน่า” ฟีนิกซ์ว่าด้วยท่าทางสบาย ๆ ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ได้สบายใจขึ้นสักนิด เขาถึงรับรู้ได้ในทันทีว่ามันคงไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้แน่ คงจะเป็นเรื่องที่เขากังวลอยู่ “เมื่อคืนเป็นไงบ้าง” ฟีนิกซ์ยังคงถามต่อ แม้ไม่ได้แสดงสีหน้าและอาการว่าให้ความสนใจ แต่เขาก็ตั้งใจฟังสิ่งที่น้องสาวกำลังเผชิญเป็นอย่างดี “ก็ดีค่ะ” “ดีแล้วทำไมใต้ตาเป็นแบบนั้น” “...” แคลนิ่งงันไปอย่างตกใจ ก่อนจะคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้ากล้อง เพื่อส่องดูว่าหน้าเธอโทรมถึงขั้นไหนแล้ว เนื่องจากเมื่อคืนสะดุ้งตื่นตลอด เหตุเพราะกลัวจะถูกปล้ำจากสามีโดยไม่รู้ตัว “เอาตรง ๆ นะ แคลไม่ไว้ใจเขาเลยอะ” แคลยอมสารภาพตามตรง ก่อนจะทิ้งก้นนั่งลงเก้าอี้พลางยกกาแฟขึ้นดื่มอึกใหญ่ ตามด้วยไส้กรอกที่อยู่บนโต๊ะ “มันทำอะไรแคลหรือเปล่า?” “ยังไม่ทำค่ะ แต่ยังไงเขาก็ทำแน่ พี่รู้ไหมเขาบอกให้แคลยอมทำเรื่องอย่างว่าด้วย ถ้าไม่ทำ เขาจะไปหาความสุขนอกบ้าน คิดดูสิ เพื่อนพี่นิสัยเสียขนาดไหน” พูดพร้อมกับชักหน้าตึง หวนนึกถึงเรื่องเมื่อคืนแล้วก็เริ่มโมโหขึ้นมาอีกครั้ง “พี่ฟีนิกซ์ขำอะไรคะ นี่ไม่ใช่เรื่องตลกเลยนะ” จากที่คิดว่าจะมีคนเข้าใจ แต่พี่ชายกลับหัวเราะออกมาทำให้เธอฉุนเฉียวเข้าไปอีก “มันก็คงเอ็นดูเรานั่นแหละ เลยอยากพูดแหย่เล่น” “ไม่เล่นค่ะ เขาจริงจัง!” เธอยืนยันเสียงดังขึ้น แต่ยังไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม คนที่ขึ้นไปบนห้องก็เดินกลับลงมาพร้อมเอกสารแฟ้มสีดำในมือ สองพี่น้องเลยต้องหยุดบทสนทนาเอาไว้เพียงแค่นี้ “ไปเรียนเถอะ เดี๋ยวสาย” “พี่ไม่กลับวันนี้ไม่ได้เหรอ” แคลออดอ้อนอย่างน่าสงสาร พลันยกมือขึ้นเกาะแขนพี่ชายเอาไว้หลวม ๆ “ไม่ได้หรอก ยังมีหลายอย่างต้องกลับไปเคลียร์ ช่วงนี้ราคายางดิ่งมาก พี่คงต้องกลับไปเคลียร์ปัญหาฝั่งนั้นก่อน แต่พี่สัญญาว่าจะรีบมาหาใหม่นะ” “ร่ำลากันเสร็จยัง อาจารย์เช็กชื่อแล้วมั้งป่านนี้” ไทเกอร์เอ่ยขัดในขณะที่สองพี่น้องกำลังกอดลากันกลม แคลเลยต้องยอมผละออกแล้วเดินคอตกมาขึ้นรถ วันนี้ไม่มีคนขับประจำตัว เพราะไทเกอร์ขับรถมาส่งเอง ส่วนแคลก็นั่งอยู่เบาะข้างคนขับเงียบ ๆ ตลอดทางเต็มไปด้วยบรรยากาศหนักอึ้ง ไม่มีใครพูดอะไรออกมาทั้งสิ้น จนกระทั่งไทเกอร์ต้องยอมเป็นฝ่ายง้างปากพูดออกมาก่อน “วันนี้ฉันกลับบ้านค่ำนะ กินข้าวก่อนเลย ไม่ต้องรอ” “คุณป้า เอ่อ... คุณแม่กับพี่มิลินล่ะคะ” เธอหันหน้าไปแล้วถามถึงแม่ของไทเกอร์และน้องสาวของอีกฝ่าย ที่อุตส่าห์เดินทางกลับมาจากเยอรมันเพื่อร่วมยินดีในงานมงคลสมรสเมื่อคืนนี้ “จะเดินทางกลับวันนี้แหละ” ได้ยินแบบนี้แคลก็อดใจแป้วไม่ได้ ตั้งแต่นี้ไปต้องอยู่ร่วมบ้านกับไทเกอร์แค่สองคนงั้นเหรอ นี่แค่คืนเดียว เธอก็อึดอัดใจจนอยากตะโกนร้องไห้ออกมาดัง ๆ แล้ว “ทำไม อยู่กับฉันมันอึดอัดมากเหรอ” เสียงของคนข้างกันทำให้แคลรีบหันขวับกลับไปมอง พบว่าตอนนี้อีกฝ่ายกำลังตั้งหน้าตั้งตาขับรถอยู่ “ค่ะ” เธอตอบออกไปตามความจริง เพราะอยากให้อีกฝ่ายรู้ตัวว่าการที่เขาทำแบบนี้ มีแต่ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะตกลงสู่ก้นเหวลึก “ทำใจแล้วกันนะ เพราะถ้าหนึ่งปีแล้วทุกอย่างไม่ดีขึ้น เราอาจจะต้องรออีกสักสองปี หรือสามปี คาดเดาไม่ได้เลย” “งั้นก็ขอภาวนาให้มันสิ้นสุดภายในหนึ่งปีนะคะ” “อยากหย่ากับฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?” คราวนี้คนหน้าพวงมาลัยหันมาถามสีหน้าจริงจัง แคลก็ใช่จะเกรงกลัว รีบเชิดหน้าขึ้นพูดอย่างมั่นใจ “ก็อยากหย่า พอ ๆ กับที่พี่อยากหย่านั่นแหละค่ะ” “หึ ทำใจแล้วกันนะ” ไทเกอร์แค่นหัวเราะในลำคอเบา ๆ คล้ายยั่วยุให้แคลโมโห และมันได้ผล แต่กระนั้นแคลก็พยายามซ่อนอาการหงุดหงิด เอาแต่เบนหน้ามองนอกกระจกรถจนกระทั่งรถมาจอดเทียบหน้าตึกเรียน “ขอบคุณนะคะ แต่รอบต่อไปให้คนขับรถมาส่งก็ได้ ไม่จำเป็นต้องลำบาก” แคลบอกสีหน้านิ่ง พร้อมกับเอื้อมมือเปิดประตู “เดี๋ยว” เสียงของเจ้าของรถทำให้มือเล็กชะงักไปกลางอากาศ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นถอยหลังกรูดชนเบาะเพราะคนข้าง ๆ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ “พะ พี่จะทำอะไร” ทั้งที่กลัวจนเนื้อเต้น แต่แคลก็ยังจ้องหน้าไทเกอร์นิ่ง แสร้งทำเหมือนไม่ได้เกรงต่ออีกฝ่าย “กระโปรงสั้น มันมีผลกับการเรียนหรือเปล่า” เขาหลุบตาลงมองที่ชายกระโปรงผืนสั้น ที่ยิ่งนั่ง มันก็ยิ่งรั้งชายกระโปรงทรงเอให้ถลกสูงขึ้นเหลือเพียงคืบ “มันไม่ได้สั้นค่ะ ที่มหาลัยเขาก็ใส่แบบนี้กันทั้งนั้น” “แต่ฉันมองว่ามันสั้นแบบไม่จำเป็น” หมับ! “...” มือเย็น ๆ แตะลงที่ต้นขาทำเอาแคลสะดุ้งเฮือก ก่อนจะมีสติรีบผลักอกชายตรงหน้าให้ออกห่าง ทว่ากลับถูกเขารวบกอดและดันตัวชิดเบาะรถแน่นขึ้น “พะ พี่เสือ! จะทำอะไร นี่มันในมหาลัยนะ” เธอถามเสียงรัวตัวเริ่มสั่น จนเผลอเอ่ยเรียกชื่อเมื่อครั้งที่เธอยังเป็นเด็ก ส่งผลให้ปรากฏรอยยิ้มบนมุมปากไทเกอร์ด้วยความพอใจ “รอบนี้แค่เตือนไว้ แต่รอบหน้าถ้ายังใส่สั้นแบบนี้อีก... ฉันจะหาว่าเธอให้ท่าฉัน” พูดเข้าข้างตัวเองที่สุด! แคลมองคนตรงหน้านิ่งคล้ายกับโกรธจนอยากลุกขึ้นบีบคอ แต่เธอก็เป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ จะไปล้มช้างแบบนั้นได้ยังไงกัน “ยังไม่ไปอีก ไหนบอกสาย หรือว่า... ต้องรอให้ฉันลงโทษก่อน” สายตาที่โลมเลียทำให้แคลรีบผละตัวออกทันที ก่อนจะผลักประตูออกไปอย่างฉุนเฉียวแล้วเดินขึ้นตึกไปด้วยความหัวเสียขั้นสุด ยิ่งเธอฟึดฟัดแบบนี้ ไทเกอร์ก็ยิ่งพอใจจนเผลอยิ้มออกมาราวกับเจอของเล่นที่ถูกใจ “หึ ดื้อให้มันตลอดล่ะ อย่าเพิ่งใจเสาะขอหย่าไปซะก่อน...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD