บรรยากาศในงานเลี้ยงเต็มไปด้วยความสนุกสนาน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถูกนำเข้ามาในงานไม่จำกัด ตามประสานักศึกษาจบใหม่ที่กำลังคึกคะนอง หลังจากที่อธิการบดีกล่าวเปิดงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทุกคนในงานกำลังเต้นรำด้วยจังหวะสนุกสนาน ไม่เว้นแม้แต่ปลายฝนสาวเรียบร้อยที่ขอปลดปล่อยความเคร่งเครียดที่ต้องเผชิญมาตลอดสี่ปี ปลายฝนรับแก้วน้ำสีอำพันจากเพื่อนของเธอมาดื่ม เพื่อความสนุกสนานที่เพิ่มมากขึ้นจากฤทธิ์แอลกอฮอล์
เธอไม่ทันได้สังเกตุว่ามีสายตาหนึ่งคู่กำลังยกแก้วสีอำพันขึ้นจิบ และมองเธอผ่านแสงไฟสลัว ไม่มีใครรู้ว่าชายหนุ่มเพลย์บอยผู้แสนเพอร์เฟคคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ ในขณะที่สาวๆหลายคนก็พยายามเข้ามาชนแก้วกับชายหนุ่ม เพราะสาวหลายคนก็มีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถจับหนุ่มหล่อและเพอร์เฟคแบบเขาได้อยู่หมัด แต่กลับไม่มีใครที่เข้ามาสะดุดตาเขาเลย ชายหนุ่มจึงชนแก้วแล้วหว่านเสน่ห์กลับไปตามแบบฉบับของเขาเท่านั้น เพราะวันนี้อินทัชมีเป้าหมายแล้ว และเป้าหมายของเขาคือปลายฝนนั่นเอง
หลังจากที่ทุกคนดื่มและสนุกสนานกับวงดนตรีที่ทางมหาวิทยาลัยจัดให้แล้ว เวลาก็ล่วงเลยผ่านถึงเที่ยงคืนซึ่งเป็นเวลาที่งานเลี้ยงต้องจบลง ทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับออกมาที่รถ บางคนกลับไปกับเพื่อนสนิท และบางคนนำรถมาเอง ส่วนปลายฝนนั้นเธอเรียกใช้บริการแทกซี่ เพราะเธอไม่อยากจะรบกวนบรรดาเพื่อนสนิทของเธอ
ปลายฝนจึงขอตัวเดินออกมาเรียกแทกซี่ทั้งที่มีอาการมึนศีรษะเล็กน้อย แต่เธอก็ยังมีสติและที่สำคัญปลายฝันใส่เสื้อคลุมทับสายเสื้อมกล้ามข้างใน เธอจึงค่อนข้างมั่นใจว่าเธอไม่ได้แต่งตัวล่อแหลมเป็นเหยื่ออาชญากรรมอย่างแน่นอน
มีเพื่อนบัณฑิตหลายคนที่ออกมาจากในงานมายืนรอแทกซี่เหมือนกัน แต่บรรดาเพื่อนเหล่านั้นก็ได้รถกลับไปก่อนเธอ เพราะหอพักใหม่ที่ใกล้ที่ทำงานของปลายฝนนั้นไกลจากที่นี่มาก จึงไม่มีแทกซี่คันไหนยอมไปส่งเธอ
ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงบริเวณป้ายรถเมล์ก็เหลือเพียงปลายฝนคนเดียวเท่านั้น เธอเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา เพราะเธอเรียกแทกซี่ไปหลายคันแล้ว แต่พอเธอเอ่ยปากบอกเป้าหมาย ก็ไม่มีแทกซี่คนไหนยอมรับเธอเป็นผู้โดยสาร
จนกระทั่งรถยนต์สปอร์ตหรูลัมโบกินีรุ่นล่าสุดมาจอดเทียบข้างเธอ พร้อมกับร่างสูงที่ก้าวลงมาจากรถด้วยความมั่นใจ ก่อนจะเอ่ยปากทักทายหญิงสาวด้วยแววตากรุ้มกริ่ม
“ให้ฉันไปส่งมั้ย ดึกขนาดนี้ผู้หญิงอย่างเธอยืนรอแทกซี่คนเดียว ระวังจะโดนฉุดนะ” อินทัชใช้น้ำเสียงนุ่มเพื่อหลอกล่อให้หญิงสาวตายใจ
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันรอแทกซี่ได้ ไม่รบกวนคุณหรอกค่ะ” ปลายฝนปฏิเสธออกไปเพราะจำได้ดีว่า ชายหนุ่มตรงหน้าคืออินทัช คาสโนว่าสุดหล่อที่ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า และที่สำคัญเขาเคยมาจีบเธอแล้วเธอปฏิเสธเขา ชายหนุ่มคนนี้อันตรายยิ่งกว่าสิ่งใด
“เธอแน่ใจเหรอว่าจะมีแทกซี่ไปส่งเธอ ฉันเห็นเพื่อนที่รอกับเธอเขากลับไปหมดแล้ว นี่ฉันอุตส่าห์มีน้ำใจไปส่ง เธอไม่รับก็ไม่เป็นไร งั้นฉันไปล่ะ” อินทัชกล่าวอย่างมีชั้นเชิง ทำให้ปลายฝนรุ้สึกกลัวเล็กน้อย เพราะตอนนี้นอกจากเธอแล้วก็ไม่มีใครยืนอยู่ที่ป้ายรถเมล์กับเธอ และตอนนี้ก็เกือบจะตีหนึ่งอยู่แล้ว รถแทกซี่ที่อยู่บนถนนก็น้อยลงทุกที หญิงสาวลังเลเป็นอย่างมาก เธอไม่อยากไปกับเขา แต่ดูเหมือนว่าทางเลือกของเธอน้อยลงทุกที
"คุณไปเถอะค่ะ ฉันรอตรงนี้ได้" ปลายฝนเอ่ยออกไปด้วยความรู้สึกลังเล แต่เธอกับเขาเคยมีคดีกันมาก่อน และเธอก็ไม่อยากจะไปใกล้ชิดกับเขา
"ตามใจ" อินทัชกล่าวพร้อมกับหันหลังเดินขึ้นรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ชายหนุ่มขับออกไปแล้ว ปลายฝนพยายามเรียกแทกซี่ที่ผ่านไปมาอยู่หลายคัน แต่ปรากฎว่าไม่ใครยอมรับเธอไปส่ง ต่างก็อ้างเหตุผลต่างๆนาๆ
ปลายฝนนั่งลงอย่างท้อใจ ถ้าเธอไม่มัวแต่เกรงใจเพื่อนคนอื่น ป่านนี้เธอก็คงไม่ต้องมาลุ้นอยู่แบบนี้ เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆ หญิงสาวแทบจะหมดความหวังในการเรียกแทกซี่ เธอจึงนั่งรอที่ป้ายรถเมล์อย่างไร้จุดหมาย
เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง รถสปอร์ตลัมโบกินีคันคุ้นตาแล่นมาจอดตรงหน้าหญิงสาวอีกครั้ง พร้อมกับชายหนุ่มหล่อร่างสูงที่เดินลงมาจากรถ แล้วตรงดิ่งมาหาหญิงสาว แล้วก็ยิ้มละมุนให้กับหญิงสาว
"นี่ยังไม่ได้แทกซี่กลับอีกเหรอ" อินทัชกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่ม
“คุณอย่ามายุ่งกับฉันเลยกลับไปเถอะค่ะ” ปลายฝนเอ่ยจริงจัง
“ขึ้นรถมาเถอะ เดี๋ยวฉันไปส่ง ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกน่า หรือเธอจะอยู่ที่นี่ให้ใครมาลากไปข่มขืนก็ตามใจนะ ฉันบอกไว้ก่อนนะว่าฉันจะไม่ย้อนกลับมาอีกเป็นครั้งที่สามอย่างแน่นอน” อินทัชพยายามหว่านล้อมปลายฝนพร้อมทั้งข่มขู่เธอไปในตัว มันทำให้ปลายฝนรู้สึกกลัวขึ้นมา เพราะตอนนี้มันก็ดึกมากแล้ว เธอไม่ควรจะเสี่ยงอยู่ที่นี่ตามลำพัง อย่างน้อยเธอกับเขาก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกัน เขาคงไม่ทำอะไรเธอหรอก
ปลายฝนพยายามคิดในแง่ดี เธอลังเลใจและคิดทบทวนอยู่สักพัก ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยความยากลำบาก เพราะเธอไม่อยากจะยุ่งกับคนแบบเขาอีก
“ฉันขอติดรถไปด้วยนะคะ”
“ก็ขึ้นมาสิ ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกน่า” อินทัชเอ่ยย้ำอีกครั้งแต่แววตาของชายหนุ่มตอนนี้แพรวพราวเหลือเกิน แล้วเขาจึงหันหลังเดินกลับไปประจำตำแหน่งคนขับ ชายหนุ่มแอบยิ้มร้าย ในที่สุดแผนของเขาก็ประสบความสำเร็จ เวลาแห่งการเอาคืนกำลังจะมาถึงในไม่ช้า