เวลาผ่านไปสองอาทิตย์แล้วที่มีนาย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของอีริค ตอนนี้ทั้งคู่เริ่มปรับตัวได้เริ่มคุ้นชินกับการมีใครบางคนอยู่ด้วย เริ่มชินกับการทานข้าวเช้าและข้าวเย็นพร้อมกัน จนทำให้บางครั้งมีนาแอบรู้สึกว่าตัวเองดูมีตัวตนมากกว่าตอนอยู่กับคนในครอบครัวเสียอีก ความรู้สึกอบอุ่นที่เธอไม่เคยได้รับจากครอบครัวกลับได้รับจากเขาคนที่เป็นเจ้าหนี้ แม้จะโดนเขาพูดจาประชดประชันบ้างในบางครั้งก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกแย่เหมือนตอนที่ครอบครัวไม่สนใจเธอ
“จะเริ่มฝึกงานแล้วใช่มั้ย”
“ค่ะ”
“ไปฝึกที่ไหน”
“ยังไม่รู้เลยค่ะ”
“งั้นก็ไปฝึกที่บริษัท เผื่อจบไปต้องทำงานใช้หนี้จะได้ไม่ต้องเริ่มต้นใหม่”
“คะ เอ่อ ค่ะ”มีนามองหน้าเขาด้วยความสับสนเพราะไม่คิดว่าเธอจะมีโอกาสได้ไปฝึกงานในบริษัทที่ใหญ่ขนาดนั้น
อีริครับช่วงดูแลกิจการบริษัทต่อจากพ่อแม่ บริษัทนี้เป็นบริษัทผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงมานานหลายสิบปี ตั้งแต่เรียนจบอีริคก็เข้ามารับช่วงต่อเพราะพ่อแม่อยากเกษียณเพื่อออกท่องเที่ยวพักผ่อน ตั้งแต่นั้นมาหน้าที่ดูแลบริษัทก็อยู่ภายใต้การดูแลของอีริค ซึ่งเขาก็ไม่ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง เพราะตั้งแต่เขาเข้ามาทำงานผลประกอบการของบริษัทก็มีแนวโน้มดีขึ้นมาโดยตลอด
"เดี๋ยวจะส่งหนังสือเชิญไปให้ที่มหาวิทยาลัย"
"ค่ะ ขอบคุณค่ะ"มีนาทั้งตื่นเต้นและดีใจจนพูดไม่ออก ทำได้เพียงกล่าวขอบคุณเขาสั้นๆ
บริษัท RIC electronics
มีนายืนสูดหายใจลึกเอาอากาศเข้าเต็มปอดอยู่หน้าบริษัทของอีริค วันนี้เป็นวันแรกที่เธอจะเข้ามาฝึกงานในแผนกการตลาด ตอนนี้เธอตื่นเต้นมากมือเย็นเจี๊ยบ มีนายืนหลับตาตั้งสติบอกตัวเองให้สู้ๆและให้กำลังใจตัวเองว่าเธอทำได้อยู่แล้วก่อนจะเดินเข้าบริษัทไป
"สวัสดีค่ะ หนูชื่อมีนามาฝึกงานวันนี้วันแรกฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ"มีนาแนะนำตัวเองเมื่อเดินไปถึงแผนกการตลาดโดยมีรสาหญิงสาววัยกลางคนหัวหน้าแผนกยืนรอรับเธออยู่
"สวัสดีจ้า พี่ชื่อรสานะเป็นหัวหน้าแผนก เดี๋ยวพี่จะพาไปทำความรู้จักกับพี่ๆในแผนกนะ"
รสาและเพื่อนร่วมงานทุกคนต้อนรับสาวน้อยผู้มาใหม่ด้วยท่าทางยิ้มแย้มและเป็นมิตรทำให้มีนารู้สึกเบาใจและคลายความตื่นเต้นลงบ้างที่บรรยากาศในที่ทำงานค่อนข้างดี
"นี่เอมจะเป็นพี่เลี้ยงหนูตลอดการฝึกงานนะ มีอะไรปรึกษาพี่เค้าได้ตลอดเลย"รสาฝากฝังมีนากับเอมมือขวาของเธอ
"สวัสดีค่ะพี่เอม มินฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ"
"ได้เลย พี่จะสอนงานหนูอย่างสุดความสามารถเลย นี่โต๊ะทำงานของหนูนะ"เอมทักทายสาวน้อยด้วยรอยยิ้มและชี้ไปที่โต๊ะทำงานใหม่ของเธอที่จัดไว้ข้างๆโต๊ะทำงานของเอม
"บอส สวัสดีค่ะ บอสต้องการอะไรหรือเปล่าคะถึงมาที่แผนก"รสารีบออกมาต้อนรับอีริคเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาในแผนกของเธอ ทุกคนในแผนกต่าง เลิ่กลั่กกันใหญ่เพราะปกติบอสของพวกเขาจะไม่ค่อยมาปรากฎตัวให้ใครเห็น ยิ่งเดินมาที่แผนกต่างๆยิ่งแล้วใหญ่
"ผมแค่แวะมาดูความเรียบร้อย ได้ข่าวว่ามีเด็กฝึกงานมาใหม่เป็นยังไงบ้าง ขาดเหลืออะไรหรือเปล่า"
"ไม่ค่ะบอส ทุกอย่างโอเคสาฝากเอมให้เป็นพี่เลี้ยงน้องมินแล้วค่ะ บอสไม่ต้องเป็นห่วง"
"อืม ฝากคุณดูแลด้วยแล้วกันอย่าให้เสียชื่อเสียงบริษัท"
"ค่ะบอส"
ระหว่างที่อีริคพูดคุยกับรสาแต่สายตาของเขากลับจ้องมองมาที่มีนาสาวน้อยผู้มาใหม่ไม่วางตา จนเธอนั่งตัวเกร็งไปหมดเพราะไม่รู้ว่าการปรากฏตัวของเขาครั้งนี้เขาต้องการอะไร ไม่รู้ว่าเขาตั้งใจจะมาจับผิดเธอหรือแค่มาดูความเรียบร้อย แต่คนที่เกร็งน่าจะไม่ใช่เธอคนเดียวเพราะเธอสังเกตเห็นรุ่นพี่คนอื่นๆก็นั่งสงบเสงี่ยมไปด้วย เมื่ออีริคเดินจากไปทุกคนต่างถอนหายใจยาวพร้อมกันจนมีนาสงสัยจึงหันไปถามเอมที่นั่งอยู่ข้างๆ
"พี่เอมคะ บอสเค้าน่ากลัวมากหรอคะมินเห็นทุกคนไม่เป็นตัวของตัวเองเวลาเห็นหน้าบอส"
"ไม่ได้น่ากลัวแต่เนี๊ยบมาก ทุกอย่างต้องเป๊ะต้องเรียบร้อย อย่าให้ได้ดุใครก็เอาไม่ลง คนเดียวที่รู้ใจและเข้าใจบอสที่สุดน่าจะเป็นคุณมาร์คผู้ช่วยส่วนตัวเท่านั้น และปกติบอสไม่ค่อยลงมาที่แผนกไหนถ้ามาให้เตรียมตัวไว้เลยต้องมีอะไรแน่ๆ แต่แปลกที่วันนี้บอสแค่แวะมาดูความเรียบร้อยสงสัยกลัวมินเอาไปเม้าท์ว่าบริษัทใหญ่โตดูแลเด็กฝึกงานไม่ดีหรือเปล่า"เอมบอกมีนา
"น้อยๆหน่อยแม่เอม นินทาบอสแบบนี้ไม่ดีนะ"รสาปรามลูกน้อง
"ขอโทษค่ะพี่สา"
ตลอดทั้งวันมีนาตั้งใจเรียนรู้งานอย่างเต็มที่ ไม่ว่าใครจะให้ทำอะไรเธอก็ทำหมดโดยไม่เกี่ยงงานแม้แต่น้อย ทำให้พี่ๆในแผนกเอ็นดูในความขยันและความกระตือรือร้นของเธอ
"ฝึกงานวันแรกเป็นยังไงบ้าง"เอริคถามมีนาขณะนั่งทานมื้อเย็นกันอยู่
"คะ ก็ดีค่ะ พี่ๆทุกคนใจดีแล้วก็เป็นกันเองค่ะ"
"อย่ามัวแต่เล่น อย่าลืมว่าผมให้ไปฝึกงานเพื่อให้ทำงานให้เป็น..."
"มินไม่ลืมค่ะ มินจะตั้งใจเรียนรู้งานเพื่อจะได้ทำงานใช้หนี้ให้คุณอย่างเต็มที่ค่ะ"มีนารีบบอกเขาเพราะคิดว่าที่เขาถามเธอเพราะกลัวเธอจะทำงานได้ไม่คุ้มค่าจ้างของเขา แต่เธอยังฟังที่อีริคพูดไม่จบเพราะความจริงเขาจะบอกเธอว่าให้ตั้งใจเรียนรู้งานจะได้มีความรู้ติดตัว ต่อไปถ้าไปทำงานที่ไหนจะได้ไม่ลำบาก แต่เขาเองก็ใช้คำพูดดีๆไม่เป็นเพราะตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยพูดเอาใจใครเลยและในทางกลับกันมีแต่คนมาคอยเอาใจเขามากกว่าทำให้เขาเข้าหาคนไม่เก่ง
"ดี จำไว้ให้ขึ้นใจแล้วกัน"
บรรยากาศระหว่างมื้ออาหารเย็นคืนนั้นเต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วนใจทั้งคู่นั่งทานข้าวเงียบๆโดยไม่พูดคุยกันอีก หลังทานมื้อเย็นเสร็จมีนาออกมานั่งรับลมที่สวนหน้าบ้าน ตั้งแต่เธอย้ายมาอยู่ที่นี่ชีวิตของเธอดูเหมือนจะสงบสุขขึ้นไม่ต้องดิ้นรนเหมือนเมื่อก่อนถ้าไม่นับรวมคำพูดที่เขาคอยพูดเชือดเฉือนใจเธอถือว่าการอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดไว้ตอนแรก เมื่อคิดถึงครอบครัวน้ำตาของเธอก็ไหลลงมาโดยไม่รู้ตัว เดือนกว่าแล้วตั้งแต่เธอย้ายมานี่ที่แม้แต่ข้อความสักข้อความแค่ถามว่าเป็นอย่างไรบ้างยังไม่มีใครส่งมาหาเธอสักคน ครอบครัวของเธอต่อจากนี้ไปคงเหลือแค่ตัวเองเพียงคนเดียว มีนานั่งมองบ้านหลังใหญ่ตรงหน้านี้พลางคิดว่าต่อจากนี้ไปเธออาจจะต้องใช้ชีวิตที่นี่จนหมดลมหายใจ มีนานั่งหลับตาสูดหายใจลึกปล่อยให้น้ำตาไหลอาบเต็มสองแก้ม เธอตั้งใจแน่วแน่ว่าต่อจากนี้ไปไม่ว่าชีวิตของเธอจะเป็นเช่นไรเธอจะเข้มแข็งไม่คิดถึงเรื่องที่ผ่านมาอีก แม้จะต้องอยู่ที่นี่ทั้งชีวิตเธอก็จะใช้ชีวิตให้มีความสุขที่สุดตามอัตภาพของตัวเอง อีริคยืนมองสาวน้อยที่นั่งร้องไห้อยู่ในสวนหัวใจของเขาก็เจ็บจี๊ดขึ้นมา เขารู้สึกสงสารและเห็นใจเธอมาก ยิ่งเห็นเธอไม่เรียกร้องอะไรยิ่งเป็นห่วงแต่เพราะความปากหนัก ดูแลเทคแคร์คนไม่เป็นของเขาจึงได้แต่เฝ้ามองเธออยู่เงียบๆผ่านหน้าต่างบานใหญ่อย่างนั้นอยู่เป็นเพื่อนเธอจนกว่าเธอจะกลับเข้าบ้านไปนอน