ธีรเดชนึกถึงเรื่องก่อนหน้า ดาวิกาขอร้องเขาว่าต้องการเป็นพรีเซนเตอร์ เพื่อเป็นรางวัลที่เธอทำรายได้จากการลงทุนทำละครเรื่องแรกได้กำไรให้เขา อีกทั้งยังได้รับรางวัลนำหญิงอีก เธอกำลังมีกระแสละครเรื่องแรกประสบความสำเร็จ หากได้เป็นพรีเซนเตอร์จะส่งผลให้เธอเป็นที่รู้จักอีกทั้งยังส่งผลดีกับเธอและบริษัทของเขาเขาคิดว่าทางไอยวรินทร์มีงานแน่นคงยังไม่ได้เซ็นสัญญา จึงตกปากรับคำให้ดาวิกามาเป็นพรีเซ็นเตอร์แทน ธีรเดชครุ่นคิดว่าจะทำยังไงถึงจะเป็นผลดีกับทุกคน
" โทรไปบอกทางนั้นว่า เรื่องพรีเซ็นเตอร์ยังคงเป็นไอยวรินทร์เหมือนเดิม"
" บอสคะ แล้วคุณดาวิกาหล่ะค่ะ ไหนจะข่าวที่แถลงไปเมื่อวานอีก ทุกคนรับรู้หมดแล้วว่าพรีเซนเตอร์สินค้าตัวใหม่ของเราคือคุณดาวิกา "
" ก็เป็นทั้งสองนั่นแหละ น้ำหอมกลิ่นล่าสุดที่พายเป็นคนปรุงให้ไอยวรินทร์เป็นพรีเซ็นเตอร์ ส่วนลิปสติกตัวใหม่ที่กำลังผลิตให้ดาวิกาเป็น แก้ข่าวออกไปว่ามีการสื่อสารผิดพลาด ไปจัดการตามนี้ "
" ค่ะบอส"
" เดี๋ยวก่อน "
" คะ บอสมีอะไรจะสั่งเพิ่ม"
" ไปตามพายมาหาฉันด้วย"
" ได้ค่ะบอส"
ก็อก ก็อก ก็อก
" รุจีบอกว่าบอสต้องการพบฉัน"
" ฉันบอกหลายครั้งแล้ว ว่าอยู่กับฉันสองคนไม่ต้องเรียกบอส"
" ไม่ได้หรอกค่ะ ที่นี่เป็นบริษัทและคุณก็เป็นเจ้านายของฉัน"
ธีรเดชถอนหายใจเฮือกใหญ่ เห็นแววตาดื้อรั้นอยู่ในดวงตากลมโตคู่นั้นของเธอ
" เรื่องพรีเซนเตอร์ ผมขอโทษที่ไม่ได้บอกคุณก่อน ดาวิกากำลังมีกระแสถ้าเธอได้เป็นพรีเซนเตอร์จะส่งผลดีต่อบริษัท "
เมื่อเห็นว่าภูริตานิ่งเงียบเขาจึงพูดต่อ
" ไอยวรินทร์ยังเป็นพรีเซนเตอร์น้ำหอมของคุณเหมือนเดิม ส่วนดาวิกาผมจะให้เขาเป็นพรีเซนเตอร์ของลิปสติกตัวใหม่แทน"
" ในเมื่อคุณตัดสินใจแล้วก็ตามนั้น คุณเป็นประธานบริษัทอยากทำอะไรก็ทำไม่จำเป็นต้องบอกฉัน ฉันเป็นแค่พนักงานคนหนึ่งมีหน้าที่แค่ทำตามคำสั่ง บอสมีเรื่องแค่นี้ใช่ไหมค่ะ ถ้าอย่างงั้นฉันขอตัวก่อน "
" เดี๋ยวก่อน "
ภูริตาที่หันหลังกำลังจะเดินออกไปก็หยุดชะงัก
" เย็นนี้รอกลับบ้านพร้อมผม"
" ฉันขับรถมาเองค่ะ"
" เดี๋ยวให้อาชาขับไปไว้ที่บ้าน ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณด้วย"
" ค่ะ"
ภูริตาครุ่นคิดว่าเขามีเรื่องอะไรจะคุยกับเธอนะหรือว่าจะคุยเรื่องหย่า ก็ดีจะได้นัดวันหย่าให้มันจบๆไป
" มึงโทรไปจองร้านอาหารไว้แล้วก็สั่งดอกไม้ช่อใหญ่ไว้ด้วย"
" ครับบอส "
" เดี๋ยวก่อน เอาเป็นกุหลาบแดงอย่างเดียวดอกใหญ่ๆช่อใหญ่ๆ"
" ครับ ได้ครับบอสผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้"
ธีระเดชกระตุกยิ้มมุมปาก เขาคงละเลยภูริตามากไป เธอถึงดูเย็นชากับเขา เขาจึงถือโอกาสพาเธอไปกินอาหารอร่อยๆแล้วก็สั่งช่อดอกไม้ให้เธอ เขารู้ว่าเธอชอบดอกกุหลาบพอเธอได้เห็นต้องดีใจมากแน่
ตอนเย็นธีรเดชพาเธอมาที่ร้านอาหารหรู พนักงานนำอาหารมาเสริฟเต็มโต๊ะ
" ผมไม่รู้ว่าคุณชอบกินอะไรเลยสั่งมาเยอะเลย คุณอยากได้อะไรเพิ่มก็สั่งได้เลย"
" ไม่หล่ะ คุณพาฉันมาที่นี่คงไม่ใช่แค่กินข้าวอย่างเดียวหรอกมั้ง พูดธุระของคุณมาเถอะ"
ธีรเดชขมวดคิ้วเธอคิดว่าเขาต้องมีเรื่องจะพูดกับเธอเท่านั้นเหรอถึงได้พาเธอมาที่นี่ทำไมไม่คิดบ้าง ว่าเขาก็อยากจะกินข้าวกับเธอในฐานะสามีภรรยานอกสถานที่เหมือนคู่อื่นเขา คิดมาถึงตรงนี้ก็รู้สึกผิดขึ้นมา ที่ผ่านมาเขาไม่เคยพาเธอออกไปกินข้าวสองต่อสองเลย เธอจะน้อยใจก็เป็นเรื่องธรรมดา ก่อนจะได้พูดอะไรก็มีคนเอาดอกไม้มาส่งเขารับดอกไม้ไว้แล้วยื่นให้ภูริตา ภูริตาไม่อยากรับแต่เมื่อมองดูโต๊ะอื่นที่มองดูเธอกับเขาด้วยสายตาชื่นชม ก็ไม่อาจฉีกหน้าเขาได้รับช่อดอกไม้มา เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเขากดรับสายแล้วมีสีหน้าเคร่งเครียด
" ได้ ผมจะไปเดี๋ยวนี้"
" เกิดอะไรขึ้น"
" ดาเกิดอุบัติเหตุผมต้องไปดูเธอ ผมขอโทษ ถ้าคุณจะนั่งกินที่นี่ต่อผมจะให้อาชาอยู่เป็นเพื่อน"
" ยังไงคุณก็ต้องไปใช่ไหม "
ธีรเดชไม่ตอบได้แต่พยักหน้า
" แล้วถ้าฉันขอไม่ให้คุณไปหล่ะ "
" เธอเกิดอุบัติเหตุไม่รู้ว่าเจ็บมากน้อยแค่ไหนผมต้องไปดูเธอ "
" ฉันเข้าใจแล้ว คุณไปเถอะ ฉันอยู่คนเดียวได้ไม่ต้องให้ใครมาอยู่เป็นเพื่อน"
ธีรเดชรู้สึกผิดเขาลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนตัดสินใจรีบเดินออกไป ภูริตายิ้มขมขื่น ยังไงเธอก็ไม่เคยสำคัญสำหรับเขาอยู่แล้ว ในใจเจ็บหน่วงขึ้นมาน้ำตาเอ่อคลอ สั่งตัวเองว่าอย่าร้องไห้ ห้ามร้องเด็ดขาด เธอเรียกพนักงานให้ห่ออาหารทุกอย่างกลับบ้านยังดีที่เขาจ่ายเงินแล้วอาหารดีๆทั้งนั้นถ้าจะทิ้งเสียดายแย่ รับอาหารจากพนักงานเสร็จก็เดินออกมาจากร้านจะโยนช่อดอกไม้ทิ้งก็เสียดาย สายตาเหลือบไปเห็นเด็กชายสองคนกำลังขายพวงมาลัย
" เด็กน้อยพี่ให้ "
" ให้ผมเหรอครับ"
" ใช่จ๊ะ มีแต่อาหารอร่อยๆเอาไปแบ่งกันกินสิ "
เด็กชายตัวเล็กหน้าตามอมแมมยิ้มดีใจยกมือไหว้ขอบคุณแล้วรับถุงอาหารไป
" แล้วก็นี่ด้วย นี่เป็นกุหลาบนำเข้าจากอังกฤษ ถ้าพวกเธอเอาไปขายเป็นดอก ดอกนึงได้หลายร้อยเลยนะ"
" ขอบคุณครับพี่สาว"
้เด็กชายทั้งสองยกมือไหว้ขอบคุณแล้วรับช่อดอกไม้พากันเดินจากไป ภูริตายิ้มมองดูเด็กทั้งสองที่พากันนั่งกินอาหารที่เธอให้ไปโดยไม่รู้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองเธออยู่ตลอด ตั้งแต่ที่เธออยู่ในร้านอาหารแล้ว
" เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาคิดว่าเล่นขายของอยู่รึไง เมื่อวานประกาศอย่างเป็นทางการวันนี้ให้คนโทรมาบอกว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิมเป็นการสื่อสารผิดพลาด เฮอะ "
พิมพิลาบ่นไม่หยุด
" ช่างเถอะพี่พิม ไหนๆก็รับงานมาแล้วอีกอย่างพายตั้งใจปรุงน้ำหอมกลิ่นนี้มาเพื่อฉันโดยเฉพาะ"
" ก็ใช่ไง พายเคยบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากริน จึงได้ปรุงกลิ่นนี้ขึ้นมาแล้วก็เจาะจงว่ารินต้องเป็นพรีเซนเตอร์เท่านั้น แต่เมื่อวานดันประกาศเปิดตัวดาวิกาซะงั้น มันน่าโมโหไหมหล่ะ พอมาวันนี้บอกทุกอย่างเหมือนเดิม เขาคิดว่าเราว่างงานคอยรับแต่งานเขาอย่างเดียวรึไง ทำแบบนี้มันหยามกันชัดๆ"
" ใจเย็นค่ะพี่พิม ฉันก็ไม่คิดว่าเขาจะกลับไปกลับมาแบบนี้ แต่จะว่าไปถ้าดาวิกาได้เป็นพรีเซนเตอร์น้ำหอมที่ฉันปรุง ฉันก็เสียความรู้สึกจริงๆ ทั้งที่ตั้งใจให้รินแท้ๆ เป็นแบบนี้ฉันเลยคิดว่าจะลาออกดีไหม"
" ลาออกเลยเหรอ"
ไอยวรินทร์ถามด้วยความตกใจ
" ลาออกเลยพาย แล้วออกมาตั้งบริษัทเองเลยพี่สนับสนุนเต็มที่ น้ำหอมที่พายปรุงต้องขายดีแน่เชื่อพี่ พี่จะช่วยโปรโมทเต็มที่เลย"
" ขอบคุณค่ะพี่พิม"
"ถ้าอย่างงั้นฉันก็จะเป็นพรีเซนเตอร์ให้แกฟรีไม่คิดเงินเลย"
" ฮ่าฮ่า ขอบใจแกมากไว้วันนั้นฉันจะเรียกใช้บริการแกแน่ แต่การเปิดบริษัทต้องใช้เงินทุนไม่น้อยเลย ฉันไม่มีตังค์อ่ะ"
" จบเลย"
" ฮ่า ฮ่า เพื่อนรักช่างเถอะ คนเก่งอย่างแกถึงออกจากที่นั่นก็มีอีกหลายที่อ้าแขนรับแก"
"อือ มาชนแก้ว "
" ว่าแต่ คิดถึงอิงมันเหมือนกันเนอะ"
" ใช่ ตั้งแต่ได้งานใหม่เป็นบาร์เทนเดอร์อยู่บนเรือสำราญที่อเมริกา ก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน นางได้ทำงานที่นางชอบก็ดีใจกับนางด้วย"
" ไม่แน่นะ ถ้าติดต่อมาอีกทีก็นู่นเลย เชิญให้เราไปงานแต่งมันกับเศรษฐีสักคนก็ได้ "
" เออใช่ ใครจะไปรู้ตัวเล็กๆดำๆแบบนั้นป่านนี้แขกต่างชาติรุมจีบมันจนเลือกไม่ถูกแล้วก็ได้ ฮ่าฮ่า "
ภูริตา ไอยวรินทร์ และพิมพิลาผู้จัดการของไอยวรินทร์ นั่งกินดื่มกันอยู่พักใหญ่ก็แยกย้ายกันกลับ ภูริตาเดินโซเซเปิดประตูเข้าบ้านไม่คิดว่าจะเจอธีรเดชนั่งอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขก เขาไม่ได้อยู่กับดาวิกาหรอกเหรอ ทันทีที่เขาเห็นเธอก็ลุกขึ้นเดินตรงเข้ามาหา
" ทำไมพึ่งกลับมาตอนนี้ ทำไมถึงไม่รับสายผม "
ภูริตาหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋าที่แท้แบตหมดนี่เอง เธอไม่สนใจว่าเขาจะโทรมาทำไม ช่างสิ ในเวลานี้เขาควรอยู่กับคนรักสิแล้วมายืนทำอะไรตรงนี้ แล้วปากก็ไวกว่าความคิดถามเขาออกไป
" ทำไมคุณไม่อยู่ดูแลคนรักคุณหล่ะ มายืนถามอะไรไร้สาระอยู่ตรงนี้"
ธีรเดชขมวดคิ้วมองดูเธอที่หน้าแดงกร่ำตาปรือ
"คุณดื่มมาเหรอ"
" เรื่องของฉัน "
ภูริตาเดินเลี่ยงเขาเดินโงนเงนจะขึ้นบันไดแต่ก็ถูกธีรเดชอุ้มขึ้นมา เขาอุ้มเธอพาเข้าห้องนอนวางเธอลงบนเตียงนุ่ม