เชอรีนขมวดคิ้วขึ้นพร้อมกับสาวเท้าก้าวถอยไปข้างหลัง ความรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เท้าเรียวเล็กถอยไปเรื่อยๆจนสุดท้ายมาหยุดยืนอยู่ตรงบริเวณโซฟาใจกลางห้องนั่งเล่น
“อะ..” ร่างบางล้มตัวลงไปบนโซฟาโดยที่ทีมือหนาของเวหารองรับร่างกายของเธอเอาไว้หญิงสาวที่กลัวว่าตัวเองอาจจะได้รับอันตรายก็หลับตานิ่งอยู่แบบนั้นจนเมื่อเธอได้ยินเสียงรวมไปถึงกลิ่นกายของเขาจึงทำให้เธอเผลอลืมตาขึ้นมอง
“หึ~ เชิญนั่งได้ตามสบาย ฉันไปอาบน้ำก่อน” เวหายิ้มมุมปากไปกับความน่ารักน่าเอ็นดูของหญิงสาวร่วมชั้นเรียนพลางปล่อยร่างกายเธอให้เป็นอิสระเตรียมพร้อมที่จะก้าวเท้าเดินออกไป
“ดะ..เดี๋ยวสิ เราไม่นั่ง เราอยากออกไปจากห้องนาย” เชอรีนรีบตะโกนตามหลังเขาไปติดๆทำร่างแกร่งหันกลับมาแล้วโยนผ้าขนหนูของตัวเองใส่หัวเชอรีน
“เอ้านี่! เอาไปเช็ดตัวให้แห้งหรือว่าอยากจะอาบน้ำที่นี่ด้วยมั้ย ชุดของฉันก็มีเยอะแยะเลือกใส่ได้ตามสบาย” เวหาพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำหรูของตัวเอง เสียงเล็กตะโกนตามหลังอย่างคนที่ดูจะหัวเสียเล็กน้อย ก็นะผ้าเช็ดตัวเลยนะที่เขาโยนมาใส่หัวเธอแล้วจะไม่ให้เธอหงุดหงิดได้อย่างไร
“ฮึ่ย~ ขอบใจแต่ไม่เป็นไร เรารอกลับไปอาบน้ำที่บ้านทีเดียวเลยดีกว่า”
10 นาทีผ่านไป
เวหาเดินออกมาจากห้องนอนด้วยชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ขายาวขาดบริเวณเข่า มองไปทั่วบริเวณห้องก็ไม่พบหญิงสาวร่วมชั้น เขารีบเดินหาเธอไปรอบๆห้องจนไปพบเธอที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนโซฟาตัวยาวภายในห้องนั่งเล่น ใบหน้าหล่อเหลาคลี่ยิ้มออกมาแล้วค่อยๆหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองนำขึ้นมากดถ่ายรูปเชอรีน
แชะ!
เสียงจากกล้องโทรศัพท์มือถือของชายหนุ่มดังขึ้นทำให้ร่างบางที่นอนหลับใหลอยู่ที่โซฟาตัวยาวนั้นเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาในทันทีและไม่รอช้าเขารีบเก็บโทรศัพท์มือถือของตัวเองลงกระเป๋ากางเกงยีนส์พร้อมกับเอ่ยเสียงเรียบปลุกเธอ
“ตื่น! จะกลับบ้านมั้ย?”
“อื้อ~” เชอรีนค่อยๆลืมตาขึ้นก่อนที่จะพบว่าเวหาได้มายืนอยู่ตรงหน้าของเธอแล้ว หญิงสาวตกใจเบิกตากว้างเพราะไม่คิดว่าเขาจะยืนอยู่ตรงนี้ร่างบางรีบหยัดกายลุกขึ้นนั่งดวงตาของเธอยังคงงัวเงียอย่างเห็นได้ชัด
“เสร็จแล้วเหรอ” เธอพูดไปพลางก็ใช้มือแคะขี้ตาไปด้วย เมื่อสักครู่เธอว่าแค่จะนอนเล่นๆรอเขาเท่านั้นแต่ไม่คิดเลยว่าโซฟานี้จะทั้งนิ่มและดูดพลังทำให้ง่วงจนหลับไปได้ถึงขนาดนี้
“อืม เช็ดน้ำลายหน่อย” เวหาที่เห็นท่าทางอาการของเชอรีนก็แอบอมยิ้มมุมปากเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะกลับไปทำหน้านิ่งเฉยเหมือนเดิม เขาชี้มือไปที่ใบหน้าตรงบริเวณมุมปากของคนตัวเล็กที่ตอนนี้ได้มีคาบน้ำลายเปรอะเปื้อนอยู่เล็กน้อย
“เปื้อนเหรอ..” เชอรีนรีบยกมือขึ้นเช็ดมุมปากของตัวเองอย่างลวกๆไม่คิดเลยว่าตัวเธอเองจะต้องมาเผลอทำเรื่องน่าอายอะไรแบบนี้ แล้วไหนจะต้องให้ผู้ชายคนอื่นมาบอกด้วยอีก เวหาเดินไปหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ เชอรีนรีบเดินตามเขาไปติดๆทั้งคู่เดินออกจากห้องแล้วลงไปยังชั้นลานจอดรถ
“จำวิธีขึ้นได้หรือยัง..” ร่างเล็กที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าส่งยิ้มบางพร้อมกับเริ่มขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ตามวิธีที่เขาบอก เชอรีนกอดเอวหนาเอาไว้แน่นเพราะครั้งก่อนเขาทำเธอแทบจะตกลงจากรถพอมาคราวนี้เธอเลยรีบกอดเอวเขาเอาไว้แน่น
บ้านเลิศกิจเดชา
รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่วิ่งมาส่งเธอตามที่ได้บอกไปก่อนหน้านั้นซึ่งในขณะนี้เป็นเวลาเกือบที่จะ1 ทุ่มกว่าแล้ว เชอรีนลงจากรถและไม่ลืมที่จะกล่าวคำขอบคุณที่เขาคนนี้ได้ขับรถพาเธอมาส่งยังบ้านตามที่ได้บอกเอาไว้
“ขอบใจนะที่พามาส่งถึงบ้านเลย เอ่อ..แล้วนายยังไม่ได้บอกเราเลยนะว่าอยู่ห้องไหน” เชอรีนยิ้มกว้างขอบคุณเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่ได้ขับรถมาส่งเธอแต่แล้วความคิดที่ว่าเขายังไม่ได้บอกเธอเลยว่าเรียนอยู่ห้องไหนก็ผุดขึ้นมาในหัว
“เดี๋ยววันหลังเราเข้าไปทักเธอเอง” เวหาเปิดกระจกหมวกกันน็อคมองหญิงสาวตรงหน้าที่เอาแต่พูดนั่นพูดนี่ไม่มีหยุด ชายหนุ่มตัดสินใจที่จะยังไม่บอกอะไรกับเธอทั้งนั้นเขาคิดว่าเอาไว้วันพรุ่งนี้เขาค่อยเข้าไปหาเธอที่ห้องเรียนก็แล้วกัน
เชอรีนที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ เธอเป็นคนที่ไม่คิดที่จะถามเซ้าซี้อะไรใครมากอยู่แล้วถ้าเจ้าตัวบอกว่ายังไงเธอก็โอเคตามนั้น สองเท้าเรียวเล็กเริ่มก้าวถอยไปด้านหลังมือเล็กไม่ลืมที่จะยกขึ้นโบกมือร่ำลาเพื่อนร่วมชั้นเรียน
“อืม เอาแบบนั้นก็ได้ งั้นเราไปก่อนนะ”
“เดี๋ยวสิ! นี่บ้านเธอเหรอ..” เวหาที่ดูเหมือนว่ายังจะนึกอะไรขึ้นมาได้ก็เอ่ยถามเธอออกไป ใบหน้าหล่อเหลาจ้องมองเธอตาไม่กระพริบ เชอรีนพยักหน้าเป็นเชิงว่าใช่แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเขาถามเธอแบบนี้ทำไมหรือเขาอาจจะคิดว่าบ้านหลังนี้หลังใหญ่จนดูเหมือนไม่ใช่บ้านเธอหรือเปล่า
“อื้มใช่แล้ว นี่บ้านเราเองนายมีอะไรเหรอ..” ดวงตากลมโตกระพริบตาถี่ๆด้วยความสงสัยรีบยืนยันบอกไปอีกครั้งดีกว่าว่านี่นะคือบ้านของเธอจริงๆ เธอน่ะไม่ได้แอบอ้างและก็ไม่ได้โกหกอะไรเขาเลย
“เปล่า..ไม่มีอะไรหรอกเอาไว้เจอกันที่โรงเรียนนะ”
เวหาส่ายหน้าเพียงเล็กน้อยแล้วจับดึงกระจกหมวกกันน็อคลงพร้อมกับสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์แล้วขับออกไปทันที เชอรีนที่เห็นว่าเพื่อนร่วมชั้นได้ขับรถออกไปแล้วก็ไม่รอช้ารีบเปิดประตูเดินเข้าไปในรั้วบ้านของตัวเองทันที
ทันทีที่เดินขึ้นมาบนห้องนอนของตัวเองแล้วเสียงเล็กของผู้เป็นน้องสาวก็ดังมาแต่ไกล เด็กหญิงตัวเล็กที่ยังคงสวมใส่ชุดนักเรียนมัธยมต้นเดินเข้ามาหาเธอที่กำลังยืนไขกุญแจห้องของตัวเองอยู่
“ฮั่นแน่~ ชะเอมเห็นนะว่ามีผู้ชายมาส่งพี่ที่หน้าบ้านอะ”
ซึ่งเสียงที่ดังแถมยังแหลมของยัยน้องสาวตัวดีทำเชอรีนรีบยกนิ้วชี้ขึ้นมาป้องปากพูดบอกให้น้องสาวหรี่เสียงลงหน่อย เธอกลัวว่าพ่อกับแม่อาจจะมาได้ยินเข้าแล้วก็เป็นเธอที่ต้องอธิบายร่ายยาว
“ชู่ว~ อย่าเสียงดังเดี๋ยวพ่อกับแม่ได้ยิน พี่ขี้เกียจต้องมานั่งตอบคำถามพวกท่าน” เชอรีนที่ไขกุญแจได้แล้วก็ไม่รีรอที่จะเปิดประตูห้องแล้วผลักยัยน้องสาวตัวดีเข้าไปในห้องนอนของเธอ
“ว่าแต่ใครอะ แฟนของพี่เชอรีนเหรอ” ชะเอมน้องสาวคนเล็กของบ้านรีบเอ่ยถามพี่สาวตาลุกวาว ความที่ยังเป็นเด็กน้อยของเธอจึงทำให้เธอนั้นอยากรู้อยากเห็นไปหมด
เชอรีนอ้าปากค้างเมื่อโดนน้องสาวตั้งคำถามจู่โจมกันแบบนี้ ใบหน้าสวยไม่รีรอที่จะตอบปฏิเสธเสียงแข็ง ร่างบางเริ่มปลดกระดุมเสื้อนักเรียนไปพลางก็อธิบายไปด้วยความต้องการที่จะอยากให้น้องสาวของเธอได้รับรู้ว่าผู้ชายคนนั้นไม่ใช่แฟน เขาเป็นแค่เพื่อน เพื่อนร่วมชั้นเรียนเท่านั้น
“ไม่ใช่! เขาเป็นเพื่อน เพื่อนที่โรงเรียนพวกเราเจอกันที่ห้างน่ะ เขาก็เลยอาสามาส่งเพราะเห็นว่ามันมืดแล้ว”
“อ๋อก็แล้วไปนึกว่าพี่สาวคนสวยจะแอบมีแฟนซะแล้ว” ชะเอมพยักหน้าอย่างเข้าใจที่แท้ผู้ชายคนนั้นคนที่มีรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ก็คือเพื่อนของพี่สาวเธอนั่นเอง เชอรีนถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายเบื่อเหลือเกินที่ต้องมานั่งตอบคำถามให้กับน้องสาวตัวแสบของเธอ