[ว่าไงริตา นึกยังไงถึงโทรมาหาผมก่อน เอ๊ะหรือว่าหิว] ภูริเอ่ยเย้าหญิงสาวก่อน ซึ่งคำว่าหิวที่เข้าใจกันเพียงสองคนก็เล่นเอาเธอหน้าแดงเหมือนกัน
“ริตามีเรื่องอยากจะปรึกษาค่ะ” หญิงสาวเอ่ยออกไปด้วยความหวั่นใจ เธอไม่รู้เลยว่ามันจะออกหัวออกก้อย แต่อย่างน้อยคนที่ร่วมทำให้มันเกิดความน่าหวั่นใจนี้ก็ควรจะรับผิดชอบในผลการกระทำของตนเองเช่นกัน
[วันนี้มาแปลกแฮะ ท่าทางจะซีเรียส] ชายหนุ่มผู้ไม่รู้เรื่องราวความเครียดของหญิงสาว ยังคงเอ่ยออกมาเสียงสดชื่น
“ริตาจริงจังนะคะ” หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยความจริงจังไม่ได้ติดเล่นเลยสักนิด
[ไหนมีอะไรบอกผมมาซิ ผมก็อยากรู้ว่ามันจะแค่ไหนเชียว เรื่องซีเรียสของคุณ] ภูริถามหญิงสาวอย่างเสียไม่ได้ เขาคิดว่าเธอคงไม่มีอะไรมากหรอก อย่างมากก็น่าจะแค่เครียดเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องงาน ซึ่งบางครั้งเขาก็ให้คำปรึกษาเธออยู่บ่อยๆ
“งั้นก็ตั้งใจฟังนะคะ” เฌอริตายังไม่มีความกล้าพอที่จะเล่า เธอก็เลยถ่วงเวลาออกไปแบบนั้น
[เข้าเรื่องเถอะครับคุณผู้หญิง ผมเริ่มอยากรู้แล้วนะครับว่าเรื่องอะไรเนี่ย] ภูริเริ่มสงสัยกับท่าทางของหญิงสาว ปกติเธอไม่ใช่คนที่จะมาอ้ำๆ อึ้งๆ แบบนี้
“ประจำเดือนของริตาเคลื่อนไปหลายวันแล้วค่ะ” ในที่สุดหญิงสาวก็ตัดสินใจบอกเขาออกไปได้
[หมายความว่ายังไง] ภูริไม่อยากจะเชื่อหู เขาเอ่ยถามออกไปทันที
“ก็หมายความว่าริตาอาจจะท้องก็ได้ค่ะ” เฌอริตารีบบอกทันควัน
[ท้องไม่ได้นะ ถ้าท้องก็ต้องเอาเด็กออก] ด้วยความที่กลัวว่าหญิงสาวจะโกหกเพื่อเปลี่ยนสถานะระหว่างเขาและเธอ ทำให้เขาโพล่งออกไปแบบนั้น แต่คำตอบของเขาเล่นเอาคนฟังเจ็บไปทั้งหัวใจ เขาคิดได้ยังไง ถ้าเธอท้องจริงเด็กคนนี้ก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา เขาจะทำร้ายลูกตัวเองได้ลงคอเหรอ คนอย่างเขานี่มันรักใครไม่เป็นจริงๆ นอกจากรักตัวเองเท่านั้น
“คุณนี่มันสุดๆ เลยนะคะ นี่ขนาดริตายังไม่ตรวจคุณยังออกตัวขนาดนี้เลย ริตาอาจจะไม่ท้องก็ได้” เฌอริตาเอ่ยออกไปเสียงหยัน คำว่าเจ็บปวดก็ยังน้อยไป นี่เธอหวังอะไรกับคนอย่างเขาอย่างนั้นหรือ คนที่คิดทำลายได้แม้กระทั่งชีวิตบริสุทธิ์ที่ไม่ได้มีความผิดอะไรเลย
[ถ้าคุณไม่ท้องก็ดีไป แต่ถ้าท้องขึ้นมาทางออกของผมมีเพียงทางเดียว นั่นก็คือเอาเด็กออกซะ] เขาไม่รู้หรอกว่าหากหญิงสาวท้องขึ้นมาจริงๆ เขาจะให้เธอเอาออกหรือไม่ แต่การขู่เพื่อปรามเธอไม่ให้ปล่อยท้องเพื่อจับเขา นั่นคือจุดประสงค์ที่เขาบอกเธอออกไปเช่นนั้น
“งั้นก็แค่นี้แหล่ะค่ะ เดี๋ยวริตาไปตรวจก่อน ถ้าท้องริตาก็จะทำอย่างที่คุณบอกค่ะ” ต้องเข้มแข็งแค่ไหนถึงจะพูดออกไปเช่นนั้นได้โดยที่ไม่รู้สึกอะไร แต่เธอก็ต้องทำแบบนั้น ก่อนที่เธอจะร้องไห้ออกมาต่อหน้าเขา
ทั้งสองวางสายไปอย่างงงๆ แต่ละฝ่ายกลับมาคิดทบทวนถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แม้ว่าภูริจะรู้สึกผิด แต่เขาก็ต้องทำเช่นนั้น เพราะเขาไม่สามารถให้สถานะอื่นนอกจากบำเรอให้เธอ ส่วนเฌอริตานั้นก็ร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด เธอพยายามสงบสติอารมณ์อยู่สักพัก ก่อนที่เธอจะออกไปซื้อที่ตรวจการตั้งครรภ์ ต่อให้วันนี้เธอตรวจแล้วพบว่าเธอไม่ท้อง เธอก็ควรจะเลิกยุ่งกับคนไม่มีหัวใจอย่างเขา คนที่คิดถึงแต่ตัวเอง ไม่เคยคิดถึงคนอื่นเลย
แต่แล้วทุกอย่างก็เหมือนว่ารุมเร้ามาที่เธอ เมื่อผลตรวจจากชุดตรวจการตั้งครรภ์ก็ออกมาเป็นบวกชัดเจน ใช่แล้วเธอกำลังอุ้มท้องลูกของเขาอยู่ ถ้าเธอยังอยากอยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้กับเขา เธอก็ต้องเอาลูกออก ซึ่งคนเป็นแม่อย่างเธอไม่มีวันทำเช่นนั้น เพื่อรักษาชีวิตลูกในท้องไว้ เธอจะเป็นคนเลือกเดินจากไปจากชีวิตของเขาเอง