เวลาหกโมงเย็น
@ฟรานซิส เรสเตอรอง
ณ ร้านอาหารหรูหรา กลางมหานครแห่งแสงสี วันศุกร์ที่สิบสามยามพลบค่ำ ฝูงชนคลาคล่ำตามริมถนนย่านธุรกิจ บ้างรีบร้อนคืนรัง บ้างแวะตามร้านผับบาร์ คู่นั้นแย้มยิ้มสุขสม บางคู่ดูสายตาแสนทุกข์ระทมไม่ต่างจากตน
พีย์ ภาคย์พิรดนย์ กำลังกระดกติญาเนลโลเข้าปากรวดเดียวอึกใหญ่ ทว่ามันช่างไร้รสชาติเมื่อเทียบกับความทุกข์ขมในหัวใจ อดีตภรรยาผู้ทรยศทำให้เขาแทบไม่อยากมีตัวตน หากคนอื่นรู้คงมีแต่จะอับอาย ที่ต้องมานั่งเศร้าเสียใจเพราะผู้หญิงที่ไม่รักดี
ชายหนุ่มกระดกน้ำเมาเข้าปากอีก ใบหน้าคมคายยังคงบึ้งตึง ทว่าความหล่อเหลายังคงเจิดจรัส เสน่หานั้นเป็นรองแค่หวังอี้ป๋อ หัวคิ้วขมวดย่นไม่ยอมคลาย ดวงตาประกายเจ็บปวดฉายชัด
"รับเครื่องดื่มเพิ่มไหมคะ?" เสียงใสไถ่ถามตามหน้าที่ เมื่อเห็นลูกค้าระดับวีไอพีดื่มไวน์หมดไปเป็นขวดที่สอง พีย์แหงนหน้าขึ้นมองหญิงสาวในชุดนักศึกษารัดรูป หล่อนสวมเสื้อกันเปื้อนสีทึบ มีชื่อร้านปักอยู่บนอกด้านซ้าย
"อีกขวด" เขาเอ่ยปากสั่งไวน์ ทั้งที่ยังคงจ้องมองพนักงานสาวเสิร์ฟอยู่เช่นนั้น หน้าตาหล่อนช่างสะสวยปนน่ารักราวตุ๊กตาฝรั่ง
"รอสักครู่ค่ะ" ใบหน้าละมุนระบายยิ้มอ่อน หล่อนหมุนตัวเดินกลับไปยังเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม เรือนร่างสมส่วนมากเสน่ห์ กระโปรงสั้นอวดขาอ่อนเรียวสวยโดดเด่นแต่ไกล พีย์ไม่ยอมละสายตาจากเรือนร่างอันน่าปรารถนานั้นแม้แต่วินาทีเดียว จนกระทั่งหญิงสาวเดินกลับมาพร้อมกับไวน์ขวดใหม่
"ขอให้มีความสุขกับการดื่มด่ำค่ะ" มือเรียวสวยไร้ที่ติกำลังรินน้ำเมาลงแก้ว กลิ่นกรุ่นน้ำหอมฝรั่งเศสกระจายไออ่อนเมื่อหล่อนขยับขวดไวน์ออกจากขอบแก้ว
เรือนผมเงางามสีบลอนด์เข้มมัดรวบไว้หลวมๆ ดวงตากลมโตประกายน้ำตาลหม่นมีเสน่ห์ ช่างฉายชัดแววตาแห่งความฉลาดเฉลียว ผิวใสผุดผ่องผิดแผกเชื้อสายไทย เรียวปากอวบอิ่มฉ่ำวาว ปลายจมูกเชิดรั้นสันโด่งคม บ่งบอกเชื้อสายตะวันตกอย่างชัดเจน หล่อนเป็นลูกครึ่งที่หน้าเหมือนฝรั่งเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์
"ผมมาทานมื้อเย็นที่นี่บ่อยๆ ทำไมไม่เคยเจอกันเลยล่ะ?" คำถามนั้นประหลาด ใครกันจะมาจำสาวเสิร์ฟได้ สงสัยเขาคงเมาจนเพี้ยน หล่อนคิดในใจ
"หนูมาทำงานที่นี่แค่วันพฤหัสกับวันศุกร์ แล้วก็ทำถึงแค่หนึ่งทุ่มค่ะ" หากจะไม่ตอบก็เกรงจะเสียมารยาท
"อ๋อ เป็นนักศึกษาสินะ ทำไม่เต็มเวลา" พีย์หลุบเปลือกตาต่ำลงมองเรือนร่างงดงามในชุดนักศึกษา หล่อนจึงได้แต่คลี่ยิ้มเจื่อน แล้วหมุนตัวเดินกลับไปประจำเคาน์เตอร์เครื่องดื่มเช่นเดิม ปล่อยให้ลูกค้าวีไอพีดื่มดำน้ำเมาตามลำพัง
"มิลล่า วันนี้วันศุกร์แล้วนะครับ ทำงานมาจนถึงเดือนสุดท้ายของปีแล้ว ไม่คิดจะอยู่ฉลองกับพี่ๆ ที่ร้านหน่อยเหรอ?" คณินคือเจ้าของร้านหนุ่มหล่อ เขาเดินออกมาถามมิลล่าเพราะอยากให้หญิงสาวอยู่ต่อ อย่างน้อยก็ควรได้ดื่มด่ำเฉลิมฉลองด้วยกันก่อนถึงวันคริสต์มาสและสิ้นปี
"แย่จังเลยค่ะ มิลเกือบสายมากแล้วสำหรับงานคืนนี้" หญิงสาวชำเลืองเมืองนาฬิกาเรือนใหญ่ จึงเห็นว่าเป็นเวลาหนึ่งทุ่มห้านาทีแล้ว เธอได้แต่หันมาคลี่ยิ้มเจื่อนให้เจ้านาย
"งั้นเอาแบบนี้ วันไหนที่ว่างช่วงค่ำๆ แบบนี้แวะมาที่ร้านนะ เดี๋ยวเราจะดื่มฉลองกันอีก"
"ได้สิคะ งั้นวันนี้มิลขอตัวก่อนนะคะ" เธอฉีกยิ้มแป้นให้เจ้านาย และรีบร้อนเดินออกจากร้านอาหารไป
"คุณ..." เสียงเรียกของใครคนหนึ่งดังขึ้น ระหว่างที่มิลล่ากำลังยืนรอเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เธอหันขวับไปยังต้นเสียง จึงเห็นบุรุษคนที่เป็นลูกค้าคนนั้น เขากำลังยืนกอดอกพิงประตูรถยนต์คันหรูราศีดำทะมึนและมองมายังตน
"คุณเรียกหนูหรือเปล่าคะ?" คิ้วเรียวขมวดยุ่ง เอ่ยถามกลับไปด้วยความแปลกใจ
"ครับ ผมออกมายืนรอคุณอยู่ที่นี่ได้สักครึ่งชั่วโมงแล้ว" พีย์หยัดกายยืนตรงและเดินเข้ามาหาหญิงสาว
"มีธุระอะไรกับหนูหรือเปล่าคะ พอดีว่าตอนนี้กำลังรีบเพราะว่าต้องไปทำงานอีกที่หนึ่ง" มิลล่าจำเป็นต้องบอกออกไปตามตรง เพราะงานนี้มันสำคัญกับเธอเป็นอย่างมาก
"ทำงาน?" ชายหนุ่มเลิกคิ้วถาม เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมหญิงสาวต้องทำหลายงานในหนึ่งวัน
"ค่ะ เป็นงานพิเศษ ไม่ได้ทำทุกวันหรอก ตอนนี้เลยเวลามาหลายนาทีแล้ว ต้องรีบไปแล้วค่ะ ขอตัวนะคะ" ร่างเล็กหมุนตัวหันกลับไปเพื่อที่จะเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้างอีกครั้ง ทว่ากลับถูกพีย์รั้งข้อมือบอบบางไว้
"อ๊ะ!" มิลล่าตกใจ จึงหันขวับมามองค้อนชายหนุ่มเพราะรู้สึกไม่พอใจ รถยุโรปราคาหลายสิบล้านคันนั้นบ่งบอกถึงฐานะว่าเขาร่ำรวย และนิสัยพวกคนมีเงินก็ไม่ค่อยจะต่างกัน ชอบคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์รวมจักรวาล จึงคิดอยากทำอะไรก็ได้ตามใจตน
"เดี๋ยวสิ"
"ปล่อยนะ กล้าดียังไงมาแตะเนื้อต้องตัวฉัน!" มิลล่าสะบัดมือพีย์ออก และดึงมือของตนกลับมากุมไว้แนบหน้าอก
"ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะแตะเนื้อต้องตัวคุณ ความจริงที่ผมยืนรอตรงนี้ก็เพราะว่าจะชวนคุณออกไปดื่มเป็นเพื่อนซะหน่อย" ชายหนุ่มพูดจุดประสงค์ของตนเองออกมา ทว่านั่นกลับยิ่งทำให้มิลล่ารู้สึกแปลกใจ
"แต่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนนะคะ"
"ครับ ผมทราบดีว่าเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และนั่นคือเหตุผลที่ผมตัดสินใจชวนคุณไปดื่มเป็นเพื่อน" เขาบอก ในขณะที่แววตาฉายแววเศร้ามอง
"ทำไมคะ?"
"เพราะบางครั้งการที่ได้คุยกับคนที่ไม่รู้จัก เราก็อาจจะสบายใจกว่า" มันก็จริงอย่างที่เขาว่า มิลล่าเองก็เคยรู้สึกเช่นนั้นในบางครั้ง ทว่าคืนนี้เธอกลับไม่สามารถไปกับชายหนุ่มได้
"ขอบคุณที่ชวนนะคะ แต่ถึงยังไงคืนนี้ก็ไม่ได้ค่ะ เพราะว่ามีงานที่จะต้องไปทำจริงๆ" พีย์รู้สึกผิดหวัง แต่คำปฏิเสธของนักศึกษาสาวกลับยิ่งทำให้เขาอยากรู้จักกับเธอมากยิ่งขึ้น เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เห็นแก่ความร่ำรวยของตนเลยสักนิด ผิดกับผู้หญิงหลายคนที่คลั่งไคล้ของนอกกายพวกนั้น รวมถึงอดีตภรรยาของเขาด้วย
"เอาแบบนี้ ผมจะจ่ายเงินให้สองเท่า แลกกับการที่คุณต้องเสียงานนั้นไป บอกมาว่าคุณต้องการเท่าไหร่ แลกกับการไปดื่มเป็นเพื่อนผมคืนนี้" พีย์ตัดสินใจยื่นข้อเสนอ และหากเธอตัดสินใจรับข้อเสนอนั้น ตนก็จะไม่ตัดพ้อว่าหญิงสาวเห็นแก่เงิน เพราะไม่อยากมีความรู้สึกที่ดิ่งลงเหวมากไปมากกว่านี้แล้ว
"คะ?" มิลล่าแปลกใจ หัวคิ้วขมวดจนแทบชนกัน คนตรงหน้าที่แสนหล่อเหลาระดับดารานักแสดง แต่กลับถึงขั้นยอมเสนอจ่ายเงินเพื่อแลกกับการไปดื่มกับสาวเสิร์ฟเช่นเธอ คนอะไรช่างพิลึกพิลั่น
"ผมพูดจริงๆ นะครับ"
"ทำไมล่ะคะ พอจะบอกเหตุผลได้ไหมคะว่าทำไมถึงเป็นหนู" มิลล่าเอ่ยถามน้ำเสียงจริงจัง เธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้นราวกับกำลังค้นหาคำตอบ พีย์อ้ำอึ้งครู่หนึ่งก่อนจะยอมพูดออกมา
"ผมเพิ่งหย่ากับอดีตภรรยาได้ประมาณหนึ่งเดือน ตอนนี้แค่อยากมีใครสักคนที่คอยพูดคุยด้วย เท่านั้นจริงๆ ที่ผมต้องการ คุณจะรับข้อเสนอของผมได้หรือเปล่าครับ?" มิลล่าครุ่นคิด แม้ว่าเธอเองจะไม่ใช่คนหน้าเงินเสียเท่าไหร่ แต่ในเมื่อมีคนมาเสนอให้ถึงที่ มีหรือจะปฏิเสธความสุขสบายที่โหยหามาตลอด
'ของราคาแพงที่อยากซื้อ เตียงนุ่มๆ ที่ไม่เคยได้นอนเต็มอิ่ม ความเหนื่อยหน่ายจากการทำงานระหว่างเรียนตลอดระยะเวลาสามปีเต็ม พอกันที'
ถ้าเป็นพี่ พี่รับนะคะน้อง 555 ส่งกำลังใจมาให้ปันหยีด้วยนะคะ
กลับมาลงเรื่องนี้ต่อให้แล้วนะคะ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ ฝากกดเพิ่มเข้าชั้นหนังสือและกดหัวใจให้นักเขียนเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะคะ ขอบพระคุณค่ะ❤❤