ฟิ้ว! เสียงไทม์แมชชีนพุ่งตรงไปยังยุคจีนโบราณก่อนคริสตกาล เป็นยุคแห่งเทียนไขไร้การพัฒนาทั้งปวง ฉันพร้อมกับแหวนมิติยัดดิลโด้และไข่สั่น แถมอะไรอีกไม่รู้ตั้งมากมายก่ายกองที่คูมพ่ออุตส่าห์จับยัดมาให้ ฉันยังไม่ได้สำรวจดูหรอกนะเพราะมัวจับแต่อุปกรณ์เซ็กส์ทอยยัดใส่อย่างรีบเร่ง
"ว๊ากกก โฮลี่ ชิท (Holy shit) " เด็บเบอร์ร่าอุทานว่าโฮลี่ ชิท ที่แปลว่า ....เชี่ยละ!!!
"แย่แล้วเด็บบี้ เรากำลังมุ่งตรงสู่ยุคจีนโบราณ ปุ่มเซทเวลากลับดันมาเสียอีก"
"โธ่เอ๊ยยยย หมดกัน ...หมดกัน เพราะเธอนั่นแหละแพรี่ เธอรีบร้อนเกินไปเพราะเห็นแก่ของใหญ่"
"แล้วเธอไม่เบื่อของเล็กเหรอ"
"เอาล่ะ มันช่วยไม่ได้ เราสองคนอาจจะติดแหง่กอยู่ในยุคจีนโบราณยาวเป็นร้อยปีก็ได้นะ"
"เราต้องเจออะไรบ้างล่ะ ยุคก่อนวิวัฒนาการขนาดนั้น"
"ไปตายเอาดาบหน้าเถอะ!" เด็บเบอร์ร่ากรีดร้องออกมา
ซูมมมมมมมมม
เสียงยานไทม์แมชชีนเดินหน้าเต็มกำลังเข้าสู่ห้วงปรภูมิเวลาอันน่าตื่นตาตื่นใจ แสงสีรุ้งยิ่งกว่าจุดพลุในงานปีใหม่พร่างพรายขึ้นสองฝั่ง แสงสีรุ้งรายล้อมโพรงมิติ ฝ่าทุกฟิสิกส์ทฤษฎี แหกทุกกลศาสตร์ควอนตัมหรือทฤษฎีสะพานไอน์สไตน์ พวกเรากำลังจะเข้าสู่ยุคโคตรพ่อโคตรแม่ธรรมชาติ
ฝุ่บ! เสียงปรภูมิเวลาหยุดลงพร้อมกับยานไทม์แมชชีนลำใหญ่ลอยเด่นอยู่เหนือท้องฟ้าในห้วงเวลาจีนโบราณที่ไม่สามารถระบุปี พศ. หรือ คศ. เพราะไอ้แท่นระบุเวลาดันหมุนกลับเหมือนเครื่องปั่นสล็อตน่ะสิ
แม่ง หมุนติ้วอย่างเร็วยิ่งกว่าตอนฉันเอานิ้วติ้วตัวเองซะอีก
"เวร!!! กรรม" ฉันมองอีแท่นระบุเวลากำลังตีรวนอย่างหนัก
"บัดซบจริงๆ" เด็บเบอร์ร่าทำหน้าสิ้นหวัง
ยานไทม์แมชชีนลอยคว้างอยู่กลางอากาศ เปล่งแสงสว่างวาบทั่วบริเวณ ทั่วผืนป่ากลายเป็นสีฟ้าจนแสบตาไปหมด
"ได้ยินเสียงอะไรรึเปล่า" เพื่อนรักถามฉัน
"ได้ยินสิ เสียงเหมือนสัตว์อะไรสักอย่าง"
"ฉันว่าหลายอย่างเลยแหละ เสียงมันดูอื้ออึงแตกตื่นสุด ๆ ไปเลย"
ฉันมองผ่านกระจกในยานอวกาศ เห็นสัตว์น้อยใหญ่อยู่ด้านล่าง พวกมันต่างพากันจ้องมองยานอวกาศของฉันจนตาถลน จะว่าพวกมันกำลังกลัวก็ไม่ใช่ พวกมันจ้องเขม็งเลยเชียว
"สัตว์พวกนั้นมองเราทำไมอ่ะ"
"มันคงเห็นเราเป็นพระจันทร์หรืออะไรเทือกนั้น"
"แลนดิ้งก่อนดีกว่า" ฉันชวนลงจอดหาที่ปักหลัก
ยานค่อย ๆ ลอยลงมาจากฟากฟ้า ลงสู่ผืนหญ้าเขียวขจีเงียบสงบ สัตว์หน้าตาประหลาดเหมือนเสือชีต้าร์ผสมสิงโตผสมควายไบซันมันยืนรอบยานอวกาศ มันจ้องพวกเราแปลก ๆ
"ทำไมฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเลย"
"จะกลัวทำไม เรามันนักวิทยาศาสตร์สาว อะไรแปลก ๆ พวกเราแม่งจะจับทดลองให้หมด"
"จริงสิ เรามันเลือดนักสู้" เด็บเบอร์ร่าหยิบปืนเลเซอร์ขึ้นมา
ตึง! ตึง!
"เชี่ยละ สัตว์พวกนั้นมันโจมตีเรา มันไม่ได้ดูเราอย่างเดียวมันกำลังจะแดกหัวพวกเราด้วย"
"อยู่ดีไม่ว่าดี ขอจัดการเจ้าพวกสัตว์ประหลาดนี่ก่อนละกัน"
"แพรี่ ดูบนฟ้าสิ สัตว์อะไรบินอยู่น่ะ"
ฉันเงยหน้าเห็นสัตว์หน้าตาเหมือนไก่งวง ตัวอ้วนใหญ่น่ากิน มันมีปีกยาวเหยียดพร้อมกับมีกรงเล็บแหลมคมเหมือนเหยี่ยว แต่ปากของมันเหมือนเป็ด เป็นสัตว์ที่หน้าตาปัญญาอ่อนมาก
ฉันนำยานขึ้นเล็กน้อย ลอยเหนือพื้นประมาณสี่เมตร
อีพวกไก่งวงลอยฟ้า แม่งพุ่งเข้ามาโจมตีเหมือนสัตว์นรกในนิยายที่ฉันเคยอ่าน มันกำลังขยุ้มกรงเล็บไปบนผิวยานอวกาศ แต่เสียใจด้วยนะ วัสดุที่ใช้ทำยานคือวัสดุแอโรกราไฟต์
ฮึ ๆ ๆ ๆ ไม่ได้แดกเราหรอก
แช่ด แช่ด แช่ด
เสียงฉันปล่อยเลเซอร์แอสปายเมอร์คิวรี่ใส่พวกสัตว์ตาดำ ๆ เรื่องศีลธรรมเอาไว้ก่อน
เสียงช็อตแบบสนั่นหวั่นไหว พวกมันร้องออกมาเหมือนกำลังจะตาย
"ยอมรึยัง นี่แน่ะๆ ๆ ๆ ๆ ๆ" ฉันเพิ่มคลื่นความแรงใส่อีกไม่ยั้ง แถมส่งเทเลพาธี ส่งกระแสจิตไปตอกย้ำให้พวกมันยอมแพ้
ฉันรู้สึกได้ถึงจิตที่ต่อต้าน ฉันเพิ่มปริมาณแอสปายเมอร์คิวรี่ในระดับห้าคือระดับร้อนแบบเนื้อแทบสุก
"พวกเรายอมแล้ว" สัตว์หน้าตาปัญญาอ่อนสื่อจิตกลับมา
"ไม่ยอมก็จงตาย ๆ ไปซะ" ฉันคำราม
"ยอมแล้ว ๆ ๆ ๆ" พวกมันหมอบลง
"ดีมาก อย่ามารบกวนตอนฉันเอายานลงจอด" ฉันทอดสายตามองเจ้าสัตว์หน้าตาพิลึกกึกกือ
ยานไทม์แมชชีนเคลื่อนที่ลงจอดกลางป่า ท่ามกลางกลิ่นซากเนื้อไหม้ สัตว์บางตัวทนไม่ไหวก็ชักดิ้นชักงอตายไป
เฮ้อ โลกนี้ไม่มีที่ยืนสำหรับสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอหรอก ย้ำว่าจงตาย ๆ ไปซะ
ฉันจอดยาน เดินก้าวลงมาจากไทม์แมชชีนในชุดอวกาศ ฉันเอาขนมล่องหนยัดปากเพื่อนสาวกับยัดปากตัวเอง สักพักเราสองคนก็กลายเป็นสิ่งโปร่งแสงเหมือนผีสาง
"เอาเต็นท์ล่องหนมาคลุมยานหน่อย ซ่อนเร้นจากสายตาผู้คน" ฉันบอกให้เด็บเบอร์ร่าเอาเต็นท์ออกมา
หล่อนล้วงเข้าไปในกางเกงในแบบมีซิป ซึ่งมันคือกระเป๋ามิติ ทำท่าเหมือนคันกิ๋มแล้วหยิบเต็นท์ลายพรางออกมาคลุมยานไว้ เต็นท์อันใหญ่มากกกก ก ไก่ล้านตัว นางบอกว่ามีแค่เต็นท์ลายพราง เต็นท์ล่องหนน่ะไม่มี ก็พอแก้ขัดได้แหละ
"เอาไก่งวงปัญญาอ่อนนั่นมาย่างกินกันก่อนดีกว่า" ฉันโบ้ยหน้าไปเห็นสัตว์ประหลาดหน้าตาเหมือนไก่งวงบวกกับเป็ดบวกเหยี่ยว มันตายแล้วตัวหนึ่ง
เด็บบี้ไปลากมา พวกเราจับสัตว์ประหลาดยัดใส่เครื่องทำไก่อบอัตโนมัติ ซึ่งแม่เจ้า!!!! ตัวมันใหญ่จนแทบยัดเครื่องไม่ได้ แต่ในที่สุดก็ยัดเข้าไปได้สำเร็จ
ฉันเดินสำรวจทั่วบริเวณ ไม่เห็นมีคนสักคน ไม่มีของใหญ่อย่างที่ตามหา
หรือว่าพวกเราจะมาเสียเที่ยว
เฮ้อ ผิดหวังมาก ๆ
ฉันยืนหดหี่ (หดหี่คือคำอวตารของหดหู่) จนไก่บ้า ๆ นั่นสุกส่งกลิ่นหอม พวกเราสองสาวเอามานั่งฉีกกิน พบว่าเนื้ออร่อยเหมือนเนื้อจระเข้ผสมกับเนื้อวัววากิว A5 อืม.. อร่อยใช้ได้ พวกมันต้องได้ตายอีกแน่นอน
ร่างกายอยู่ในสภาวะล่องหน ขณะที่แทะไก่งวงบินได้แบบเพลิน ๆ ฉันได้ยินเสียงฝีเท้าม้าควบขี่เข้ามาใกล้
"ผู้ชายว่ะ" ฉันอุทาน เห็นผู้ชายกลุ่มใหญ่ควบม้ามาทางที่พวกเราทำนกย่างแดก
"ใหญ่มาก" เพื่อนรักอุทาน
"อะไรใหญ่"
"ไอ้นั่นใหญ่" เด็บบี้ใช้แว่นเลเซอร์มองทะลุเสื้อผ้าอาภรณ์ของคนพวกนั้น
"ไหน ๆ ใหญ่จริงรึเปล่า" ฉันเคี้ยวเนื้อนกตุ้ย ๆ แต่มือกดปุ่มแว่นตาเลเซอร์มองทะลุเสื้อผ้าพวกเขา
"ว้าวววววววว!!!"
เราเจอซุปเปอร์ฮอตดอกเข้าแล้ว
เราเลิกกินนกย่าง เพราะเราเห็นสิ่งอื่นน่ากินกว่า
ฉันไม่ลืมใช้แว่นเลเซอร์มองทะลุผ้าคลุมหน้าสีดำสนิท ผู้ชายคนที่ขี่ม้านำหน้าขบวนตัวสูงใหญ่ กล้ามเนื้อแน่นสวย ห่อหมกจัมโบ้โอ้โหเฮะ เขาสวมผ้าพรางหน้าแต่ไม่สามารถหลบสายตาส่อแส่ของฉันได้
"แม่ง โคตรหล่อ น่า Fuc* มากเลยค่ะ"
ฉันกรี๊ดคนหล่อที่ของใหญ่ออกมาดัง ๆ อย่างลืมตัว
"ข้าได้ยินเสียงสตรีกรีดร้อง" เขาหยุดม้า กวาดสายตามองหาฉัน
ฮิ ๆ ไม่เจอฉันหรอก ฉันแอบดูอ๋ำของเขาอยู่ในสภาวะโปร่งแสง (ให้แทนด้วย ห หีบ เอาเองทุกครั้งเมื่อเจอคำว่าอ๋ำ)
"มีคนจับสัตว์อสูรมาย่างกินพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง" ผู้ชายอีกคน (ที่ของเล็กกว่า) เข้ามารายงานหน้าตาตื่น
"สัตว์อสูรดุร้าย มีผู้เข่นฆ่ามันได้อย่างไร ซ้ำยังเอามาย่างกินอย่างไร้อารยธรรม"
นั่นปะไร อีตาอ๋ำใหญ่ด่าว่าฉันแดกนกอสูรแบบไร้อารยธรรม
ฉันกลืนน้ำลาย มองซากนกพิลึกตัวนั้นที่เราสองคนเพิ่งแดกเสร็จ อ่อ... พวกมันเรียกว่าสัตว์อสูรงั้นเหรอ
เอาล่ะสิ ฉันแดกนกโบราณเข้าให้แล้ว มันเป็นสัตว์หวงห้ามตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสัตว์ป่าในเขตการปกครองของอีตาอ๋องรึเปล่าว๊า
โทษนะ รับประทานไปตัวเดียวเอง!!!!