4.กูมีสิทธิ์ทำอะไรกับมึงก็ได้ Nc

2005 Words
“ เดี๋ยวผมจะรักษาให้” อีธานยืนกอดอกมองหมอทำการรักษา สายตาของเขาจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของหมออย่างจับผิด "รีบๆทำ...แล้วก็ใสหัวไป" เขาเดินไปที่ตู้เซฟแล้วหยิบเงินก้อนหนึ่งออกมาโยนให้หมอ "นี่ค่าปิดปาก...ถ้ามึงยังอยากมีชีวิตอยู่ก็อย่าให้กูได้ยินเรื่องนี้จากปากใครเป็นอันขาด.." "ครับผมจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ" บรรยากาศในห้องเงียบกริบ ขณะที่หมอทำแผลให้ที่รักอย่างระมัดระวัง อีธานยืนเฝ้ามองการกระทำด้วยสายตาอำมหิต จนหมอทำการรักษาเสร็จแล้วรีบออกจากห้องไป อีธานล็อกประตูทันทีที่หมอออกจากห้อง แล้วหันมามองที่รักที่นอนหมดแรงอยู่บนเตียง เขาเดินมานั่งลงข้างเตียงแล้วใช้มือลูบหัวที่รักเบาๆราวกลับปลอบใจเด็กน้อย "เจ็บไหม?" จู่ๆเขาก็กำหมัดแน่นด้วยความคิดสับสนบางอย่างในใจ "ทำไมมึงถึงต้องทำให้กูรู้สึกแบบนี้ว่ะ..กูไม่เคยต้องมานั่งห่วงใยใครแบบนี้มาก่อน.." เขาลุกยืนแล้วเดินไปที่ตู้เซฟเก็บกุญแจใส่กระเป๋ากางเกงไว้ "ตอนนี้กูจะไว้ใจใครไม่ได้ทั้งนั้น...โดยเฉพาะมึงที่รัก.." เขาเดินกลับมานั่งที่ข้างเตียงอีกครั้ง มือหนึ่งกุมมือที่รักไว้ดวงตาฉายแววระหว่างความระแวงกับความห่วงใยก่อเกิดขึ้นในใจของเขา อีธานสัมผัสได้ถึงความร้อนที่สูงขึ้นเขารีบปล่อยมือแล้ววางมือบนหน้าผากของที่รัก "ทำไมไข้ไม่ลงอีกวะ..."เขาลุกไปหยิบผ้าชุบน้ำเย็นมาเช็ดตัวให้ที่รัก อย่าทำให้กูลำบากไปมากกว่านี้ได้ไหม " เขาค่อยๆเช็ดตัวให้ที่รัก มือที่เคยหยาบกร้านกลับอ่อนโยนขึ้นมา "ถ้ามึงเป็นอะไรไป..." เขาหยุดพูดกลางคันแล้ววางผ้าเช็ดตัวลง ก่อนจะนั่งลงข้างๆเตียงของที่รัก "กูจะเฝ้ามึงเอง.." อีธานบ่นพึมพำแล้วเอามือลูบผมที่รักเบาๆราวกับว่าเขาเป็นเด็กน้อยของเขา "แต่อย่าคิดว่ากูจะใจอ่อนนะ..กูยังต้องการเล่นกับมึง.." เขานั่งเฝ้าดูที่รักด้วยสายตาที่อ่อนลง มือข้างหนึ่งสัมผัสกุญแจในกระเป๋ากางเกงเป็นระยะ ราวกับกลัวว่ามันจะหายไปเพราะกุญแจดอกนี้สำคัญกับเขามาก หลังจากนั่งเฝ้ามองดูที่รักได้สักพัก เสียงโทรศัพท์ของที่รักก็ดังขึ้น เขาจึงหยิบมันมาดูก่อนที่จะขมวดคิ้วเมื่อเห็นหมายเลขที่โทรเข้ามา อีธานกดรับสายแต่ไม่พูดอะไร เพียงฟังเสียงปลายสายใบหน้าก็เริ่มบึ้งตึงขึ้นมาทันที "ฮัลโหลที่รัก...ทำไมไม่พูด" เมื่อได้ยินเสียงปลายสายพูดมาเป็นผู้ชาย อีธานจึงตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ "มึงเป็นใคร..อย่าโทรมาเบอร์นี้อีก ถ้ายังอยากให้ที่รักมีชีวิตอยู่..." เขากดวางสายแล้วหันมามองที่รักด้วยสายตาคมกริบ ก่อนที่จะเก็บโทรศัพท์ของที่รักไว้ในกระเป๋ากางเกงอีกข้าง สายตาเริ่มฉายแววระแวงกลับมาอีกครั้งก่อนจะเอ่ยเสียงเข้มถามที่รัก "ที่รักมึงบอกกูมาว่าไอ้เวย์..มันคือใคร" "เพื่อนของที่รักค่ะ" อีธานกำโทรศัพท์ไว้แน่น "มึงโกหก" เขากดเสียงต่ำอันตรายมากจนที่รักเริ่มรู้สึกว่าเขาจะไม่ไว้ใจ "กูไม่เคยได้ยินมึงพูดถึงเพื่อนมาก่อน" ก่อนที่เขาจะคว้าคอเสื้อที่รัก แล้วดึงร่างที่อ่อนแอขึ้นมา "บอกกูมาตอนนี้!มันเป็นใครกันแน่..?" "เขาเป็นเพื่อนของที่รักจริงๆค่ะ คุณลืมไปแล้วหรอคะว่าวันนี้ที่รักเพิ่งมาทำงาน คุณยังไม่ได้สอบถามประวัติของที่รักเลยด้วยซ้ำ แล้วที่รักจะบอกคุณได้ไงคะว่าเขาเป็นเพื่อนของที่รัก" แต่แล้วเขาก็ต้องชะงักเมื่อที่รักพูดขึ้นมา เพราะเธอเพิ่งเข้ามาทำงานวันแรกก็โดนเขาเล่นงานซะแล้ว แถมยังไม่ได้สอบถามประวัติอีกด้วย อีธานสัมผัสได้ถึงความร้อนจากตัวที่รักยังมีไข้สูงอยู่..เขาจึงปล่อยที่รักให้ลงนอนบนเตียง " คืนนี้มึงโชคดีที่ตอนนี้ยังไม่หาย..."เขากระซิบข้างหูของที่รักต่อไปว่า "แต่รอให้มึงหายดี..กูจะไม่ปล่อยให้มึงรอดไปง่ายแน่ๆ" เขาลุกเดินไปที่โต๊ะหยิบปืนมาวางข้างตัว สายตาจับจ้องที่รักด้วยความหวาดระแวง (ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันเป็นใครถึงได้โทรมาตอนนี้ กูจะไม่ไว้ใจมึงอีกต่อไปอย่าคิดว่าแค่โกหกไม่กี่คำจะหลอกกูได้ มึงน่าสงสัยและกูจะจับตามองทุกย่างก้าวของมึง) เขานั่งบ่นพึมพำในใจคนเดียวแต่สายตายังคงจับจ้องไปที่ร่างเล็ก "แล้วทำไมมันถึงโทรมาหามึงตอนนี้ ยิ่งพูดมึงก็ยิ่งน่าสงสัย หรือว่าที่จริงมึงเป็นสายลับของศัตรูกูที่ส่งเข้ามาหาความลับจากกู.." อีธานตะหวาดเสียงดังลั่นกับที่รัก "ไม่ใช่นะคะหนูไม่ได้เป็นสายลับใครทั้งนั้น..คุณพูดถึงเรื่องอะไรหนูไม่รู้เรื่อง ที่รักเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งแค่นั้นเอง" "มึงคิดว่ากูจะไม่รู้หรอว่ามึงแปลกๆตั้งแต่ที่มองหน้ากูตอนแรก.." เข้าล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบกุญแจตู้เซฟออกมาเล่นต่อหน้าของที่รัก "มึงอยากได้ของอะไรจากกูล่ะ.." เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน “เปล่าค่ะ” ที่รักหลบตาอีธาน "น่าเสียดายที่มึงป่วยอยู่..ไม่งั้นกูคงจับมึงขึ้นเตียงแล้วรีดเอาความจริงออกมาทั้งหมด..".บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความตึงเครียด เขายืนมองที่รักด้วยสายตาอันตรายมือข้างหนึ่งเล่นกุญแจแกว่งไปมา "คุณจะบีบหนูก็ตายจะคลายหนูก็รอด ในเมื่อหนูมาเป็นคนรับใช้ของคุณแล้วคุณมีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้หนิคะ" อีธานชะงักกับคำพูดของที่รักสีหน้าเปลี่ยนเป็นโกรธจัด เขาพุ่งเข้าใส่ที่รักก่อนที่จะกดร่างที่มีไข้ลงกับเตียงอย่างโมโห "อย่ามาทำเป็นยอมจำนนแบบนี้ มึงคิดว่ากูจะหลงกลง่ายๆหรอ..?" เขาพ่นเสียงคำรามต่ำออกมา มือข้างหนึ่งรวบข้อมือที่รักไว้เหนือศีรษะอีกมือบีบคอเบาๆ "มึงรู้ไหมว่ากูเกลียดอะไรที่สุด?" เขากระซิบข้างหูของที่รัก "เกลียดอะไรคะ.." ที่รักเองก็ไม่เข้าใจอารมณ์ของเขาเหมือนกัน บางทีดูเหมือนร้ายแต่บางทีก็เหมือนใจดี เป็นไบโพล่าหรือเปล่าก็ไม่รู้ "กูเกลียดคนที่แกล้งทำตัวน่าสงสาร..แล้วหักหลังกู" เขาผละออกจากที่รักอย่างรวดเร็ว "แต่วันนี้..กูจะปล่อยให้มึงพักผ่อนก่อน เพราะถ้ามึงตายไปกูจะไม่ได้รู้ว่ามึงซ่อนความลับอะไรไว้.." หลังจากนั้นเขาก็เก็บกุญแจใส่กระเป๋ากางเกงแล้วเดินไปนั่งที่โซฟา แต่ยังไม่ละสายตาจับจ้องมาที่ที่รักมือข้างหนึ่งลูบปืนที่เหน็บไว้ที่เอว..จนทำให้ที่รักเริ่มรู้สึกว่าจะไม่ปลอดภัย แต่ก็ไม่อยากทำให้เขาจับพิรุธได้ อีธานเดินไปหยิบ notebook มาทำงาน สายตาของเขาจะจ้องอยู่ที่ notebook ไม่ได้สนใจที่รักเลย จนผ่านไปนานหลายชั่วโมง อีธานจึงขยับตัวปิด notebook ไว้แล้วนั่งพักสายตา เขาหลับตาลงสักพักก็มีเสียงที่รักดังขึ้น "หนูขอออกไปนอนห้องคนรับใช้ได้ไหมคะ ไม่อยากทำให้เตียงของคุณสกปรก" "อีธานลุกพรวดขึ้นจากโซฟาเดินเข้ามาหาที่รักด้วยสีหน้าเดือดดาล เขาผลักที่รักลงนอนอย่างแรง "มึงคิดว่ากูจะปล่อยให้มึงออกไปง่ายๆหรอในเมื่อมึงพูดเองว่ากูมีสิทธิ์ทำอะไรกับมึงก็ได้..." มือหยาบกร้านรั้งเอวที่รักไว้แล้วกระซิบเสียงแหบพร่า "งั้นก็นอนอยู่ที่นี่...บนเตียงกู" อีธานก้มลงกัดที่หูที่รักเบาๆ แล้วตามมาด้วยประโยคที่แผ่วเบา "กูทำมึงหนักไปจริงๆหรอวะ..." เขานั่งบ่นพึมพำก่อนจะเอามือลูบผมที่รักเบาๆแล้วลุกขึ้นยืนไปหยิบเอาผ้าสะอาดชุบน้ำมาเช็ดใบหน้าของที่รัก เขาดูเคร่งเครียด ดวงตาฉายแววความกังวลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน "อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะว่ามึงกำลังวางแผนอะไร...แต่ถ้ามึงอยากเล่นเกมนี้...กูก็จะเล่นด้วย.." เขาเลียริมฝีปากตัวเองแล้วรั้งร่างที่รักไว้แน่น ไม่ให้ขยับไปไหนดวงตาฉายแววความหื่นกาม ทำให้ที่รักดิ้นขัดขืนจนทำให้เต้านมอวบ 2 ข้างถูไถไปมากับร่างกายของอีธาน อีธานครางต่ำในลำคอก่อนที่มือจะเลื่อนขึ้นมาบีบเต้านมที่รักอย่างหยาบคายและรุนแรง ตอนแรกก็แค่กะจะบีบมัน แต่ในเมื่อมันยั่วเขาขนาดนี้มีหรอที่อีธานจะทนไหว เขากระชากชุดนอนเธอถอดออกแล้วก้มลงไปดูดเลียสองเต้าอวบสลับกันไปมา “ อ๊ะ~อื้ออ~คุณอีธาน~” ที่รักร่างกายอ่อนแออยู่แล้ว บวกกับที่เขามาทำแบบนี้ทำให้เธอแทบหมดเรี่ยวแรง ร่างกายก่อนระทวยไปหมดไม่มีแรงแม้แต่จะขัดขืน “อืมม~ว่าไง!?”อีธานขานรับแต่ปากของเขาก็ยังคงดูดอมเต้านมที่รักไม่ยอมวาง มือข้างนึงก็บีบขย้ำไปด้วย ยิ่งดูดก็ยิ่งมันยิ่งทำให้อารมณ์พลุ่งพล่าน เลือดในกายสูบฉีดขึ้นมาเต็มที่ “อ๊าา~ที่รัก~อื้ออ~" ที่รักได้แต่ร้องครางเสียวอยู่ใต้ร่างของอีธาน เธออยากจะต่อสู้ขัดขืนแต่สู้แรงของเขาไม่ไหว “ มึงเสียวใช่ไหม อืมม~ " อีธานเงยหน้าขึ้นมาพูดกับที่รัก ก่อนจะก้มลงไปดูดเลียอีกรอบ เต้านมอวบของที่รักทำให้เขาหลงใหลไม่อยากจะปล่อยวางเลยแม้แต่วินาทีเดียว “ อื้อ~" ที่รักได้แต่จิกผ้าปูที่นอนด้วยความเสียวซ่านพี่อีธานมอบให้ เธอต้องทนให้เขากระทำต่อร่างกายตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในใจยิ่งเกลียดผู้ชายคนนี้มากขึ้น รวมถึงพ่อเธอด้วย เกลียดที่ต้องยอม ถกคน (ฉันไม่น่าเกิดมาเป็นลูกมาเฟียเลย ไม่น่าเลยสักนิด ยิ่งคิดก็ยิ่งเกลียดพ่อตัวเองที่เห็นแต่ผลประโยชน์ สมควรแล้วที่แม่เธอทิ้งเขาไปแต่แม่กลับทิ้งเธอไปด้วย ทำไมถึงปล่อยให้เธอต้องเป็นเบี้ยของพ่อเธอทำไมถึงไม่พาเธอไปด้วย ที่รักได้แต่นอนร้องไห้ตัดพ้อในชีวิตตัวเอง ) อีธานยังคงปรนเปรอความต้องการอยู่ที่สองเต้าอวบของที่รัก เขาแทบอยากจะสอดใส่ความเป็นชายเข้าไปในตัวของเธอด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดว่าพึ่งทำการรักษาไป อีธานผละออกจากนมของที่รักแล้วก้มลงไปตรงซอกคอขาวของเธอ “ ร่างกายมึง มันยั่วกูจริงๆที่รัก กูแทบจะอดใจไม่ไหวแล้ว มึงรู้ตัวมั้ย ” 🐉น้อยของอีธานแข็งขืนขึ้นมาอีกครั้ง ที่รักสัมผัสได้เพราะมันกำลังดุนดันช่วงล่างเธออยู่ ที่รักรีบจับใบหน้าของอีธานให้ออกห่างจากลำคอของเธอ “ อย่านะคะ ถ้าขืนคุณทำอีกตอนนี้หนูรับไม่ไหวแน่ค่ะ ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD