ตอนที่ 7
มองแค่ความต้องการของร่างกาย
คืนวันเสาร์ศิลาเลือกจะออกมาพบปะสังสรรค์กับเพื่อนสนิททั้งสองคนอย่างธีรวัฒน์หรือธีร์ลูกชายผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารแห่งหนึ่งและจิรกิตต์หรือกิตต์เจ้าของผับที่พวกเขามานั่งรวมตัวกันวันนี้ พวกเขามีนัดดื่มกันเป็นประจำเพื่ออัปเดตชีวิตและเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น
“ไงศิลา” จิรกิตต์เอ่ยทักทายพลางยื่นแก้ววิสกี้ให้ศิลาเมื่อเขานั่งลงที่โต๊ะประจำซึ่งเป็นโต๊ะในมุมส่วนตัวที่สุดของร้าน
“ก็ดีนะ คืนนี้คนเยอะเหมือนกันนะ” ศิลาตอบรับสั้นๆ เขามองไปทั่วผับก่อนจะยกแก้วขึ้นจิบเล็กน้อย สีหน้าของเขาดูผ่อนคลายเมื่อได้ออกมาดื่มกับเพื่อนสนิท
“ชีวิตนายเป็นไงบ้างวะย้ายไปอยู่ชานเมืองแล้ว” ธีรวัฒน์ถามพลางจิบวิสกี้ในแก้วอย่างสบายอารมณ์ เขาเป็นห่วงเพราะปกติแล้วศิลาจะอยู่แต่คอนโดมาตลอด
“ก็ดี เงียบสงบดี” ศิลาตอบอย่างสบายๆ พลางเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองไปทั่วบริเวณผับที่เต็มไปด้วยผู้คน
“แล้วนายคิดยังไงของนายวะถึงย้ายไปอยู่หมู่บ้านจัดสรรแถวนั้น คอนโดนายก็อยู่ใจกลางเมือง” จิรกิตต์ถามด้วยความสงสัย
“ฉันอยากเปลี่ยนบรรยากาศเฉยๆ อยากได้บ้านที่มีสวนเล็กๆ ให้ฉันได้ปลูกต้นไม้บ้าง” เขาตอบอย่างเซ็งๆ
“ถ้าเบื่อก็ขายทิ้งแล้วซื้อใหม่สิ ไม่ใช่ย้ายไปอยู่โดดเดี่ยวแบบนั้น นี่ลูกสาวฉันบ่นใหญ่เลยว่าลุงศิลาทำไม่ไม่ค่อยไปเล่นเกมที่บ้านด้วย” ธีรวัฒน์คนเดียวในกลุ่มที่แต่งงานแล้วถามขึ้น
“ฝากบอกน้องเดียร์ด้วยนะว่าถ้าว่างฉันจะเข้าไป แต่ทำไมนายไม่พาลูกกับเมียนายไปบ้านฉันล่ะ ที่นั่นกว้างร่มรื่นและมีสระว่ายน้ำด้วยลูกสาวนายน่าจะชอบ”
“เอาไว้ฉันว่างจะไปเยี่ยมนายที่บ้านนะศิลา นายก็จะไปกับฉันด้วยใช่ไหม” เขาหันมาถามจิรกิตต์ที่นั่งดื่มอยู่ข้าง
“อือ”
“แล้วเรื่องงานล่ะ นายได้เข้าบริษัทบ้างหรือเปล่า” ธีรวัฒน์ถามต่อ
“ก็เข้านะแต่ไม่บ่อย ฉันให้พวกเด็กๆ ทำไป ถ้าไม่มีเรื่องด่วนจริงๆ ก็ไม่มาหรอกใช้วิอีโอคอลเอาน่ะ”
“ดีจังเลยนะนาย ไม่ต้องทำอะไรก็มีเงินเข้าบัญชี” จิรกิตต์บ่นอุบอิบอย่างอิจฉา
“นายก็เป็นเจ้าของผับนี่นั่งกินเหล้าอยู่ก็มีเงินเข้าเหมือนกันจริงไหมล่ะ”
“มันก็จริงนะ” จิรกิตต์ตอบพลางหัวเราะ
“แล้วเรื่องหัวใจนายล่ะศิลา นายจะอยู่คนเดียวแบบนี้ไปตลอดเลยเหรอ” ธีรวัฒน์เปลี่ยนเรื่องมาเป็นเรื่องส่วนตัวทันที
“อยู่แบบนี้ก็ดีแล้วนี่” ศิลาตอบพลางยักไหล่เหมือนไม่ใส่ใจกับเรื่องพวกนี้เท่าไหร่
“ดีที่ไหน ทุกวันนี้นายไม่มองใครเลย แก่ไปใครจะเลี้ยง”
“ก็ลูกสาวนายไงล่ะ ฉันถามแล้วน้องเดียร์บอกว่าจะดูแลฉันตอนแก่นะ”
“ไม่ตลกเลยฉันจริงจังนะศิลา นายควรลืมอดีตแล้วมองไปข้างหน้า”
“ฉันก็ไม่ได้คิดอะไร” ศิลาตอบพร้อมกับรินเหล้าเพิ่ม ดวงตาของเขาดูว่างเปล่าเล็กน้อย
“นายอย่าโกหกตัวเองเลยศิลา มันผ่านมาสองปีแล้วนะ นายจะจมอยู่กับอดีตแบบนี้ไม่ได้” ธีรวัฒน์บอกด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“ฉันไม่ได้จมอยู่กับอดีต” ศิลาตอบเสียงเรียบ
“แล้วทำไมนายไม่ลองเปิดใจดูบ้างวะ ลองหาใครสักคนมาอยู่ข้างๆ นาย” จิรกิตต์ถามด้วยความหวังดี
“ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่อยากจริงจังกับใคร แล้วนายล่ะกิตต์ว่าแต่ฉันเมื่อไหร่จะจริงจังกับใคร” ศิลาถามกลับ
“ใครว่าฉันไม่มีใครล่ะ ตอนนี้ฉันมีแฟนแล้วนะ” จิรกิตต์ตอบอย่างมั่นใจ
“ฉันย้ายบ้านไม่ถึงเดือนนายมีแฟนแล้วเหรอ พามาให้รู้จักหน่อยสิ” ศิลารีบบอกเพราะกลัวว่าเพื่อนจะเลิกกับแฟนก่อนที่เขาจะได้รู้จัก
“นั้นสินี่ยังไม่ดึกมาโทรตามมาเลย” ธีรวัฒน์เสนอ
“ไม่ได้หรอกช่วงนี้น้องเขามีสอบ”
“มีสอบ นี่แฟนนายยังเรียนอยู่เหรอ” ศิลามองอย่างแปลกใจเพาะที่ผ่านมาจิรกิตต์มักจะมีแฟนที่เรียนจบแล้ว
“อือ ปีสามแล้ว”
“นึกยังไงไปมีแฟนเด็กขนาดนั้น คุยกันรู้เรื่องเหรอ” ธีรวัฒน์นึกถึงตัวเองที่มีแฟนอายุห่างกันห้าปีแต่บางครั้งก็คุยกันไม่ค่อยจะรู้เรื่อง
“รู้สิ ส่วนใหญ่เวลาเจอกันก็ไม่ค่อยได้คุยหรอก ฉันจะบอกว่ามีแฟนเด็กมันดีมาก เอาใจเก่งอ้อนเก่งนายก็ลองมั่งสิศิลา รับรองเลยว่าโลกอันมืดหม่นของนายจะสดใสมากขึ้นแน่ๆ ”
“ถ้าเจอก็จะลองดูนะ” เขาตอบอย่างไม่จริงจังเท่าไหร่
“ฉันเพิ่งนึกอะไรขึ้นมาได้” จู่จิรกิตต์พูดด้วยสีหน้าจริงจังมากขึ้นมาจนเพื่อนสองคนมองอย่างสงสัย
“อะไรเหรอ” ธีรวัฒน์ถามด้วยความสนใจ
“ฉันเจอวดี เมียเก่านายด้วยนะศิลา ตอนนี้เธอเปลี่ยนแฟนไปเป็นคนที่สามแล้วนะ หลังจากหย่ากับนายไป”
คำพูดของจิรกิตต์ทำให้ศิลาชะงักไปเล็กน้อย แต่ใบหน้าของเขาก็ยังคงเรียบเฉยเหมือนเดิม
“แล้วไงวะ” ศิลาถามกลับด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่สนใจ
“ฉันแค่อยากบอกว่าเขาก็มีความสุขดี นายควรจะมีความสุขกับชีวิตของนายได้แล้ว”
“แต่ชีวิตโสดของฉันทุกวันนี้ก็สนุกดี ตอนนี้ฉันไม่คิดจะคบใครจริงจังอีกแล้ว ฉันจะมองผู้หญิงเป็นแค่ของเล่น”
“หือ” จิรกิตต์เลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย
“ฉันเลือกที่จะวันไนท์สแตนด์มากกว่าจะคบใครอย่างจริงจังฉันแค่ต้องการหาคนมาเติมเต็มความต้องการทางร่างกายเท่านั้น” ศิลาบอกด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเย็นชา
“นายแน่ใจนะว่านายไม่ได้พูดเล่น” ธีรวัฒน์ถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“ฉันพูดจริง ฉันไม่ได้ลืมคนเก่าไม่ได้ แต่ฉันแค่เบื่อความสัมพันธ์แบบเดิมๆ ที่สุดท้ายก็จบลงด้วยการหลอกลวง” ศิลาตอบด้วยสีหน้าจริงจัง
“ระวังโรคติดต่อด้วยนะเว้ย” จิรกิตต์เตือนด้วยความหวังดี
“ฉันรู้เรื่องถุงยางอนามัยและฉันคิดว่าฉันพอดูออกว่าผู้หญิงคนไหนออกมาแค่อยากสนุก” ศิลาตอบกลับอย่างมั่นใจ
ธีรวัฒน์กับจิรกิตต์มองหน้ากันอย่างจนปัญญา พวกเขาไม่คิดว่าเพื่อนที่เคยรักเดียวใจเดียวจะเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ ศิลาในวันนี้ดูเป็นคนละคนกับศิลาที่พวกเขาเคยรู้จักอย่างสิ้นเชิง
“แล้วแต่นายเลยนะแต่ถ้านายเหงาเมื่อไหร่ก็บอก ฉันจะพาไปหาผู้หญิงดีๆ ให้” จิรกิตต์บอก
“ไม่ต้องหรอกน่า ฉันมีวิธีจัดการความเหงาของตัวเอง”
ศิลาและเพื่อนๆ ยังคงนั่งดื่มและพูดคุยกันต่อไป แต่ในใจของศิลามีแต่ความว่างเปล่า ความเชื่อในความรักของเขาได้หายไปตั้งแต่ภรรยามีชู้เหลือไว้เพียงความเย็นชาและหัวใจที่ปิดตาย
ท่ามกลางแสงสีและเสียงที่ดังกระหึ่มในผับ ศิลามองไปยังผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังเต้นอยู่บนฟลอร์ เธอดูเซ็กซี่และยั่วยวนแต่ก็ยังไม่ใช่ในแบบที่เขาต้องการ เขาจิบเหล้าในแก้วอย่างช้าๆ พลางคิดในใจว่าคืนนี้จะต้องมีใครสักคนที่ถูกใจและพากลบไปสนุกด้วยกันในโรงแรมใกล้ๆ เขาไม่คิดจะพาใครไปที่บ้านเพราะที่นั่นมันจะเป็นที่ส่วนตัว ผู้หญิงที่เขานอนด้วยต้องไม่รู้ว่าเขาคือใคร พักอยู่ที่ไหนทุกอย่างจะจบบนเตียงในห้องของโรงแรมเท่านั้น