ตั้งใจอย่างเต็มที่

1184 Words
ตอนที่ 2 ตั้งใจอย่างเต็มที่ “ไปไหนมาเหรอปัณ” ปณาลีหรือยี่ว่าหญิงสาววัย 24 ปีถามน้องชายที่เดินเข้ามาในห้องรับแขกขณะที่เธอกำลังตรวจเอกสารของลูกค้าประกันคนใหม่ที่เธอเพิ่งขายได้เมื่อเย็นวันศุกร์ ใบหน้าสวยหวานของเธอดูจริงจังขณะก้มหน้าก้มตาอ่านรายละเอียดในเอกสารอย่างถี่ถ้วน หญิงสาวทำงานเป็นพนักงานธนาคาร แต่มีอาชีพเสริมเป็นตัวแทนขายประกันชีวิตโดยใช้เวลาช่วงเย็นและวันหยุดในการติดต่อกับลูกค้า เธอทุ่มเททำงานหนักเพื่อหาเงินมาดูแลตัวเองและน้องชายให้มีชีวิตที่ดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ “ผมไปทักทายเพื่อนบ้านคนใหม่มากครับพี่ยี่หวา” “เขาย้ายเข้ามาแล้วเหรอ เป็นไงล่ะเขาคุยด้วยมั้ย” “คุยครับเขาท่าทางใจดีมากเลยนะ ผมก็เลยชวนเขามากินข้าวที่บ้านเรา พี่ไม่ว่าอะไรใช่ไหม ผมอยากเลี้ยงต้อนรับเพื่อนบ้านคนใหม่” ปณวัฒน์ถามเสียงเบาเพราะกลัวจะถูกดุเนื่องจากไม่ถามก่อนว่าพี่สาวสะดวกไหม “พี่ไม่ว่าอะไรหรอกเพื่อนบ้านกันก็ต้องรู้จักกันไว้ ว่าแต่เขาจะมากันกี่คนล่ะปัณพี่จะได้เตรียมอาหารถูก” “เขามาคนเดียวครับมั้งครับ” ปณวัฒน์ตอบอย่างไม่แน่ใจนักพลางเกาหัวแกรกๆ “อ้าว....ตกลงยังไงกันแน่ ปัณเห็นเขาอยู่กันกี่คนล่ะ” “ผมเห็นแค่คนเดียวครับถ้ามีคนอื่นเขาน่าจะบอกผมแล้วนะครับ” “เขาชื่ออะไรอายุประมาณเท่าไหร่” ปณาลีรัวคำถามด้วยความอยากรู้ในตัวเพื่อนบ้านคนใหม่ เธอหวังว่าเขาจะเป็นคนดีและไม่สร้างปัญหาให้เธอและน้องชาย “ชื่ออาศิลาครับแต่ไม่รู้อายุเท่าไหร่ เอาไว้เขามาที่นี่พี่ยี่หวาก็ถามเขาเองก็แล้วกันนะครับ พี่จะทำอะไรต้อนรับเพื่อนบ้านคนใหม่บ้างล่ะ” “ก็ทำอาหารธรรมดาละมั้ง ปัณได้ถามเขาหรือเปล่าล่ะว่าเขาอยากกินอะไร” “ผมไม่ได้ถามครับ แต่ผมคิดว่าพี่ทำอะไรก็อร่อยแต่ทำเยอะหน่อยๆ ก็ดีนะครับเขาค่อนข้างตัวโตเลยล่ะน่าจะกินเยอะอยู่” “เดี๋ยวพี่จะจัดการให้นะ แน่ใจใช่ไหมว่าเขาจะมากินข้าวที่บ้านเราจริงๆ ไม่ใช่บอกให้พี่ทำอาหารเยอะๆ แล้วสุดท้ายเราก็กินแค่สองคนนะ” “แน่นอนครับผมชวนแล้วอาศิลาเขาก็รับปาก” “ไปเจอกับเขาแค่ไม่กี่นาทีเรียกสนิทสนมเชียวนะ” “ก็เขาเป็นผู้ชายเหมือนผมนี่พี่ มีเพื่อนบ้านเป็นผู้ชายผมคงหายเหงาไปเยอะ” “เราจะเหงาอะไรล่ะปัณ อีกไม่กี่อาทิตย์ก็ต้องไปอยู่หอแล้ว พี่น่ะสิจะต้องเหงาอยู่คนเดียว” ปณาลีบอกด้วยน้ำเสียงเจือความน้อยใจเล็กน้อย ใบหน้าสวยหวานของเธอหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด “จริงสิผมลืมนึกเรื่องนี้ไปเลย พี่ยี่หวาต้องผูกมิตรกับอาศิลาไว้นะครับจะได้ไม่เหงา” “ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นแหละ เราไปอยู่หอแล้วนี่ เพื่อนบ้านอีกข้างก็ไม่ค่อยจะกลับมาด้วย พี่หวังว่าเพื่อนบ้านคนใหม่ของเราคนนี้คงจะอยู่บ้านบ่อยๆ นะ เขาทำงานอะไรเหรอ” “ผมไม่ได้ถามเลยว่าอาศิลาเขาทำงานอะไรเอาไว้เย็นนี้เขามาแล้วค่อยคุยกันดีกว่า ผมขอตัวไปเล่นเกมก่อนนะ” “จะเปิดเทอมแล้วยังจะเล่นเกมอีกเหรอ” “ก็เพราะตอนนี้ยังปิดเทอมอยู่ไงล่ะครับพี่ ผมเลยต้องเล่นเกม ว่าแต่คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ของผมเมื่อไหร่พี่จะซื้อให้” เขาคุยเรื่องนี้กับพี่สาวหลายครั้งแล้วแต่ก็ยังไม่ได้ซื้อสักทีและเขาต้องเอาคอมพิวเตอร์ไปใช้ที่หอ “เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่า ยังไงพี่ก็ซื้อให้ บอกพี่มาก็แล้วกันว่าอยากได้อะไรยังไงบ้าง พี่จะให้พี่นนท์เขาช่วยดูให้ว่าโอเคหรือเปล่า” “ได้ครับเดี๋ยวผมจะจัดสเปกให้นะ ฝากให้พี่นนท์ดูด้วยว่าพอจะทำได้ไหม แต่อันที่จริงผมว่าไม่ต้องรบกวนพี่นนท์ก็ได้นะ พี่นนท์ก็ทำงานด้านการเงินเหมือนพี่นั่นแหละคงไม่รู้เรื่องคอมพิวเตอร์เท่าไหร่” “แต่อย่างน้อยเขาก็เป็นผู้ชายคงพอรู้เรื่องบ้าง” ปณาลีพยายามแย้งด้วยเหตุผล “เดี๋ยวผมลองถามอาศิลาดูดีกว่าว่าพอจะมีความรู้เรื่องนี้ไหม” “นี่เราเพิ่งรู้จักเขาแค่แป๊บเดียวเองอย่าเพิ่งไปรบกวนเขาเลย” “ก็ลองถามดูก่อนก็ได้นี่พี่ ถ้าคุยกันรู้เรื่องก็โอเคอยู่แต่ถ้าเขาไม่รู้เรื่องผมก็จะไม่เซ้าซี้ถามต่อ ผมไปล่ะแล้วเจอกันเย็นนี้นะ ให้ผมมาช่วยทำกับข้าวเย็นไหม” “ไม่เป็นไรแค่นี้พี่จัดการเองได้” เมื่อน้องชายเข้าไปในห้องแล้ว ปณาลีก็เปิดตู้เย็นเพื่อดูของสดสำหรับทำอาหารเพื่อนต้อนรับเพื่อนบ้านคนใหม่ มีของหลายอย่างที่เหลือน้อย เธอเห็นว่ายังพอมีเวลาเลยเปลี่ยนชุดแล้วขับรถออกไปยังซูเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ใกล้ๆ เพราะถ้าไปตลาดตอนนี้พ่อค้าแม่ค้าก็กลับไปหมดแล้ว หญิงสาวเดินซื้อของสดในซูเปอร์มาร์เก็ตไม่นานก็ขับรถกลับ เมื่อขับรถผ่านร้านขนมชื่อดังที่หน้าหมู่บ้าน หญิงสาวก็คิดว่านอกจากอาหารคาวแล้วน่าจะมีของหวานเพิ่มด้วยเพื่อต้อนรับแขกคนสำคัญ เธอจอดรถและเดินตรงเข้าไปในร้านขนมที่ตกแต่งอย่างน่ารัก เธอเปิดประตูร้านและเดินสวนทางกับผู้ชายร่างสูงคนหนึ่งที่กำลังจะเดินออกมา ชายหนุ่มเปิดประตูค้างไว้ให้เธอและยิ้มให้เล็กน้อย ปณาลียิ้มขอบคุณก่อนจะเดินเข้าไปในร้าน “สวัสดียี่หวาวันนี้ทิรามิสุหมดแล้วนะ ผู้ชายคนเมื่อกี้เพิ่งซื้อไปเอง” เจ้าของร้านทักทายเธอด้วยรอยยิ้มอย่างคุ้นเคย เธอจำได้ว่าลูกค้าคนไหนชอบซื้ออะไรเป็นประจำ “น่าเสียดายจังว่าจะซื่อไปต้อนรับเพื่อนบ้านคนใหม่สักหน่อย” ปณาลีบ่นอย่างเสียดาย “รับอย่างอื่นไหม” เจ้าของร้านเสนอ “เอาช็อกฯหน้านิ่มกับนิวยอร์กชีสเค้กและชีสเค้กคาราเมลอัลมอนด์มาอย่างละหนึ่งก็แล้วกันนะ” “แล้วเอากาแฟด้วยไหม” “ไม่ดีกว่าบ่ายมากแล้วกลัวจะนอนไม่หลับ” ปณาลีออกจากร้านขนมแล้วก็ตรงกลับบ้านทันที เธอเข้าครัวเพื่อลงมือทำอาหารเย็นสำหรับมื้อพิเศษที่จะถึงในอีกสองชั่วโมงข้างหน้า หญิงสาวหยิบส่วนผสมออกมาจากตู้เย็นอย่างคล่องแคล่วและเริ่มลงมือทำอาหารด้วยความตั้งใจ เธอหวังว่าอาหารมื้อนี้จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับเพื่อนบ้านคนใหม่และทำให้เธอไม่เหงาจนเกินไปนักเมื่อน้องชายย้ายไปอยู่หอแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD