@ >> โรงพยาบาล
บรรยากาศในห้องตรวจเด็กของโรงพยาบาลอบอวลไปด้วยความอบอุ่นและเสียงหัวเราะเบาๆ แสงแดดอ่อนๆ จากหน้าต่างทาบผ่านม่านสีขาวสะอาดสะอ้าน ส่องกระทบใบหน้าขาวอมชมพูของเด็กหญิงตัวน้อยที่นั่งแกว่งขาอยู่บนเตียงตรวจ ใบหน้ากลมใสยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับอย่างตื่นเต้นและไว้ใจ คุณหมอหญิงสวมเสื้อกาวน์สีขาว ย่อตัวลงให้อยู่ในระดับเดียวกันกับคนไข้ตัวเล็ก เธอยิ้มละมุน น้ำเสียงนุ่มนวลเจือความเอ็นดู
"ทานยาให้ตรงเวลาทุกครั้งด้วยนะคะ นางฟ้าจะได้หายเร็วๆ :)
"ค่ะคุณหมอ..นางฟ้าเชื่อฟังคุณหมอค่ะ :) : เด็กหญิงพยักหน้ารับ ดวงตากลมโตส่องประกายซุกซนแต่เชื่อฟัง ใบหน้าน้อยๆ ผงกขึ้นอย่างกระตือรือร้น ริมฝีปากเล็กยิ้มหวานก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงสดใส
"เก่งมากค่ะ...งั้นคุณหมอให้สติ้กเกอร์เจ้าหญิงหนึ่งอัน เป็นรางวัลของคนเก่งนะคะ : เสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นจากคุณหมอ เธอลูบศีรษะนุ่มนิ่มของเด็กหญิงเบาๆ พลางหยิบสติ้กเกอร์สีสันสดใสจากลิ้นชักข้างเตียงออกมา แววตาของเธอเปี่ยมด้วยความเอ็นดูเหมือนผู้เป็นแม่ที่กำลังปลอบ
"เย้ๆๆๆ ขอบคุณค่ะ :) เจ้าหญิง นางฟ้าชอบเจ้าหญิง..: ทันทีที่ได้ยิน เด็กหญิงยิ้มกว้าง ดวงตาลุกวาวด้วยความดีใจ มือเล็กๆ ยกขึ้นตีเบาๆ อย่างตื่นเต้น พร้อมเสียงอุทานที่แสดงถึงความปลื้มปริ่มสุดขีด เธอรับสติ้กเกอร์มาแนบอกแน่น ใบหน้ายิ้มละไมจนแก้มป่อง บรรยากาศในห้องเหมือนหยุดนิ่งด้วยความสุขเล็กๆ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนของมิตรภาพระหว่างหมอกับคนไข้ตัวน้อยอย่างน่าประทับใจ
อิงฟ้า คุณหมอประจำแผนกจิตเวช ลูกสาวคนโตของนายแพทย์วิศรุต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพ้วงด้วยตำแหน่งเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่มีชื่อเสียงเรื่องการรักษาพยาบาลที่ดีที่สุด บุคลากรทางการแพทย์ระดับหัวกะทิ การันตีด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง คุณหมออิงฟ้า แพทย์สาวจบใหม่ที่เข้าทำงานได้ราวหนึ่งปี เธอเป็นคนจริงจังกับทุกเรื่อง นิสัยติดนิ่งๆเย็นชาเป็นบางครั้ง แต่ไม่ถึงกับเก็บตัว เป็นคนอัธยาศัยดีเข้ากับคนได้ง่าย เป็นที่รักของทุกคน
"อาการน้องดีขึ้นมากเลยนะคะตั้งแต่ย้ายมารักษากับคุณหมอ ดิฉันต้องขอขอบคุณคุณหมอมากๆที่เอาใจใส่ลูกสาวดิฉันเป็นอย่างดี
"หมอยินดีค่ะ...ยังไงคุณน้าก็ต้องคอยกำชับเรื่องการทานยาของน้องด้วยนะคะ พูดคุยกับน้องบ่อยๆ ถึงอาการจะดีขึ้นมากแต่ก็ไม่ควรชะล่าใจ
"ค่ะ งั้นดิฉันขอตัวก่อนนะคะ
".....ค่ะ :)
คุณหมอคนสวยยิ้มตอบ เมื่อคนไข้คนสุดท้ายเดินพ้นออกจากห้องตรวจ เธอถอนหายใจพร้อมกับพ่นลมเบาๆออกจากปาก ทิ้งตัวเอนหลังลงไปบนพนักพิง หลับตาลงช้าๆราวกับว่ากำลังปลดปล่อยตัวเองให้ร่างกายที่เหนื่อยล้าจากการทำงานได้หยุดพัก
"อิง....ออกเวรยัง...ไปทานชาบูกัน
ปลายฝน หรือหมอปลาย เพื่อนสนิทของอิงฟ้าเดินเข้ามาพร้อมกับเอ่ยปากชวน เหนื่อยมาทั้งวันออกเวรทั้งทีต้องหาอะไรกินกันสักหน่อย
"ชาบูอีกแล้วเหรอ...พึ่งจะกินไปเมื่อวานเอง
"หิวอ่ะ ... ไปกันนะ..นะ..นะ..นะ เค้าหิวแย้ว :) : หมอปลายเข้าไปอ้อน กะพริบตาปริบๆ สองมือบีบนวดไหล่เล็ก ก่อนจะทำหน้าอ้อน ทำแบบนี้ตลอดแหละเพราะรู้ดีอิงฟ้ามันแพ้คนขี้อ้อน
"ก็ได้....แต่มึงเลี้ยงนะ...
"โอเค..ได้เลย...เพื่อนคนเดียวกูเลี้ยงได้สบายอยู่แล้ว ถึงแม้ว่ามึงจะรวยมากๆก็เฮ่อะ..
"หึ....แบบนี้ทุกที พูดเหมือนตัวเองจน
"ก็จนกว่ามึงอ่ะ ไปเปลี่ยนชุดเร็ว...กูหิวจนจะกินวัวได้ทั้งตัวอยู่แล้วเนี่ย
"ค่า..รอแป๊ป..
อิงฟ้าเดินเข้าไปในห้องพักส่วนตัวที่อยู่ในห้องตรวจ ถอดเสื้อกาวน์สีขาวออก สายตาพรางจ้องมองไปที่กระจกใส..ร่องรอยช้ำที่อยู่ตามร่างกายยังคงเด่นชัด สามวันแล้วนะ สามวันแล้วทำไมมันยังไม่จางลงอีก เด็กคนนั้นทำรอยไว้ไม่เว้นแม้แต่บริเวณหัวไหล่ รามลงมายังต้นแขน นึกแล้วก็อยากด่าตัวเอง ไม่รู้จะเมาอะไรขนาดนั้น เมามากจนเผลอไปนอนกับใครที่ไหนก็ไม่รู้ เพราะความเสียใจที่ถูกทิ้ง ถึงได้ใจกล้าหน้าด้าน ยอมเสียความบริสุทธิ์ให้กับคนแปลกหน้า ตื่นมาถึงได้รู้ว่าเขาที่เธอนอนด้วยเป็นแค่เด็กมหาลัย เพราะเหลือบไปเห็นรูปหน้าจอมือถือ ตอนที่มีข้อความแจ้งเตือน ถึงได้รู้ว่าเด็กคนนี้เรียนวิศวะมหาวิทยาลัยเดียวกันกับน้องชายของเพื่อนเธอ มองเกียร์ที่เผลอคว้ามาด้วยตอนเก็บของใส่กระเป๋า ตอนนั้นมันรีบมาก กลัวเด็กคนนั้นจะตื่นขึ้นมาเห็น..เธอเลยรีบคว้าทุกอย่างใส่กระเป๋า ไม่ทันได้สังเกตดูให้ดี มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่กลับมาถึงคอนโด นึกว่าหยิบเอากุญแจห้อง ที่ไหนได้หยิบเกียร์เขามาซะงั้น จะเอากลับไปคืนก็กลัวเด็กมันจะรู้ เลยอยู่เฉยๆ แบบนี้ไปเลยจะดีกว่า
"เฮ้อ...
ถอนหายใจพรืดให้กับความโง่ของตัวเอง มองดูร่องรอยที่อยู่ตามเรือนร่างก่อนจะหยิบเอาเสื้อคลุมแขนยาวสีชมพูขึ้นมาสวมใส่ ปกปิดร่องรอยเอาไว้ไม่ให้ใครเห็น
@ห้างสรรพสินค้า >> ร้านชาบู
"นึกยังไงถึงพากูมาเลี้ยงชาบู : ภูผา
"เปลี่ยนบรรยากาศ เข้าแต่ผับทุกวันกูก็เบื่อเป็นน่ะเว้ย : กระทิง
"อืม..พักตับบ้าง...กูว่าช่วงนี้ตับกูทำงานหนักเกินไปแล้ว มึงแม่ง..ชวนดื่มทุกคืน ไม่ไหวว่ะ : ศิลา
"ทำหน้าเครียดไปได้ มึงยังไม่ลดละความพยายามอีกเหรอวะ ไม่เจอแล้วมั้ง : กระทิง
"เฮ้อ !!
"ถอนหายใจแรงแบบนี้อีกแล้ว ... กูว่ามึงจริงจังเกินไปนะเพื่อน ผ่อนคลายหน่อยดิวะ ไปกินของอร่อยๆ เผื่ออารมณ์จะดีขึ้น : กระทิง
"เออๆ..กินก็กิน..ก็ดีเหมือนกัน ไม่ได้กินมานานแล้ว
ในระหว่างที่สามหนุ่มนั่งกินชาบูพรางพูดคุยกันไปตามประสา สองสาวสวยเดินเข้ามาก่อนจะสะดุดตาเสือร้ายอย่างกระทิง..
"สองที่ค่ะ : แจ้งพนักงานก่อนจะเดินไปนั่งที่ โดยไม่ทันสังเกตว่ามีใครกำลังจ้องมองอยู่
"เชี้ย ! โคตรสวย : กระทิงส่งสัญญาณให้เพื่อนหันไปมองเหยื่อรายใหม่ที่กำลังเข้าตา
"........ไม่มีผู้หญิงคนไหน ไม่สวยในสายตามึง เห็นจะมีก็แต่น้องชมพู : ตอบอย่างไม่ค่อยจะสนใจเพราะอารมณ์ตอนนี้มันออกจะหงุดหงิดเกินกว่าจะสนใจสิ่งแวดล้อมรอบข้าง
"สวยจริงๆ โว้ย ไม่เชื่อมึงหันไปดู : กระทิง
ศิลาหันไปมองสองสาวสวยผู้มาใหม่ ในขณะที่ภูผาไม่สน..ไม่มองใครหน้าไหนทั้งนั้น
"อืม..สวย... : ศิลาตอบเห็นด้วยกับกระทิง เธอสวยจริง สวยแพ็คคู่..ความสวยกินกันไม่ลง คนไหนก็ได้..ถ้าได้เอาหมด..
"ไม่สนใจจริงดิ : กระทิงหันไปถามภูผาอีกครั้ง แต่คนขี้หงุดหงิดยังคงไม่สนใจ หน้าบูดหน้าบึ้งกินชาบูต่อ
สองสาวสวยนั่งลงบนโต๊ะที่อยู่ตัวถัดมา มีพนักพิงกั้นเอาไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว
"เต็มที่เลยนะ...มื้อนี้เจ้ปลายเลี้ยงเอง :)
"ค่าาาา...ขอบคุณค่ะเจ้ :)
แค่คำว่าค่าของเธอทำเอาอีกคนที่กำลังกินชาบูหน้าบูดหน้าบึ้งถึงกับหยุดชะงัก ตั้งใจฟังเสียงหวานที่คลับคล้ายคับคาอีกครั้ง หยุดฟังอยู่นานจนเพื่อนถึงกับทัก
"อะไรวะ ? หยุดทำไมอ่ะ : กระทิงถามเพราะเห็นภูผานิ่งไปก่อนที่เพื่อนรักจะส่ายหน้าปฏิเสธอย่างเซ็งๆ
"อ๊ะ..บะ..เบาหน่อย... : เสียงหวานดังขึ้นอีกครั้ง เพราะปลายฝนทำน้ำชุบร้อนกระเด็นมาโดนแขน ทำอีกคนหูผึ่ง ชัดเลย..เป็นเธอแน่ๆ...เสียงหวานคุ้นหูแบบนี้ เธอคนนั้นแน่นอน...
"ฟรึ้บ !!!
"เชี้ย !!! จะลุกไปไหนวะ : กระทิง
"ไอ้ภู... : ศิลาเองได้แต่มองตามคนที่ลุกพรวดพราดขึ้นไม่ให้สุ้มให้เสียง..เดินไปหยุดจ้องมองผู้หญิงสองคนที่นั่งโต๊ะฝั่งตรงข้าม
"เธอ !!!!!!
"นาย !!!!